บทที่68ข้าไม่เคยพบท่านมาก่อน
จูนจิ่วกลับไม่ยืมคำพูดเฟิ่งเซียวมาใช้ทำลายตะกูลจูนและเฟิ่งเทียนฉี่
หากจะถามว่าทำไมนางไม่เอ่ยปากทำลายตระกูลจูนเสีย?ยังไม่นับความผิดเรื่องทรัพย์สินต้นตระกูลนางเอาเพียงแค่เรื่องที่นางพบเจอมากับตัวเองเรื่องวางยาบ้านน้อยเรื่องที่ซั่งกวนอี่หรงวานจูนเหลยมาฆ่านางตั้งใจทำลายชื่อเสียงของนางปรักปรำนางว่าเป็นโจรแต่ละเรื่องที่เกิดขึ้นให้นางแก้แค้นเพียงครั้งเดียวพวกซั่งกวนอี่หรงจะไม่สบายไปหน่อยหรือ?
จูนจิ่วเก็บงำแรงอาฆาตพลางกวาดตามองไปยังพวกซั่งกวนอี่หรงพวกเขากำลังหวาดกลัวแตกตื่นเกรงว่านางจะเอ่ยปากให้เฟิ่งเซียวลงทัณฑ์ทำลายตระกูลจูน!
ริมฝีปากกระตุกขึ้นเล็กน้อยจูนจิ่วหัวเราะออกมา
พวกเขากลัวอย่างนั้นรึ?นางยังไม่ทันได้ลงมือนางอยากจะเอามีดห้อยไว้กับคอพวกเขาเมื่อนอนเมื่อทานอาหารเช้าเย็นให้รู้สึกทุกข์ทรมานดื้อรั้นเอาแต่ใจก็คือนางจูนจิ่ว
จูนจิ่วเอ่ยปาก“ข้าไม่ต้องการการแก้แค้นของท่านข้าจัดการเรื่องของข้าเรียบร้อยแล้วคุณชายหยูนหยูนเฉียวพวกเรากลับกันเถอะหรือว่าพวกท่านอยากอยู่ร่วมงานต่อ?”
จูนจิ่วมองไปทางพวกเขานัยน์ตาฉายแววยิ้มเจ้าเล่ห์หยอกเย้า
อย่าว่าแต่งานวันเกิดเลยจูนสงเทียนยังทรงตัวยืนยิ้มอยู่ได้ก็ยากเย็นนักแล้วเรื่องงานเฉลิมฉลองหรือ?สภาพเขาในตอนนี้แลดูจะเป็นงานศพมากกว่า
แน่นอนว่าหยูนเฉียวไม่อยากอยู่ต่อเขาเอ่ยขึ้นในทันที“แม่นางจูนจะไปไหนข้าจะตามไปด้วย!ไปเถอะพวกเรากลับ”
“ได้ท่านเจ้าตระกูลจูนพวกเราขอลา”หยูนจ้งจิ่นเอ่ยลาเหล่าผู้ชมที่ยืนรายรอบเริ่มรู้สึกตัวขึ้นต่างพากันบอกลากับจูนสงเทียนไม่มีใครเหลืองานเลี้ยงฉลองครั้งนี้กลับไม่มีผู้ร่วมงานนั่งอยู่สักคนเดียว
ยังมีใครจะสืบสัมพันธ์กับตระกูลจูนอีกหรือ?มิเห็นพระเจ้าหลวงที่ยืนอยู่ที่พร้อมจะลงทัณฑ์ตระกูลจูนได้ทุกเมื่อ!
