บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ นิยาย บท 251

บทที่ 251 เพชฌฆาตหงยิง

ระหว่างมุ่งหน้าสู่เขตลับเทียนอู่ ฝ่ามือผางชิงเยว่ประกบโลหิตสดที่พุ่งกระเซ็นออกมา เขาคลายมือออก ซากศพของนกถึงสามารถร่วงลงจากมือลงสู่พื้น หยิบผ้าผูกคอออกมาเช็ดนิ้วมือ ผางชิงเยว่เอ่ยปาก “เจ้านกพวกนี้ไม่ชอบมาพากล ไม่ว่าเห็นนกตัวไหนจงวิสามัญฆาตกรรมเสีย”

“ขอรับ!” ฝูงชนรับบัญชาด้วยความเคารพ

แรกเริ่มเดิมทีไม่ได้สังเกต แต่รอบบริเวณมักมีนกบินฉวัดเฉวียนไปมาอยู่เสมอ ด้วยประการนี้ผางชิงเยว่จึงสั่งบัญชาให้สังหารนกทั้งหมด เขาเงยหน้าขึ้นมองไปที่ศูนย์กลางของเขตลับเทียนอู่ “ปิดล้อมเขตลับเทียนอู่ บัญชาออกไปว่าด้านนอกลงมือได้”

ออกบัญชาหนึ่งหน แพร่กระจายไปยังสำนักเทียนอู่จงทั้งเบื้องบนและเบื้องล่าง

ชายชุดคลุมสีดำไม่ได้ พวกเขาใช้ความเร็วที่น่ากลัว การเคลื่อนไหวดั่งภูตผีปีศาจควบคุมลานฝึกยุทธ์เฉียนคุน ไม่ว่าผู้ใดขัดขืน ฆ่าทิ้งเสียตรงนั้น!

ท่านชิงซางไห่จงเกรี้ยวกราด “พวกเจ้าเป็นใครกัน ถึงขั้นกล้าก่อเรื่องในการแข่งขันทั้งห้าสำนัก นี่พวกเจ้าสร้างศัตรูกับสำนักทั้งห้าอยู่เชียว!”

“ฮ่าๆ” เสียงหัวเราะอันเย้ายวนของหญิงสาวดังลอยมา ตามมาด้วยแส้ยาวหวดกลางอากาศพันรอบคอของท่านชิงเอาไว้...ชัดช้า...แกร็ก! แส้ยาวตรงดิ่งม้วนเข้าที่ลำคอของท่านชิงอย่างโหดเหี้ยม บิดส่วนหัวลงมาเสียงดังชัดช้าพร้อมเลือดสดๆ กระเซ็นคลุ้งกลิ่นคาวเลือด

นั่นเป็นถึงท่านชิงแห่งซางไห่จงเชียว! ยังไม่ทันโต้ตอบก็ถูกฆ่าเสียแล้ว ทั่วลานต่างเงียบกริบ ในดวงตาของฝูงชนฉายแววสะพรึงกลัว

ใครกัน?

เห็นเพียงแต่แส้ยาวหดกลับ หญิงสาวผู้เย้ายวนในชุดกระโปรงผ้ามุ้งสีน้ำเชื่อมแดงตัวเดียวสาวเท้าเดินออกมา ผ้ามุ้งสีแดงโปร่งใสพันรอบสามจุด ส่วนอื่นๆ ปรากฏวับๆ แวมๆ เย้ายวนผู้คนให้ร้อนรุ่ม ปลายเท้าหยกเปลือยคู่หนึ่งของนางเดินมาฉับๆ ปลายนิ้วปาดเช็ดโลหิตสดบนแส้ยาวอย่างแช่มช้า ดูท่ายังติดใจยิ่งยัก

หรี่นัยน์ตาปักษาเพลิงแดงลงน้อยๆ หญิงสาวมองสำรวจรอบทิศแล้วกล่าวว่า “เทียนฉิวปฏิบัติหน้าที่ ไม่อยากตายจงหุบปากยืนอยู่กับที่แต่โดยดี ใครขยับแม้แต่นิดเดียวฆ่ามันเสีย”

พรึ่บ!

