บ่วงแค้นแสนรัก นิยาย บท 419

“รับทราบ ผู้อำนวยการเหมย”

ทุกคนตะลึงไปเล็กน้อย ก่อนจะมีท่าทีตอบรับในทันทีต่อมา แต่ละคนต่างหยิบสมุดบันทึกของตนเองแล้วจึงเดินเข้าห้องประชุมไป แววตาของแต่ละคนล้วนแตกต่างกันออกไป มีมากมายหลากหลายอารมณ์

ผู้อำนวยการเหมยคนนี้มีชื่อว่าเหมยซาน ก็คือรองผู้อำนวยการของแผนกออกแบบB ที่ทุกคนพูดออกมาก่อนหน้านี้

หลังจากที่เหมยซานโยนระเบิดอารมณ์ลงไปแล้ว ก็เห็นว่าทุกคนต่างให้ความร่วมมือดี สีหน้าจึงผ่อนคลายลงมาเล็กน้อย หลังจากที่มองไปรอบๆ หนึ่งที ก็สะบัดตูดเดินเชิดเข้าห้องประชุมไปเลยเช่นกัน

ทิ้งให้เวินหนิงยืนทื่ออยู่ที่เดิมไปทั้งอย่างนั้น

เวินหนิงหันไปมองซ้ายขวา บริเวณออฟฟิศในช่วงเวลานี้ไร้วี่แววของคนแม้แต่คนเดียว และเธอยังยืนอยู่บริเวณข้างในทางเดินตรงกลาง เมื่อสักครู่เหมยซานเองก็ยืนอยู่ที่ทางเดินนี้เช่นกัน ระยะห่างของทั้งสองคนนั้นห่างกันแค่เพียงไม่กี่ก้าว

ภายใต้สถานการณ์ที่เหมือนเกือบจะเป็นการพบหน้าอีกฝ่ายเช่นนี้ ถ้าจะบอกว่าเหมยซานไม่เห็นเธอ แม้แต่ผีก็ยังไม่อาจเชื่อได้ลง ถ้าอย่างนั้นก็มีความเป็นไปได้อยู่เพียงอย่างเดียวแล้ว อีกฝ่ายนั้นจงใจทำแบบนั้น

เธอยืนนิ่งขรึมอยู่ที่เดิมสักพัก หลังจากนั้นก็หยิบกระเป๋าแล้วมุ่งหน้าไปทางห้องประชุม

หลังจากเคาะลงไปเบาๆ สองทีเวินหนิงก็เปิดประตูห้องประชุมออก เดินเข้าไปอย่างสง่างาม แต่ว่า.......

มีเสียงดังป้าบดังขึ้นมาหนึ่งเสียง

เหมยซานใบหน้าเคร่งขรึม เอกสารที่อยู่ในมือถูกโยนทิ้งลงบนโต๊ะอย่างแรงจึงทำให้เกิดเสียงดังขึ้นมา ในขณะต่อมาก็เป็นเสียงระเบิดความกรุ่นโกรธอันแหลมสูงของเธอ

“เธอเป็นใคร ที่นี่เป็นห้องประชุม สถานที่สำคัญของแผนก ใครให้เธอเข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาต”

เวินหนิงอดขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อยไม่ได้ ไม่ว่าดีไซน์เนอร์เหมยคนนี้จะไม่ยินดีพอใจมากแค่ไหน ตนเองก็ต้องได้รับคำสั่งเรื่องการโยกตำแหน่งที่มีไปตามระเบียบอย่างเป็นทางการแล้วสิ

คำพูดคำจาไม่รื่นหู นับตั้งแต่วินาทีที่เธอได้ย้ายเข้ามานั้น ตนเองก็ถือได้ว่าเป็นผู้อำนวยการของแผนกออกแบบB แล้ว การรักษาการตำแหน่งหัวหน้าแผนกชั่วคราว คุณดีไซน์เนอร์เหมยคนนี้ก็ยังคงเป็นได้แค่รองผู้อำนวยการเท่านั้น

แต่สำหรับเหมยซานกับพฤติกรรมการกีดกันที่ทำไปอย่างสบายใจไร้กังวลเช่นนี้ ถึงขนาดที่ว่ากระทำการรุนแรงแบบไม่สนใจไยดีลูกน้อง สิ่งเหล่านี้ได้ทำให้เธอรู้สึกตกใจอยู่เล็กน้อย

อารมณ์พวกนี้ ทำให้ภายในใจของเวินหนิงรู้สึกตายด้านไปในทันที ริมฝีปากเธอยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย สีหน้าและรอยยิ้มที่ปรากฏอยู่บนใบหน้ายังคงสงบนิ่ง การที่ได้ถูกโจมตีด้วยอารมณ์เมื่อสักครู่ราวกับว่าไม่โกรธเคืองอะไรเลยแม้แต่น้อย

แต่ว่ากันตามตรงแล้ว ก็โจมตีมาได้อย่างตรงจุดเลยทีเดียว

“ขออภัยด้วยค่ะ ที่รบกวนการประชุมของทุกท่าน คุณคือรองผู้อำนวยการเหมยสินะคะ งั้นฉันจะขอแนะนำตัวสักหน่อย ฉันคือเวินหนิง เป็นผู้อำนวยการของแผนกออกแบบB คนใหม่ค่ะ”

“แม้ว่าตอนนี้คุณจะดำรงตำแหน่งของฉันอยู่ แต่ฉันก็พึ่งจะมา ยังไม่คุ้นเคยกับเอกสารของแผนกออกแบบB มากเสียเท่าไหร่ การประชุมในครั้งนี้ ก็ให้รองผู้อำนวยการเหมยเป็นคนรับหน้าที่ไปก่อนชั่วคราวนะคะ”

