บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ นิยาย บท 196

บทที่ 196 พวกเจ้าอย่ามาเสียใจในภายหลัง

ทุกภาพเหตุการณ์ในเขาวงกต ล้วนปรากฏในกระจกน้ำ ถูฉีเอียงคอเล็กน้อย สั่งทั้งสองคนว่า “อู๋ซ่าน กู่ซง รวบรวมรายชื่อ”

“ขอรับ”

ถ้าหากตายภายในเขาวงกต ก็คือการตายที่แท้จริง รายชื่อของพวกเขาจะถูกตัดออก เหลือเพียงรายชื่อของผู้รอดชีวิตไม่กี่คนที่จะมาเป็นศิษย์ของอู๋อจงอย่างเป็นทางการ

กู่ซงขีดฆ่าชื่อของคนที่เพิ่งตายไปเมื่อสักครู่ เขาขยิบตาทะเล้น พูดกับถูฉีด้วยรอยยิ้มเบิกบาน “ท่านปู่ถูฉี ท่านดูสิจูนจิ่วเก่งมากใช่หรือไม่ แถมยังเฉลียวฉลาดมากด้วย นางไม่ถูกปลาฉนากหลอกเอา”

ถูฉีใช้มือลูบหนวดเคราสีขาว พร้อมพยักหน้าชื่นชม “จูนจิ่วคนนี้ไม่เลวจริง”

เขารู้ความหมายในใจลึกๆของกู่ซงดี เหลือบมองกู่ซง แล้วหัวเราะว่า “ทว่านางจะสามารถได้รับดอกตงเตียหรือไม่ นางจะเข้าสำนักไหน ยังต้องดูการเลือกของคนข้างบน”

“ข้างบน” กู่ซงตกตะลึง

อู๋ซานที่เห็นเช่นนั้น ยกคิ้วยิ้มร้ายพุ่งมาทางเขา อู๋ซานพูดว่า “กู่ซง เจ้าคงไม่ได้ลืมเหล่าผู้อาวุโสของอู๋อจงหรอก เจ้าสำนักทั้งหลายนั่งอยู่บนวิหารใหญ่บนยอดเขา ที่นั่นมีกระจกน้ำถึงสองบาน เห็นชัดยิ่งกว่าพวกข้าเสียอีก ”

“ข้ารู้” กู่ซงขมวดคิ้วแน่น สิ่งที่เขาคิดคือ คนข้างบนเหล่านั้นมีความคิดเห็นกระไรต่อจูนจิ่ว?

ตั้งแต่ทางเข้ากลไกลับ มาถึงการสยบเหยียนไห่ และมาถึงริมทะเลสาบ ทุกคนเฝ้าดูแต่จูนจิ่ว แต่ละคนแพ้ราบคาบโมโหถลึงตาใส่ สุดท้ายก็ต้องยอมจำนน มีเพียงชิงหยู่ที่หัวเราะฮ่าๆๆเสียงดัง นั่งห้อยขาอยู่บนที่บนนั่ง กิริยาท่าทางทำตามอำเภอใจยิ่งนัก

ชิงหยู่เงยหน้าเหลือบมองไปที่ทุกคน ฉีกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ “ทุกท่าน กล้าได้ต้องกล้าเสีย อย่าลืมส่งของที่แพ้มาให้ข้าด้วย ข้าไม่อยากไล่ตามทวงขอจากพวกเจ้า หากมีคนอื่นเห็นเข้า พวกท่านคงเสียหน้าแย่เลยใช่หรือไม่? ”

“เจ้า” ท่านชิงโกรธจนหน้าแดง

เจ้าสำนักตันจงมองไปทางเหอซ่านด้วยสีหน้าคร่ำเครียด “ท่านเหอ ท่านก็เป็นคนควบคุมสำนักเทียนอู่จงสั่งสอนเขาหน่อยไม่ได้หรือ?”

“เขาเป็นถึงเจ้าสำนัก ข้าสั่งสอนไม่ได้” เหอซ่านไม่ต่อคำพูดของเจ้าสำนักตันจงหรอก ถึงแม้เขาจะเอ็นดูคนเหล่านี้ที่แพ้จนจะหมดตูดแล้ว ทว่าพวกเขาอยากพนันเองนิ ไม่ได้มีใครบีบบังคับให้พวกเขาเล่นสักหน่อย

เวลานี้ ผู้อาวุโสจากสำนักหุ้นหยวนท่านหนึ่งพูดขึ้นว่า “พวกท่านดูสิ มู่หรงหนันจีนกับจูนหยูนเสวี่ยกำลังนินทาจูนจิ่วอยู่”

ทุกคนเงยหน้ามองดูตามๆกัน เห็นในกระจกน้ำอีกบานหนึ่ง เลือกภาพเหตุการณ์ของจูนหยูนเสวี่ยพวกเขาออกมา ถึงแม้ไม่ได้ยินเสียง แต่ผู้อาวุโสสำนักหุ้นหยวนท่านนั้น เชี่ยวชาญด้านภาษาปาก จึงอ่านบทสนทนาออกมา ฟังไปฟังมา สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนไป

เจ้าสำนักตันจงกลั้นความโกรธไว้ สีหน้าอึมครึม “จูนจิ่วเป็นคนที่โหดเหี้ยมถึงเพียงนี้เชียวหรือ”