เพียงพริบตาเดียวห้องโถงใหญ่ก็เหลือเพียงตระกูลจูนสงเทียนและเฟิ่งเทียนฉี่เท่านั้นในตอนนี้เฟิ่งเซียวก็ยังไม่ไปไหนพวกเขาทำได้เพียงยืนตัวสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว
เฟิ่งเซียวจ้องมองพวกเขาราวกับมองลงมาจากฟากฟ้าเบื้องบนแล้วเอ่ยขึ้น“จูนจิ่วไม่คิดบัญชีกับพวกเจ้าข้าผู้เฒ่าก็จะไม่พูดเรื่องนี้อีกแต่ว่าข้าผู้เฒ่ายกเลิกงานแต่งตระกูลเจ้าไปตอนนี้ข้าจะทดแทนให้พวกเจ้า”
เฟิ่งเซียววาดมือเป็นเส้นอย่างสบายๆ“เจ้าจูนอะไรหยูนเสวี่ยนี่?คุณหญิงใหญ่ตระกูลจูนและองค์รัชทายาทพวกเจ้าเลือกเวลามาแล้วรีบจัดการงานแต่งให้เสร็จโดยเร็ว!”
“ไม่!”จูนหยูนเสวี่ยกรีดร้อง“ข้าจะไม่แต่งกับองค์รัชทายาท!”
เฟิ่งเซียวถอนหายใจเย็นเยียบ“ข้าผู้เฒ่าจัดการงานแต่งให้ไม่มีใครจะปฏิเสธได้องค์รัชทายาทหากยังต้องการรักษาตำแหน่งไว้เจ้าต้องแต่งกับนาง!”
คิดว่าเขาไม่เห็นที่ลั่นแกล้งจูนจิ่วหรือ?จูนจิ่วไม่เรียกร้องให้เขาแก้แค้นอย่างไรเขาก็ไม่ปล่อยไอ้คนใจระยำนี่และยังตระกูลจูนอีกเมื่อครู่ยังตัวติดกันราวกับติดกาวแน่นรักกันหวานปานน้ำผึ้ง?เขาจะสนองความต้องการให้เอง
เฟิ่งเซียวกล่าวเสร็จก็เดินจากไปเขาต้องรีบไปตามจูนจิ่ว
ในห้องเหลือเพียงจูนหยูนเสวี่ยเฟิ่งเทียนฉี่และตระกูลจูนต่างมองกันราวมองศัตรูกันอย่างไรอย่างนั้นเกลียดแค้นราวอยากจะฉีกทึ้งทั้งเป็น!คนหนึ่งเกลียนเฟิ่งเทียนฉี่ที่ทอดทิ้งนางไปสู่ขอจูนจิ่วต่อหน้าผู้คนอีกคนเกลียดตนที่ความปรารถนาไม่สัมฤทธิ์เมื่อมองไปที่จูนหยูนเสวี่ยยิ่งให้ไม่มีความรู้สึกดีอันใด
จูนสงเทียนและซั่งกวนอี่หรงไม่มีเวลาสนใจพวกเขาพวกเขาต่างคิดในใจหมดสิ้นกันแล้ว!หากเรื่อวราวในวันนี้แพร่งพรายออกไปชื่อเสียงวงศ์ตระกูนจูนอันยาวนานร้อยปีพลันสลายหายไปสิ้น!
ทว่าพวกเขากลับไม่สำนึกในความผิดของตัวเองเพียงโกรธเกลียดที่ฆ่าจูนจิ่วไม่ได้เกลียดพระเจ้าหลวงที่กลับมาเร็วถึงเพียงนี้?
สายตาของซั่งกวนอี่หรงมองไปยังจูนไห่เทียนและจูนเชียนเชียนอารมณ์โกรธปะทุออกมาโดยพลัน“เจ้าเศษสวะสองคนนี้ทำไมยังอยู่ที่นี่!ลากมันออกไป!ลากมันไปกำจัดซะ!เศษสวะไร้ประโยชน์พวกเจ้าสมควรตาย!”
