บทที่ 97 ถูกกำปั้นจนบิดามารดานางจำไม่ได้
จูนจิ่วบังอาจกล้าท้าทายนาง?ยังกล้าท้าประลองกับนางต่อหน้าบรรดาลูกศิษย์สำนักเทียนโจ้ง?ฮ่าๆๆ นางต้องขอบคุณความโง่ของจูนจิ่ว ให้นางได้ใช้โอกาสล้างแค้น!แผนการทำลายชื่อเสียงของจูนจิ่วพ่ายแพ้ไปแล้ว อย่างนั้นก็ทำให้จูนจิ่วได้ชิมรสความเจ็บปวดทางเนื้อหนังแทนก็แล้วกัน
นางเป็นถึงนักจิตชั้นสาม จูนจิ่วแม้ฝันก็อย่าคิดจะได้ชัยชนะไปได้!
ยิ้มเหยียดขึ้น ชัยชนะอยู่เบื้องหน้าแล้ว จูนหยูนเสวี่ยฟาดดาบเต็มแรงไปยังจูนจิ่ว “เจ้าสามารถ ก็รับดาบนี้ไป!”
นางตั้งใจยั่วโมโหจูนจิ่ว เมื่อนั้น นางเห็นจูนจิ่วยืนอยู่กับที่ไม่เขยิบตัว แย้มยิ้มที่มุมปาก หัวเราะเสียงอำมหิตอาฆาตอย่างบ้าคลั่ง จูนหยูนเสวี่ยตั้งใจวาดดาบไปยังแก้มของจูนจิ่ว
นางจ้องจะทำลายใบหน้านี้ของจูนจิ่ว!ทำลายโฉมนาง
เช้ง!
เสียงคมกระบี่ดังขึ้น ทุกคนต่างจ้องมองฉากตรงหน้าตาไม่กะพริบ รวมถึงตัวจูนหยูนเสวี่ยเอง ตาเบิกโพลง แม้แต่ตัวนางเองก็ยังไม่อยากเชื่อ นี่มันเป็นไปได้อย่างไรกัน?
เห็นเพียงจูนจิ่วยืนนิ่งไม่ไหวติง เพียงยื่นมือขึ้นกลางอากาศ เท่านั้นกลับสามารถรับคมกระบี่อันทรงพลังของจูนหนูนเสวี่ยได้!
คมกระบี่อันเย็นเยียบทรงพลัง เพียงถูกคีบไว้อยู่ตรงกลางระหว่างนิ้วขาวเรียว จูนหยูนเสวี่ยตั้งใจส่งพละกำลังทั้งหมดออกไป ทว่าราวกับผลักภูเขาก้อนใหญ่ จูนหยูนเสวี่ยกลับไม่มีหนทางใดแล้ว
“จูนหยูนเสวี่ยเร็วปานนั้น จูนจิ่วใช้เพียงปลายนิ้ว กลับหยุดคมกระบี่ได้ ดูไปแล้ว ความเร็วของนางกลับนับว่าเร็วที่สุด!” โล่ชิวเห้อชื่นชม
“มิเพียงแค่นั้น” เฟิ่งเซียวทั้งพอใจทั้งอวดเบ่ง “เสี่ยวจิ่วของข้าเพียงเพิ่งเริ่มลงมือเท่านั้น!ที่น่าตื่นเต้นดูชมกำลังจะมา”
เป็นดังที่เฟิ่งเซียวพูด จูนจิ่วเพียงใช้นิ้วบิด กระบี่เล่มคมกลับโค้งงอทำมุมองศา นางเพียงใช้นิ้วเคาะนิดเดียว กลับมีพลังมหาศาลสะท้อนกลับไปบนมือจูนหยูนเสวี่ย นางเจ็บจนต้องคลายกระบี่ ถอยหลังไปอีกหลายก้าว
วึ้ง!
