ราบรื่นมาก จูนจิ่วถีหูก้วนติ่งสำเร็จแล้ว นางลืมตาขึ้นกำลังจะแบ่งปันข่าวดีกับเสี่ยวอู่ แต่พอหันหน้าไป ก็เห็นเสี่ยวอู่ขดตัวเป็นก้อนกลมเข้าสู่การหลับใหลอีกครั้งหนึ่ง
ยกมือขึ้น จูนจิ่วลูบเสี่ยวอู่อย่างอ่อนโยน นางรับรู้ได้ว่า สภาพการณ์ของเสี่ยวอู่ขณะนี้ดีมาก
มุมปากโค้งขึ้น จูนจิ่วลุกขึ้นเดินออกจากน้ำพุ พลังของน้ำพุหลิงซูได้ถูกดูดซับหมดแล้ว ด้วยเหตุนี้น้ำพุก็กลายเป็นน้ำอุ่นธรรมดา เปลี่ยนเป็นชุดใหม่ที่สะอาดสะอ้าน จูนจิ่วใช้พลังทิพย์ในการอบผมจนแห้ง
นางอดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ “คิดไม่ถึงเลยว่าเลือดหัวใจของอู๋เยว่จะมีผลแปลกๆเช่นนี้ด้วย เอ๋ ไม่เอาเลือดหัวใจของอู๋เยว่ เปลี่ยนเป็นเลือดสักหยดสองหยดมาศึกษาดู ไม่รู้ว่าอู๋เยว่จะยอมหรือไม่ ”
ในสถานการณ์พิเศษเช่นตอนนี้ เหลิ่งยวนจะหลบไปอยู่ไกลๆ ไม่เช่นนั้นหากเขาได้ยินคำพูดของจูนจิ่ว คงต้องพยักหน้ารัวๆแน่
อย่าว่าแต่เลือดไม่กี่หยดเลย แม้แต่เลือดหัวใจ เจ้านายก็ให้ได้ เสน่ห์ของคู่วิญญาณ ถ้าสำเร็จละก็จะทำให้เจ้านายที่อาจเป็นโสดหมื่นปีกลายเป็นปีศาจจอมหยอกสาวก็เป็นได้ แน่นอน ก็หยอกแค่จูนจิ่วคนเดียวเท่านั้น
คำนวณเวลา ตอนนี้ก็ผ่านไปเจ็ดวันแล้ว นักจิตขณะฝึกฝนจะมีพลังทิพย์คอยเติมเต็ม จะไม่รู้สึกหิว จูนจิ่วคิดว่าตอนนี้พวกศิษย์พี่ก็น่าจะเสร็จแล้ว จึงคิดว่าจะไปหาพวกเขา
แต่ระหว่างทาง จูนจิ่วก็หยุดฝีเท้า เงยหน้ามองป้าฟางอย่างสงบ น้ำเสียงเรียบ ๆ
“คำนับป้าฟาง”
“เจ้าเป็นคนที่ไหน ”ป้าฟางจ้องจูนจิ่วตรงๆ นางสีหน้าสงบมองอารมณ์ไม่ออก
“แคว้นเทียนโจ้ง”
ตอนที่ได้ยินคำตอบของจูจิ่ว แววตาของป้าฟางมีความเปลี่ยนแปลง แต่นางก็ไม่ได้ถามต่อ แต่เปลี่ยนหัวข้อสนทนา “ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้นี่เอง ข้าเคยไปที่แคว้นเทียนโจ้ง ที่นั่นเป็นพื้นที่ที่ดีแห่งหนึ่งเชียวล่ะ”
แล้วมองไปทางจูนจิ่ว ป้าฟางถอยไปข้างๆเพื่อเปิดทางให้จูนจิ่ว นางพูดว่า “พวกศิษย์พี่ของเจ้าออกมาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว คืนนี้ สายสุดก็พรุ่งนี้เจ้าสำนักศึกษาไท่ชูของพวกเจ้าคงจะมารับพวกเจ้า ”
จูนจิ่วพยัหน้าให้กับป้าฟาง ก้าวเท้าเดินผ่านนางไปไม่หันมามอง กลับเป็นป้าฟางที่ใช้สายตาส่งนางไปยังทิศที่นางจากไป รอบข้างไม่มีคน นางจึงเผยสีหน้าที่ซับซ้อนของตัวเองออกมา
ข้อสงสัยในใจ ได้รับการยืนยันร้อยทั้งร้อยแล้ว
หลังจากรู้ว่าจูนจิ่วเป็นลูกสาวของจูนหมิงเย่กับคุณหนูม่างตง ชั่วขณะนั้นป้าฟางก็ไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรต่อไปดี จะบอกทุกอย่างที่นางรู้แก่จูนจิ่ว หรือทำเหมือนไม่เคยพบกันมาก่อน เรื่องนี้นางต้องคิดให้ดี ตอนนี้จูนจิ่วอยู่ที่สำนักศึกษาไท่ชูนั้นปลอดภัย ยังไม่ต้องกังวลใจ
……
