“นี่ยังไม่พอหรือ ”ฝู้หลินจ้านขมวดคิ้วมองไปทางซิงโล่เฉิน “มู่จิ่งหยวนยังมีชีวิตอยู่ก็เป็นหลักฐานได้แล้ว คำพูดของเขาน่าเชื่อถือกว่าหยุนหนีมาก”
“นั่นก็แค่สามารถยืนยันได้แค่ว่า หยุนหนีหลอกลวงปิดบังเรื่องที่ผู้อาวุโสใหญ่ต้องการฆ่ามู่จิ่งหยวน เรื่องอื่นนั้นก็พูดลำบาก”ซิงโล่เฉินพูดเป็นนัย มองไปยังจูนจิ่วอีกครั้งด้วยสายตาที่แฝงแววต่อสู้ แววชั่วร้ายคุกรุ่น
จูนจิ่วยิ้มเย็นมองไปทางเขา “มีอะไรก็พูดตรงๆ อย่าเอาแต่พูดมากเหมือนพวกผู้หญิงเลย ”
“เจ้า”ถูกจูนจิ่วทำให้โกรธจนควันออกหูได้ง่ายจริงๆ
ซิงโล่เฉินกัดฟันกรอด เขาจ้องจูนจิ่วเขม็ง เจ้าคิดว่าเจ้าชนะแล้วหรือ ไม่มีทาง ข้ายังมีอีกหนึ่งไม้ตาย
ยืนอยู่ในตำหนักใหญ่ ซิงโล่เฉินมองจูนจิ่วจากที่สูงกว่า แต่ถ้าเทียบความทรงพลัง เขาไม่สามารถเอาเปรียบจูนจิ่วได้ ซิงโล่เฉินฉีกยิ้มชั่วร้าย เขาเอ่ยขึ้นว่า “เอาพยานเข้ามา”
พยานอะไร
เรื่องราวเหมือนจะพลิกกลับอีกครั้ง คนที่อยู่ในตำหนักต่างไม่กล้าพูดจา เห็นเพียงหน่วยกล้าตายของเทียงฉิวลากตัวคนคนหนึ่งเข้ามา ซิงโล่เฉินเดินเข้าไปดึงผ้าคลุมหัวของคนคนนั้นออก มองไปยังจูนจิ่วกับชิงหยู่อย่างอันตราย “คนคนนี้พวกเจ้าน่าจะคุ้นเคยดี”
จูนจิ่ว “ไม่รู้จัก”
ชิงหยู่ “ไม่เคยเห็น”
ซิงโล่เฉินชะงัก โกรธจนจะกระอักเลือด “เขาสวมชุดของลูกศิษย์สำนักเทียนอู่จง ไม่เคยเจอไม่รู้จักจริงหรือ พวกเจ้าคิดจะหลอกใคร”
“นี่คือคนที่เทียงฉิวจับได้นอกป่าในวันที่ผู้อาวุโสใหญ่ของสำนักศึกษาไท่ชูตาย ทำตัวมีพิรุธ มองแล้วก็รู้ว่าต้องมีปัญหาแน่ แล้วสุดท้ายเจ้าก็ดูสิจูนจิ่ว พอจับตัวมาสอบสวนก็บอกว่าเป็นลูกศิษย์ของสำนักเทียนอู่จง”หงยิงเดินออกมา เอ่ยต่อจากซิงโล่เฉิน
ถูกตบใบหน้าให้เจ็บปวดอย่างอนาถ ทำให้หงยิงแค้นใจจูนจิ่วยิ่งนัก พวกเขายังมีไม้ตาย ต้องเหยียบจูนจิ่วให้ตายได้แน่ๆ
หงยิงพูดต่อว่า “จูนจิ่วเจ้ามาจากสำนักเทียนอู่จง และศิษย์พี่เจ้าก็เป็นเจ้าสำนักเทียนอู่จง เขาก็คือพรรคพวกของพวกเจ้า หลักฐานที่ชี้ว่าพวกเจ้าฆ่าผู้อาวุโส มู่จิ่งหยวน น่าสงสารจริงที่เจ้าถูกจูนจิ่วหลอก”
มู่จิ่งหยวน นี่มันเรื่องล้อเล่นอะไรกัน
เจ้าสำนักจื่อเซียวนิ่งอึ้ง ขมวดคิ้วมองไปทางจูนจิ่ว เด็กคนนี้ไม่ได้บอกเรื่องนี้นี่นา
เรื่องจริงหรือนี่
“ขออภัยด้วย หงยิงเจ้าเข้าใจสำนักเทียนอู่จงของพวกเราผิดไปหรือเปล่า ”คนที่พูดคือชิงหยู่ เขามองชายที่คุกเข่าตัวสั่นอยู่กับพื้นอย่างดูถูก เอ่ยอย่างเย้ยหยัน “หาของปลอมมา อย่างน้อยๆก็ต้องให้เหมือนสักหน่อย”
หงยิง “เจ้าว่าอะไรนะ”
“ศิษย์พี่ข้าพูดไม่ผิด แม้ว่าสำนักเทียนอู่จงของพวกเราจะสู้สำนักศึกษาทั้งสามไม่ได้ แต่ก็ร่ำรวยไม่ขาดหินทิพย์ไม่ขาดเงิน เสื้อผ้าบนตัวเขา แม้แต่ผ้าที่ใช้ทำชุดของคนเฝ้าประตูอาหวงยังดีกว่านี้เลย ของปลอมดูแวบเดียวก็ดูออกว่าทำลอกเลียนแบบขึ้น”จูนจิ่วยิ้มอย่างดูถูก