จูนจิ่วแย่งกระบี่คมมา มืองอลงพลางผลักกลับไป ฝีมือลงดาบเรียบง่ายแต่ดุดัน มีเพียงสะบัดกับฟาดดาบเพียงมองกระบวนท่า กลับกลายเป็นเพียงเงาที่รวดเร็วมิสามารถตามจับได้ จูนหยูนเสวี่ยเพียงสัมผัสถึงความเย็นเยียบรอบกายนางพร้อมทั้งดูจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
นางมิกล้าแม้แต่จะขยับ พลังคมดาบเหล่านั้นต่างพัดวืดอยู่รอบกายนาง!
จูนหยูนเสวี่ยยังมิอาจปักใจเชื่อได้ จูนจิ่วกลับสามารถแย่งดาบอันทรงพลังไปจากมือนางได้ ต่อเมื่อเห็นคลื่นเงาต่อเนื่องของกระบี่หยุดลง นางรู้สึกมือเท้าเย็นเยียบ ครั้งก้มลงไปมองจึงกรีดร้องขึ้น “อ้าก อ้าก อ้ากก!”
จูนจิ่วกรีดชายเสื้อและกระโปรงของนาง เผยให้เห็นข้อมือและต้นขาของนาง ผิดขาวผุดผ่องช่างชวนมองยิ่งนัก บุรุษหลายคนต่างมองตาไม่กะพริบ คนอื่นต่างตะลึงงันถึงความสามารถในการแปรเปลี่ยนกระบวนท่าและการควบคุมกระบี่
เพียงตัดเสื้อผ้าของจูนหยูนเสวี่ย รอยกระบี่ไม่บาดไปถึงผิวหนัง ความสามารถในการควบคุมกระบี่เช่นนี้ ช่างน่าหวาดกลัวยิ่งนัก!
สายลมเย็นเยียบพัดผ่าน บริเวณแขนและขาของจูนหยูนเสวี่ยถูกลมเย็นลูบไล้ ยิ่งเห็นสายตาของผู้คน สีหน้าของจูนหยูนเสวี่ยบิดเบี้ยวไปแล้ว จูนจิ่วตั้งใจจะดูถูกหยามเหยียดนาง!
ใบหน้าที่ทั้งโกรธและบิดเบี้ยว จูนหยูนเสวี่ยเงยหน้าจ้องไปยังจูนจิ่วอย่างเอาเป็นเอาตาย นางสาปแช่งอย่างดุดันบ้าคลั่ง “จูนจิ่วนังคนสารเลว เจ้า... อ้าก!”
ตึง!
กำปั้นหนึ่งพุ่งเข้าใส่กระบอกตาจูนหยูนเสวี่ย แรงจนศีรษะของจูนหยูนเสวี่ยผละถอยหลัง เมื่อหันกลับมาอีกครั้งรอบดวงตาปรากฏรอยดำคล้ำ เจ็บปปวดจนแทบลืมตาไม่ขึ้น จูนหยูนเสวี่ยจำต้องใช้ดวงตาเพียงข้างเดียว มองเห็นจุนจิ่วยืนอยู่ใกล้นางห่างออกไปเพียงคืบ
นางเห็นรอยยิ้มบนริมฝีปากจูนจิ่ว ทันใดนั้นความรู้สึกเย็นวาบขึ้นจากกระดูกสันหลัง รู้สึกใจคอไม่ดี
ตึง!
กำปั้นอีกอันพุ่งไปยังดวงตาอีกข้างหนึ่ง จูนจิ่วเสแสร้งแย้มยิ้มขึ้น “อย่างนี้จะได้เท่าเทียมกันทั้งสองข้าง”
เมื่อพบว่าแท้จริงแล้วนางได้ก้าวเข้าสู่หลุมพรางที่จูนจิ่วถักทอไว้แต่แรกแล้ว!