ผู้อื่นไม่รู้จักเทียนฉิว แต่สำนักทั้งห้าต้องรู้อยู่แล้ว พวกเขาตกอกตกใจหาใดเปรียบ ไฉนจู่ๆ เทียนฉิวถึงได้มาที่สำนักเทียนอู่จง พวกเขาคิดจะทำอะไร!

“หงยิง” เรียวคิ้วชิงหยู่ขมวดมุ่น มองหญิงสาวด้วยสีหน้าเหยเกเป็นที่สุด เขาคิดไม่ถึงเลย ไม่เพียงแต่ผางชิงเยว่มาเยือน ขนาดหงยิงเพชฌฆาตสาวที่โหดเหี้ยมเลือดเย็นที่สุดแห่งเทียนฉิวก็ยังมากับเขาด้วย เขาได้พบหงยิงครั้งแรกในตอนที่ได้รับคัดเลือก

แค่มีคนวิ่งชนเกี้ยวของหงยิงโดยไม่ได้เจตนา หงยิงถึงขั้นจับตัวสมาชิกทั้งหมดในครอบครัวของคนผู้นั้นมา คนชรายันเด็กเล็ก ลงทัณฑ์ด้วยการขึงเสาร้อนแล่เนื้อเถือหนังค่อยๆ ทรมานจนตายอย่างทารุณทีละคน ชิงหยู่เห็นเองกับตา ยังเป็นเงาภาพจำฝังลึก ขณะเดียวกันก็ขอตัวลาด้วยความไม่ควรคู่

เหตุใดหงยิงก็มาด้วยเช่นกัน? พวกเขาเพียงแค่มาเพื่อจับนายน้อยกองทัพเย่สิงจริงๆ หรือ?

ชิงหยู่เงยหน้าพรึ่บขึ้นมองบุปผากระจกจันทราวารี ในฉากภาพเขาเห็นจูนจิ่วและจูนหยูนเสวี่ยประชันศึกกัน จากนั้นรีบซ่อนมือไว้ข้างหลังคว้ากุญแจเขตลับเทียนอู่ทำท่าประสานมือเจว๋ เคร้งคร้าง! เคร้งคร้าง! เสียงแตกทลายสายแล้วสายเล่า บุปผากระจกจันทราวารีห้าหน้าแตกละเอียดเป็นตะกรัน สูญเสียสถานการณ์ในเขตลับเทียนอู่ไป หงยิงเงยหน้าขวับหันไปทางชิงหยู่ มุมปากของนางแสยะรอยยิ้ม “น้องเล็กชิงหยู่ ไม่ได้เจอกันนาน”

ชิงหยู่กล่าว “พวกเจ้าคิดจะทำอะไรกันแน่!”

“ไม่ต้องทำหน้าปั้นยากขนาดนี้ก็ได้ พวกเราเพียงแค่อยากตามหากองทัพเย่สิงออกมาเท่านั้น ขอเพียงพวกเจ้าเชื่อฟังแต่โดยดีเทียนฉิวย่อมไม่สังหารพวกเจ้าแน่ เข้ามาเถอะ บอกพวกเราว่าใครคือผู้นำของกองทัพเย่สิง?” หงยิงทำสัญญาณมือ

ทันใดนั้นมีคนลากบุคคลที่บาดเจ็บทั่วตัว หายใจรวยรินเข้ามา กระชากผมถูกบีบให้เงยหน้าขึ้น ผู้มาใหม่ยื่นมือที่สั่นงั่กชี้ไปทางเหอซ่านและโจ๋วชิว สีหน้าเหอซ่านและโจ๋วชิวเปลี่ยนไปมาก นี่เป็นถึงซุยฉีหยุน หนึ่งในผู้นำของกองทัพเย่สิงเชียว! เมื่อวานพวกเขายังมีการติดต่อกันอยู่หยกๆ วันนี้เขากลับตกไปอยู่ในเงื้อมมือของเทียนฉิวแล้ว

เมื่อมองไปที่หงยิงซึ่งจดจ้องพวกเขาอยู่ กล่าวพูดไรฟันว่า “จับพวกเจ้าได้แล้ว!”