หงยิงได้ยินก็อึ้งไป เป็นนานก็ยังไม่ได้สติคืนมา
นี่แหละที่นางต้องการ จูนจิ่วฉวยโอกาสนี้เดินไปตรงหน้าชายคนนั้น เลิกคิ้วมองเขาด้วยสายตาเย็นชาและถามขึ้นว่า “ในเมื่อเจ้าเป็นลูกศิษย์ของสำนักเทียนอู่จง เช่นนั้นก็ลองบอกมาสิว่า ลูกศิษย์ของสำนักเทียนอู่จงเรียกข้าว่าอะไร”
ชายหนุ่มคนนั้นประสานสายตาที่เย็นชาน่ากลัวของจูนจิ่ว ตกใจกลัวจนตัวสั่น แล้วก็เห็นสายตาพิฆาตของซิงโล่เฉินที่มองมา ชายหนุ่มเอ่ยออกมาอย่างยากลำบาก “อาจารย์อา”
คำเรียกนี้หงยิงบอกกับเขา
“พอแล้ว”เจ้าสำนักศึกษาเทียนซูเอ่ยขึ้น
นี่ไม่ใช่การสอบสวนจูนจิ่วแบบเปิดเผย แต่เป็นการลงโทษเทียงฉิวอย่างเปิดเผยต่างหาก หมากที่พวกเขาเดินแต่ละก้าว สุดท้ายก็ถูกจูนจิ่วตบหน้าหงาย ถ้ายังเป็นอย่างนี้ต่อไป มีเพียงแต่จะยิ่งขายหน้า เจ้าสำนักศึกษาเทียนซูโกรธจนแทบคลั่ง
แต่เขาจำเป็นต้องยืนหยัดให้ได้ เพื่อรักษาสถานะที่สูงส่งของเจ้าสำนักศึกษา เจ้าสำนักศึกษาเทียนซูเดินลงไป ยิ้มอย่างเสแสร้ง “เห็นที ความจริงจะถูกเปิดเผยแล้ว จูนจิ่วนั้นเป็นผู้บริสุทธิ์จริงๆ”
“แน่นอน ทีนี้ก็ประกาศให้ทุกคนรู้ได้แล้ว คืนความบริสุทธิ์ให้กับจูนจิ่วและชิงหยู่ ผู้อาวุโสใหญ่ที่มีโทษมหันต์ก็ได้ตายไปแล้ว ส่วนความจริงสอบสวนหยุนหนีก็คงจะสามารถตัดสินคดีได้ ที่ข้าเชิญพวกท่านมาที่สำนักศึกษาจื่อเซียว คงไม่ผิดกระมัง”เจ้าสำนักศึกษาจื่อเซียวลูบเคราพูดยิ้มๆ
เจ้าสำนักศึกษาไท่ชูพยักหน้ารับ ส่วนเจ้าสำนักศึกษาเทียนซูแค้นจนอยากจะสับเจ้าสำนักศึกษาจื่อเซียวเป็นชิ้นๆ
สูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าของเจ้าสำนักศึกษาเทียนซูมีรอยยิ้มเสแสร้ง เขาเดินไปทางจูนจิ่ว น้ำเสียงเป็นมิตรอย่างจงใจ “จูนจิ่ว ในเมื่อเจ้าเป็นผู้บริสุทธิ์ เช่นนั้นลูกศิษย์ของสำนักเทียนอู่จงที่สำนักศึกษาเทียนซูจับมาได้ก็บริสุทธิ์ ตอนนี้ข้าจะปล่อยพวกเขาไป เพื่อให้พวกเจ้าได้พบหน้ากัน”
ได้ยินคำพูดของเจ้าสำนักศึกษาเทียนซู ทุกคนต่างมีสีหน้าแตกต่างกัน เจ้าสำนักศึกษาเทียนซูจับตัวลูกศิษย์สำนักเทียนอู่จงได้จริงหรือ
ทุกคนมองไปยังจูนจิ่ว ริมฝีปากแดงของนางโค้งขึ้น ยิ้มอย่างหยิ่งทะนง แฝงความมีเลศนัย
จูนจิ่ว “ดีเลย ไม่ทราบว่าลูกศิษย์ของสำนักเทียนอู่จงอยู่ที่ใด”
“พวกเขาอยู่นอกตำหนักใหญ่ ซิงโล่เฉิน หงยิงยังไม่นำทางอีก ปล่อยตัวลูกศิษย์ของสำนักเทียนอู่จงที่บริสุทธิ์ทั้งหมด”เจ้าสำนักศึกษาเทียนซูแสร้งตำหนิทั้งสองคน สีหน้าเป็นมิตรดูเสแสร้งเป็นที่สุด
ซิงโล่เฉินกับหงยิงได้ยินก็มองตากัน เก็บอาการแล้วก็เดินนำหน้าออกไป พวกเขาเดินตามออกไปนอกตำหนักใหญ่ เงิยหน้ามองไปที่ลานกว้างที่มีคนคุกเข่าอยู่เป็นแถว คนที่สวมชุดของลูกศิษย์ของสำนักเทียนอู่จง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ
หนังสือยังไม่จบ ไม่อัปต่อแล้วเรอค่ะ...