“เหอะเหอะเหอะเจ้านั่นและที่ควรตาย!จูนจิ่วต้องฆ่าพวกเจ้าแน่!นางต้องฆ่าพวกเจ้าแน่!”จูนไห่เทียนถูกลากออกไปพลางชี้ไปยังซั่งกวนอี่หรงแล้วตะโกนอย่างคุ้มคลั่ง
……
จูนจิ่วพยักหน้านิ่งแสดงท่าทีเข้าใจแล้ว
นางอุ้มเสี่ยวอู่ลงจากรถเมื่อกำชับปี้หลั๋วให้กลับไปเองแล้วจึงมองไปทางเฟิ่งเซียว”ท่านอยากไปพูดคุยที่ไหน?”
“เสี่ยวจิ่วเจ้าพักอยู่ที่ไหน?”เฟิ่งเซียวพบกับจูนจิ่วด้วยรอยยิ้มอันอบอุ่นเมื่อมองอย่างถี่ถ้วนจะเห็นท่าทางระมัดระวังในท่าทีของเขาเฟิ่งเซียวกำลังรู้สึกผิดรู้สึกผิดที่ฝากจูนจิ่วไว้กับสองสามีภรรยาจูนสงเทียน
แม้ว่าเป็นเพราะตอนนั้นเขาไม่มีทางเลือกแม้เป็นเพราะตอนนั้นเขาถูกสองสามีภรรยาจูนสงเทียนหลอก!เฟิ่งเซียวก็ยังไม่ให้อภัยตนเองที่ฝากฝังผิดคนทำให้เกิดผลแบบนี้
จูนจิ่วมองไปยังเฟิ่งเซียวด้วยสายตาเย็นชานางหันกายพลางเอ่ยขึ้น“ข้ารู้จักเหลาแห่งหนึ่งบรรยากาศดี”
“ดีดีเหลาก็ดีเลย”
เหลาแห่งนี้คือเหลาที่ครั้งก่อนปี้หลั๋วพาจูนหวั่นเอ๋อร์ไปที่นี่เป็นส่วนตัวอาหารคาวหวานรสเยี่ยมขณะที่จูนจิ่วเดินไปยังหน้าเหลานั่นเองหางตาพันเหลือบเห็นเหลิ่งยวน
เหลิ่งยวนเหมือนกำลังจะเอ่ยถามนางให้ช่วยจัดการเฟิ่งเซียวตัวปัญหานี่หรือไม่?ยิ่งในสายตาเขาจูนจิ่วเหมือนจะมีอารมณ์ไม่ชอบเฟิ่งเซียวไม่รู้จะจัดการอย่างไรจูนจิ่วหลับตาลงทำสัญญานมืออย่างเงียบๆเหลิ่งยวนหันกายกลับเข้าไปในความมืดอย่างเงียบเฉียบ
เมื่อก้าวเข้ามาในห้องพร้อมปิดประตูจูนจิ่วเอ่ยขึ้นอย่างตรงไปตรงมา“ท่านอยากพูดอะไรก็ว่ามา”
“เสี่ยวจิ่วเจ้าเรียกข้าว่าพระอัยกาสักครั้งหนึ่งจะได้ไหม?หากเจ้าไม่ชอบเรียกว่าท่านปู่ก็ได้ข้าไม่ถือสาเลย”
มุมปากจูนจิ่วกระตุกขึ้นทั้งสองอย่างนี้แตกต่างกันอย่างไรหรือ?
เสี่ยวอู่กระโดดจากอ้อมอกจูนจิ่วไปบนโต๊ะมันเลียกรงเล็บของตนพลางตอบจูนจิ่วแตกต่างกันสินายท่าน!เรียกท่านปู่ดูสนิทสนมกว่าพระอัยกาเสียอีกพระอัยกาคือท่านปู่ของตระกูลเฟิ่งเรียกท่านปู่ก็คือปู่ของท่านเลยจูนจิ่วทำท่าปฏิเสธพลางมองไปยังเฟิ่งเซียว“ข้าไม่เคยพบท่านมาก่อน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ
หนังสือยังไม่จบ ไม่อัปต่อแล้วเรอค่ะ...