เวลาย้อนกลับไปที่จูนจิ่วปลุกปั่นจูนหยูนเสวี่ย จูนหยูนเสวี่ยกระโดดพรึ่บพรั่บพุ่งเข้ามาราวกับอสนีร้องคำรามกึกก้อง เสียงชัดช้าดังกระหึ่มหนึ่งหน ส่วนลึกภายในใจของจูนจิ่วหนักอึ้ง ยังไม่ทันรอให้นางทำอะไร พื้นผิวก็พังทลายทรุดครืนเสียงดังโครมคราม คนทั้งหมดตกเข้าไปโดยไม่ทันตั้งตัว

ความรู้สึกร่วงฮวบอย่างจังห่อหุ้มทั่วสรรพางค์กาย จูนจิ่วมุ่นคิ้วสีหน้าเย็นชา นางถอดกระบี่ป๋ายเย่ออกมาแล้วเสียบเข้าไปเบื้องหน้า ยับยั้งแนวโน้มที่จะตกลงไป เบื้องหน้ามีเงาร่างสายหนึ่งทรุดฮวบ จูบจิ่วรีบร้อนยื่นมือไปคว้าจูนเสี่ยวเหลยเอาไว้

อย่างไรก็ตามเพิ่งคว้าจูนเสี่ยวเหลยไว้ได้ พลังของการสูบจมก็เปลี่ยนมาดึงนางลงไปเต็มเหนี่ยว จูนจิ่วมองเห็นจูนหยูนเสวี่ยคว้าเท้าของจูนเสี่ยวเหลยเอาไว้อย่างแน่นหนา ดวงหน้าบิดเบี้ยวหันไปทางนางระเบิดหัวเราะลั่น “ฮ่าๆ จูนจิ่วตกไปมาด้วยกันเถิด!”

“พี่จิ่วรีบปล่อยข้าเร็ว อย่าสนใจข้า!”

“เหมียว!” เจ้านาย!

เดิมทีเสี่ยวอู่ตะครุบกรงเล็บคว้าบนหินผาอย่างแน่นหนา เห็นจูนจิ่วถูกจูนหยูนเสวี่ยฉุดลงไปจึงรีบคลายกรงเล็บกระโจนลงมา ร่างของมันขยายใหญ่ขึ้น โดดผลุงอยู่รอบๆ หลุมใหญ่ประชิดใกล้จูนจิ่วโวยความรวดเร็ว

ใกล้เข้ามาแล้ว!

เสี่ยวอู่ยื่นหางยาวออกไปขดม้วนรอบจูนจิ่วแล้วออกแรงดึงขึ้นมา จูนจิ่วยังมีจูนเสี่ยวเหลยสะบัดแกว่งอยู่บนแผ่นหลัง ส่วนจูนหยูนเสวี่ยที่คว้าเท้าของจูนเสี่ยวเหลยไม่ยอมปล่อยนั้น นัยน์ตาวิฬารของเสี่ยวอู่เย็นชาตบจูนหยูนเสวี่ยหนึ่งกรงเล็บลงไปอย่างเดือดดาล ว้าย! จูนหยูนเสวี่ยร้องโหยหวนหายลับไปต่อหน้าต่อตา

หลุมใหญ่นี้ลึกเป็นที่สุด เวลาผ่านไปสักระยะกว่าจะได้ยินเสียงดังตุบ เสี่ยวอู่โรยตัวลงบนพื้นอย่างมั่นคง เอียงหัวมองไปทางจูนจิ่ว “เหมียว เจ้านายไม่เป็นไรกระมัง?”

“ข้าไม่เป็นไร” จูนจิ่วลุกขึ้นยืนจากบนหลังของเสี่ยวอู่ นางกวาดมองไปรอบๆ ด้านล่างหลุมใหญ่มืดสนิทยื่นมือเข้าไปมองไม่เห็นนิ้วทั้งห้า นัยน์ตาวิฬารของเสี่ยวอู่เป็นสีเขียวในความมืดเหมือนกับโคมไฟไม่มีผิด จูนจิ่วได้ยินเสียงโอดครวญเจ็บปวดดังลอยมาจากรอบตัว ตกลงไปจากด้านบนไม่ตายก็กระแทกปางตาย

จูนจิ่วมุ่นคิ้วสีหน้าเย็นเยียบ จากนั้นก็หยิบมุกแสงราตรีออกมาส่องไฟ นางเอ่ยปากเรียกหา “หยูนเฉียว กู่ซง? ศิษย์สำนักเทียนอู่จงอยู่หนใด?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