นอกกระท่อม มู่จิ่งหยวน ชิงหยู่กับสองพี่น้องฝู้หลินจ้านก็อยู่ที่นี่ พวกเขาเห็นจูนจิ่วมาแล้ว ต่างก็ส่งยิ้มทักทาย
หลังจากทักทายกันเสร็จ จูนจิ่วมองไปรอบๆ “จี้อีหมิงยังไม่ออกมาหรือ”
“อืม เหมือนเขาจะชอบแอบอู้ ต้องรอสักหน่อย จูนจิ่ว หลังจากเจ้ากลับสำนักศึกษาไท่ชูแล้ว อย่าลืมเขียนจดหมายติดต่อพวกเขาล่ะ ข้ากับหลิงซวงจะเขียนจดหมายถึงเจ้าเสมอ“
ฝู้หลินจ้านพูดยิ้มๆ
ตอนนี้พวกเขาเป็นเพื่อนกันแล้ว
สำนักศึกษาทั้งสามอยู่ห่างไกลกันมาก จะพบหน้ากันค่อนข้างยาก ฉะนั้นจึงต้องติดต่อกันทางจดหมาย จูนจิ่วพยักหน้า ตอบรับ
คนของสำนักศึกษาไท่ชูมาเร็วกว่าที่ป้าฟางคิดเอาไว้ เพิ่งจะตอนบ่าย จูนจิ่วกับพวกฝู้หลินจ้ายยังคุยได้ไม่กี่คำ ก็มีกลุ่มคนที่มีผู้อาวุโสใหญ่นำมาด้วยก็ถึงก่อนแล้ว
เรือหยุดแล้ว พวกเขามองหน้ากัน รู้สึกแปลกใจ
สัญชาตญาณของจูนจิ่วระแวงทันที นางหวนคิดถึงเรื่องราวของผู้อาวุโสใหญ่แล้วก็ต้องขมวดคิ้ว น้ำเสียงกดต่ำของจูนจิ่วบอกกับมู่จิ่งหยวนและชิงหยู่ “ระวังตัวกันด้วย”
“ระวังอะไร”มู่จิ่งหยวนยังคงสงสัย ตอนนี้เรือหยุดลงแล้ว ผู้อาวุโสใหญ่พาคนเดินลงไปก่อน อีกทั้งยังให้คนมาเรียกพวกเขาลงจากเรือ
เรือทิพย์มีผู้อาวุโสใหญ่คอยควบคุมอยู่ พวกเขาไม่สามารถรับช่วงต่อได้ ฉะนั้นจูนจิ่วจึงได้แต่ลงจากเรือโดยดี เพื่อไปเผชิญหน้าผู้อาวุโสใหญ่ จูนจิ่วมองเขาอย่างเย็นชาพลางพูดขึ้นตรงๆ “ผู้อาวุโสใหญ่หยุดเรือทำไมกัน ”
“จูนจิ่ว ข้ารู้สึกมาตลอดว่าเจ้านั้นเป็นคนฉลาด พวกเราเป็นคนตรงไม่อ้อมค้อม เจ้าเอาของออกมาให้ข้าซะดีดี อย่าให้ต้องลงมือกันเลย ”ผู้อาวุโสใหญ่ยิ้มอย่างชั่วร้าย
ชิงหยู่ก้าวเข้าไปข้างหน้า ยืนข้างจูนจิ่วจ้องเขม็งไปที่ผู้อาวุโสใหญ่ เห็นทีผู้อาวุโสใหญ่จะอดรนทนรอไม่ได้จะลงมือเองแล้ว
มีเพียงมู่จิ่งหยวนที่มีประโยคคำถามเต็มใบหน้า มึนงงสงสัย “ผู้อาวุโสใหญ่ ท่านกำลังพูดเรื่องอะไร”
“ศิษย์พี่มู่ท่านอย่าแสร้งทำเป็นไม่รู้เลย ท่านอยู่กับจูนจิ่วทุกวัน ท่านจะไม่รู้ได้อย่างไร ข้าคิดหาทุกวิถีทางก็ไม่สามารถเข้าใกล้จูนจิ่วได้ แต่พอท่านเท่านั้นก็สามารถร่วมกลุ่มกับจูนจิ่วได้ ไม่ใช่เพราะจูนจิ่วใช้ของล้ำค่าดึงตัวท่านไปหรืออย่างไร”
หยุนหนีน้ำเสียงอิจฉาไม่สงบ นางออกมาจากป่าข้างๆ ด้านหลังยังมีกลุ่มคนชุดดำตามมาด้วย คนชุดดำกับคนที่ผู้อาวุโสใหญ่พามา กระจายออกล้อมรอบพวกจูนจิ่วเอาไว้ ยกดาบขึ้น ท่าไม่ดีเสียเลย
มู่จิ่งหยวนมองหยุนหนีและยังคงประหลาดใจ “หยุนหนีเจ้าบรรลุแล้ว”
“แน่นอน ”เชิดหน้าอย่างอวดดี หยุนหนีขี้เกียจจะแสร้งทำเป็นอ่อนโยนอีกต่อไปแล้ว ฉีกหน้ากากออก สายตาคมปลาบของนางมองจ้องจูนจิ่ว พูดว่า “จูนจิ่ว ส่งของล้ำค่ามาซะดีๆ แล้วยังมีวิชาจิตของวิชาฝึกตนของสำนักเทียนอู่จงด้วย ไม่เช่นนั้นเจ้าไม่ตายดีแน่ ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ
หนังสือยังไม่จบ ไม่อัปต่อแล้วเรอค่ะ...