เหอจื่ออันสีหน้าเคร่งขรึม “ผมบอกให้พวกคุณดูแลเธอให้ดี ทำไมถึงเป็นแบบนี้ได้?”
คุณหมอก็หมดหนทาง ภาาวะซึมเศร้าหลังการคลอดนี้ ไม่ใช่ว่าดูแลดีแล้วจะหลีกเลี่ยงได้ โดนเฉพาะเคสพิเศษของเวินหนิง
ตอนนี้เธอออกไปข้างนอกไม่ได้ และก็ไม่สามารถพูดคุยกับผู้คนได้ แม้กระทั่งไม่สามารถดูแลลูกได้ ความเครียดทางใจก็มากอยู่แล้ว เป็นเรื่องปกติที่จะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น
“คุณเวินถูกแยกกับลูกทันทีหลังจากที่คลอด ในใจจึงฝังเมล็ดความหดหู่ใจไว้ บวกกับ...ตอนนี้เธอสูญเสียความเป็นอิสระ อาการจึงยิ่งอยู่ยิ่งแย่ลง”
คุณหมอพูดอย่างจริงจัง “ดูท่าแล้ว ถ้าหากไม่รีบรักษา อาการของเธอจะไม่ได้อยู่ในแง่ดี”
“อะไรคือไม่ได้อยู่ในแง่ดี!” เหอจื่ออันได้ยินดังนั้น ก็โมโหจนดึงคอเสื้อของคุณหมอแล้วผลักเขาเข้ากับกำแพง “ผมไม่สนว่าพวกคุณจะใช้วิธีไหน จะต้องรักษาเธอให้หาย!”
“งั้นก็ทำได้เพียงพึ่งพายาระงับประสาทและสารละลายสารอาหารเท่านั้น...” คุณหมอขยับแว่น สีหน้าหมดหนทาง “โรคทางหัวใจต้องใช้ยาใจ เราจะปล่อยให้เธอลืมทุกอย่าง สูญเสียความทรงจำไปเหรอ...”
เหอจื่ออันปล่อยมืออย่างหมดแรง มองดูหน้าซีดขาวของเวินหนิงที่นอนอยู่บนเตียงคนไข้ เขาจับมือของหญิงสาวไว้ มือที่เย็นเฉียบนั้น มันทำให้หัวใจของเขาแข็งชาเพราะเหตุนี้
ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของตระกูลลู่ ถ้าหากไม่ใช่ลู่จิ้นยวนตามหาเธออย่างบ้าคลั่งในตอนนี้ หรือว่าภายใต้การดูแลของคนในครอบครัว สถานการณ์ของเวินหนิงก็ไม่เลวร้ายขนาดนี้
“ยังมีอีกวิธีนึง...”
เหอจื่ออันเงียบอยู่พักนึง ความมุ่งหวังสะท้อนผ่านดวงตา “สะกดจิต ทำให้เธอลืมความชอกช้ำก่อนหน้านี้ ให้เธอลืมการมีอยู่ของเด็กไปให้หมด!”
เหอจื่ออันพูดอย่างหมดหนทาง ก่อนหน้านี้เขาเคยพบกับหมอจิตแพทย์ที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากคนนึง ภายใต้การรักษาของเขา สามารถทำให้ความจำของคนเกิดความเลอะเลือนและสับสน...คนที่ถูกเขาสะกดจิตจะคิดว่าเรื่องที่เคยเกิดขึ้นไม่มีอยู่จริง ส่วนเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นถึงจะเป็นเรื่องจริง
“แต่ว่า...นี่...”
คุณหมอตกใจเป็นอย่างมาก สีหน้าของเหอจื่ออันเย็นชา แต่เขาสามารถดูออกได้ว่า เหอจื่ออันจริงจัง
“นี่เป็นวิธีสุดท้าย พวกคุณดูแลเธอให้ดี เรื่องนี้ห้ามเปิดเผยออกไปเด็ดขาด!”
เหอจื่ออันกำมือแน่น มองดูใบหน้าของเวินหนิง เขารู้ว่าการพรากความทรงจำของเธอไป มันไม่ยุติธรรม แถมไร้ยางอาย
แต่เมื่อคิดได้ว่าวิธีนี้สามารถปลดปล่อยเวินหนิงจากความเจ็บปวดได้แน่นอน อีกทั้ง...สามารถทำให้เธอลืมเรื่องที่เคยเกิดขึ้นกับลู่จิ้นยวนทั้งหมด เหอจื่ออันจึงสั่นคลอน
เขายอมรับว่าทำแบบนี้ชั่วช้าต่ำทราม ตั้งแต่เริ่มต้นเขาไม่ได้พึ่งพาวิธีการตรงไปตรงมาเพื่อมาถึงจุดนี้อยู่แล้ว เพื่อให้ได้สิ่งที่ตัวเองต้องการ เขาคุ้นเคยกับวิธีการไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็เอาด้วยกลแบบนี้อยู่แล้ว
“ถ้าหากเธอรู้เข้า เธอจะโทษฉันไหม?”
เหอจื่ออันก็คิดไม่ถึงว่าลู่จิ้นยวนจะหัวแข็งขนาดนี้ หรือว่าเรื่องของตระกูลลู่เขาไม่สนใจแล้ว?
เห็นสถานการณ์ของเวินหนิงยิ่งอยู่ยิ่งแย่ เขาไม่อยากจะเสียเวลาคิดอะไรอีก ร่างกายของเวินหนิงรอไม่ไหว
ไป๋หลินยวี่มองดูที่อยู่ข้างล่าง จากนั้นก็ฉีกกระดาษโน้ตโยนทิ้งชักโครกแล้วกดชักโครก
ตอนนี้ไม่มีวิธีอื่นแล้ว ทำได้แค่นี้แหละ
...
ตอนที่ลู่จิ้ยวนกลับมาจากข้างนอก พบว่าไป๋หลินยวี่กำลังรอเขาอยู่
ทำให้เขาค่อนข้างแปลกใจ ในเมื่อไม่กี่วันมานี้ ไป๋หลินยวี่เกลียดเขาอย่างเห็นได้ชัด
“นายพูดไว้ไม่ใช่เหรอ ว่าถ้ายังมีชีวิตอยู่ก็ต้องได้เห็นคน แต่ถ้าตายแล้วก็ต้องได้เห็นศพ งั้นฉันจะให้นายดู”
ลู่จิ้นยวนมือสั่น “คุณพูดอะไรนะครับ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงแค้นแสนรัก