จูนหยูนเสวี่ยก็เหมือนดั่งคนทั่วไป ยากจะเชื่อว่าจูนจิ่วจะมีความสามารถถึงเพียงนี้ นางมิใช่นักปรุงยาหรือ?นางมิใช่เศษสวะที่ไม่สามารถฝึกฝนได้หรอกหรือ?ทำไมถึงสามารถล้มนางผู้เป็นถึงนักจิตชั้นสามได้ ถูกชกจนไม่มีแรงต่อกรได้เลย
จูนจิ่วกล่าวขึ้นอีก “แท้จริงแล้วข้าควรฆ่าเจ้า แต่เมื่อยังไม่ได้เห็นพิธีเสกสมรสของเจ้าและเฟิ่งเทียนฉี จะฆ่าเจ้านั้นยังเร็วไปนัก จึงปล่อยชีวิตสุนัขตัวหนึ่งไป”
หญิงร้ายชายเลว ช่างเป็นคู่ที่สวรรค์สรรค์สร้าง!หากไม่ได้อยู่ด้วยกัน นับว่าน่าเสียดายนัก
เมื่อได้ต่อยจูนหยูนเสวี่ยไปยกหนึ่ง ใจของจูนจิ่วนับว่าสลายความคุกรุ่นในจิตใจไปได้มาก นางชักขากลับ ปัดมือ จัดแต่งชายเสื้อ จูนจิ่วแย้มยิ้มอย่างโหดเหี้ยมอำมหิต “จูนหยูนเสวี่ย พวกเรานับว่ายังมีเวลาเนิ่นนาน ค่อยๆ มาคิดบัญชีก็แล้วกัน”
“จูนจิ่วข้าจะฆ่าเจ้า!” ใครจะรู้จูนหยูนเสวี่ยปีกลุกขึ้น พลางดึงมีดที่ซ่อนเอาไว้ใต้ชายแขนพุ่งไปยังจูนจิ่ว ระยะระหว่างพวกเขาใกล้เกินไป ใกล้จนมิอาจหลบหลีกได้
เห็นดังนั้นหยูนเฉียวกลับสูดหายใจขึ้น ตะโกนออกไป “แม่นางจูนระวัง!”
สึบ--!
เสียงดังขึ้นกลางอากาศ ใบมีดพุ่งตรงไปยังหัวใจของจูนจิ่ว นางจะฆ่าจูนจิ่วให้ได้!
จูนจิ่วยกมือขึ้นคว้าข้อมือของจูนหยูนเสวี่ยเอาไว้ นางยิ้มเย็น แค่นหัวเราะดุร้ายเย็นชา ออกแรงมากขึ้น ฉึบ!
กระดูกแตกละเอียด จูนจิ่วหยิบมีกขึ้น ยกเท้าขึ้นเตรียมเตะจูนหยูนเสวี่ยออกไปไกล จูนหยูนเสวี่ยกลิ้งบนพื้นสามครั้งจึงหยุดลงได้ สายตาเย็นเยียบนั้น จูนจิ่วยกมือใบมีดในมือลอยออกไป ตุบ!ใบมีดนั้นไม่ได้อยู่ในมือของจูนหยูนเสวี่ย กลับปักตรึงมือของนางลงกับพื้น
“อ้ากกกก”
ได้ยินเสียงร้องโอดโอยของจูนหยูนเสวี่ย จูนจิ่วจึงเอ่ยขึ้นเสียงเย็นชา “จูนหยูนเสวี่ย บัญชีต้องค่อยๆ ชำระ เจ้าไม่ต้องรีบไปตายหรอก ข้ายังมีของขวัญมอบให้พวกเจ้าตระกูลจูน อย่าลืมช่วยข้าแจ้งไปยังจูนสงเทียน นี่มันเป็นเพียงการเริ่มต้น” หันกายกลับไป จูนจิ่วทิ้งจูนหยูนเสวี่ยตรงนั้นแล้วจากไป เมื่อเดินไปทางไหน ผู้คนต่างหลบทางให้นางเดินไปเงียบๆ สายตาที่มองมายังนางแปรเปลี่ยนจากยิ้มเยาะเกลียดชัง เป็นหวาดกลัวหวั่นเกรง จูนจิ่วแข็งแกร่งยิ่งนัก!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ
หนังสือยังไม่จบ ไม่อัปต่อแล้วเรอค่ะ...