“จิตใจอำมหิตโหดร้าย แม้แต่คนในบ้านยังลงมือฆ่าได้ เหลือเพียงจูนหยูนเสวี่ยตนเดียว นางเป็นตัวซวย มิน่าล่ะก่อนหน้านั้นถึงผ่านด่านกลไกลับได้อย่างง่ายดาย ไร้ซึ่งอารมณ์ความรู้สึกนี่เอง แน่นอนว่าต้องไม่กลัวและกล้าฝ่าด่านอยู่แล้ว” ท่านชิงพูด

“จูนจิ่วโหดเหี้ยมเช่นนี้ คว้าสิทธิ์ลูกศิษย์ดีเด่นได้กระไรกัน เจ้าสำนักตันจง ศิษย์รักของท่านยังอยากจะให้ท่านรับนางเป็นลูกศิษย์ด้วยแหละ” ผู้อาวุโสสำนักเจี้ยนจงท่านหนึ่งเอ่ยปากพูด โดยพูดจาเหน็บแนมเจ้าสำนักตันจงหนึ่งประโยค

เมิ่งจื้อหยวนเจ้าสำนักตันจงทำเสียงฮื้มใส่ “หญิงผู้นี้ สำนักตันจงข้าไม่รับไว้แน่นอน ต่อให้นางจะเก่งกาจวิชาการกลั่นยามากเพียงใด จิตใจอำมหิตเช่นนี้นับเป็นตัวซวย มีแต่จะทำลายวัฒนธรรมความผาสุกของสำนักตันจง”

“สำนักเจี้ยนจงก็ไม่เอาเช่นกัน รองเจ้าสำนักเจ้าว่าถูกต้องหรือไม่?” ผู้อาวุโสสำนักเจี้ยนจงเงยหน้ามองไปทางโจ่ฉี

โจ่ฉีเหลือบมองเหอซ่าน ไม่เห็นการตอบสนองใดบนใบหน้า เขานิ่งไปครู่หนึ่ง แล้วพูดว่า “จูนจิ่วจะเป็นกระไร จะมาฟังความข้างเดียวของจูนหยูนเสวี่ยไม่ได้ หากทุกท่านมีข้อสงสัยอันใด สู้ไปตรวจสอบหาความจริงที่แคว้นเทียนโจ้งจะดีเสียกว่า”

คนถูกจูนจิ่วชกต่อยจนหน้าบวมตาช้ำ แม้แต่พ่อแม่ยังจำหน้าไม่ได้เลย เขาทั้งเจ็บทั้งกลัว สั่นเทาไปทั้งตัวเอ่ยปากพูดกับจูนจิ่วว่า “ดอกตงเตียไม่อยู่บนฟ้า ”

จูนจิ่ว “…… เจ้าคิดว่าข้าหลอกง่ายขนาดนั้นเลยหรือ??”

“ไม่ๆๆๆ ข้าไม่ได้โกหกเจ้า เบาะแสที่ข้าได้คืออันนี้จริงๆ อย่าฆ่าข้าเลย” ชายฉกรรจ์ร่างสูงใหญ่คนหนึ่ง กลับถูกจูนจิ่วเหยียบอยู่ใต้ฝ่าเท้า ซึ่งกลัวจนน้ำหูน้ำตาไหลออกมา จูนจิ่วนึกรังเกียจพร้อมขมวดคิ้วเข้าหากัน

สายตาของนางอึมครึมเยือกเย็น กำลังครุ่นคิด ท่านถูฉีเคยพูดว่า สี่หนึ่งของสิบประเทศจะได้รับเบาะแสหนึ่งอัน แต่ดูจากตอนนี้ มีเบาะแสบางอันที่มีประโยชน์อย่างเช่นของเหยียนไห่ แต่กลับมีเบาะแสบางอันที่ทำให้เสียเวลาเปล่า

เมื่อเห็นสีหน้าที่ไร้ความปรานีเยือกเย็นของจูนจิ่ว ชายผู้นั้นสั่นหนักยิ่งกว่าเดิม เขาพูดด้วยความเกรงกลัว “อย่าฆ่าข้าเลย ข้าจะบอกที่อยู่ของสมาชิกทีของเจ้าให้ ”

“สมาชิกทีม? คือหยูนเฉียว” จูนเสี่ยวเหล่ยรู้สึกตัวทันที

ชายผู้นั้นไม่รู้หรอกว่าใช่หยูนเฉียวหรือเปล่า แต่เขาพยักหน้าหนักหน่วง กลัวว่าจูนจิ่วจะฆ่าเขา เขาพูดว่า “เป็นผู้ชายคนที่อยู่บนเวทีอู๋อจงกับพวกเจ้า พวกข้าเห็นเขาโดนตามฆ่า และหนีไปทางทิศใต้ ”

“ใช่ๆๆ เป็นเขาเอง” คนของแคว้นฉีโฉงหวาดกลัวจนพยักหน้าตอบรับอย่างรีบเร่ง

หยูนเฉียวถูกตามฆ่า จูนจิ่วขมวดคิ้วแน่น นางมองผู้ชายคนนั้นด้วยสายตาเยือกเย็น “เห็นว่าใครเป็นคนตามฆ่าเขาหรือ?”

“ผู้หญิงที่ถูกเจ้าบีบคอคนนั้น เหมือนจะชื่อว่า ชื่อว่าจูน จูนกระไรแล้ว ”

“จูนหยูนเสวี่ย” จูนเสี่ยวเหล่นเอ่ยชื่อออกมา พวกเขารีบพยักหน้าตอบรับ คือนางเองที่กำลังตามฆ่าหยูนเฉียว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