ขณะที่เธอพูด ก็นั่งลงบนเก้าอี้แถวสุดท้ายที่ถูกจัดเอาไว้อยู่อย่างเรียบง่าย แล้วยิ้มออกมา “รองผู้อำนวยการเหมยคะ เชิญต่อได้เลยค่ะ”

ความเงียบเข้าปกคลุม ทั้งห้องประชุมเงียบเป็นเป่าสาก

บรรดาดีไซ์เนอร์ที่อยู่ทั้งสองด้านทั้งซ้ายและขวาค่อยๆ เหลือบตามองคนอื่นอย่างเงียบๆ แม้ว่าในใจจะโกลาหลไปหมด แต่สีหน้าที่ปรากฏอยู่ก็ไม่เผยความผิดปกติใดๆ ออกมาเลย

พวกเขาตกใจมากจริงๆ กลายเป็นว่าคนที่ถูกออกคำสั่งโดยตรง จะกลายเป็นถูกรังแกแบบนี้ไปได้อย่างไร ดูไปที่สีหน้าของผู้อำนวยการเหมย ช่างเป็นสีหน้าที่น่ากลัวเสียจริง

เหมยซานแทบจะระเบิดออกมาแล้ว แต่สำหรับสิ่งที่เวินหนิงได้กล่าวออกมานั้น ก็ไม่สามารถโต้แย้งออกมาได้แม้แต่คำเดียว

คำเรียกรองผู้อำนวยการคำนี้ เธอสวมมันไว้ตั้งกี่ปีมาแล้ว สำหรับคำว่า ‘รอง’ คำนี้นั้นก็ขยาดจนทนจะไม่ไหวแล้ว คนในแผนกB ต่างก็รู้งานแล้วเรียกเธอว่าผู้อำนวยการเหมย

“รับทราบค่ะ ผู้อำนวยการ เวิน” เธอพูดออกมาอย่างยากลำบาก

“นี่ก็ยืดเยื้อกันมานานมากแล้ว งั้นรีบมาเริ่มประชุมกันเลยดีกว่า” เวินหนิงกล่าวออกมา

ความจริงแล้วไม่มีการประชุมครั้งนี้หรอก เดิมทีเป็นเพียงข้ออ้างที่เหมยซานนำมาใช้ แต่ว่าตอนนี้ แม้ว่าจะไม่ได้เตรียมตัวมาเลยแม้แต่น้อย เธอก็จำเป็นที่จะต้องนำคำโกหกของเธอ มาปั้นน้ำเป็นตัวต่อไปให้จบ ไม่มีทางเลือกอื่นนอกเสียจากต้องนำเอาวาระในการประชุมคราวที่แล้วกลับมาพูดในที่ประชุมอีกครั้งหนึ่ง

ด้วยเหตุนี้ทุกคนที่นั่งขนาบอยู่ทั้งสองด้านของโต๊ะ สีหน้าของแต่ละคนจึงดูแปลกผิดปกติเป็นอย่างมาก

การประชุมครั้งนี้ชักแม่น้ำทั้งมาพูด จนยืดเวลาไปจนครบครึ่งชั่วโมงก็ประกาศจบการประชุมแล้ว

เวินหนิงลุกขึ้นยืน เดินไปหยุดอยู่ที่เบื้องหน้าของเหมยซาน “รองผู้อำนวยการเหมยคะ วันนี้ฉันมาทำงานเป็นวันแรก ยังไม่รู้ว่าห้องทำงานของฉันอยู่ที่ไหน รบกวนคุณช่วยพาไปดูหน่อยได้ไหมคะ”

สีหน้าของเหมยซานแข็งเกร็งไปในทันที เธอถึงพึ่งจะนึกขึ้นออกว่า แม้ว่าเรื่องโยกตำแหน่งมาที่นี่นั้นทางเบื้องบนจะแจ้งให้ทราบมาแล้วหลายวัน แต่เธอก็กลับยังไม่ได้ย้ายข้าวของออก ยังคงอยู่ ณ ที่ห้องทำงานแห่งนั้น

ตอนนี้เจ้าของตัวจริงต้องการที่จะเข้าใช้ ก็หมายความว่าเหมยซานจะต้องย้ายกลับเข้าห้องทำงานเดิมของเธอ แน่นอนว่าเธอไม่พอใจเป็นอย่างมาก

มีให้เปรียบเทียบก็ย่อมมีข้อแตกต่าง ห้องทำงานของหัวหน้าอย่างผู้อำนวยการ เป็นสิ่งที่ระดับผู้บริหารจัดการองค์กรควรจะได้รับจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของพื้นที่ขนาดความกว้างขวาง การตกแต่งภายใน ตำแหน่งที่ตั้ง และอื่นๆ อีกมากมาย ไม่ใช่สิ่งที่ห้องทำงานเธอจะนำมาเปรียบเทียบได้เลย

เสพสุขอยู่ในห้องทำงานขนาดใหญ่อยู่หลายวัน ใครจะยอมกลับไปกันล่ะ

เหมยซานยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย “ผู้อำนวยการเวินคะ ต้องขออภัยด้วยจริงๆ ค่ะ ห้องทำงานของผู้อำนวยการ ฉันกำลังใช้งานอยู่”

“ในเมื่อหลังจากที่ผู้อำนวยการคนก่อนไปแล้ว งานในแผนกออกแบบB นั้นก็ยังคงจำเป็นที่จะต้องดำเนินการต่อ เรื่องในแต่ละวันทั้งเยอะและยุ่งมาเลยค่ะ ห้องทำงานของผู้อำนวยการนั้นมีขนาดกว้างขวาง บริเวณออฟฟิศนั้นทั้งแคบและเล็ก ทำงานในห้องทำงานจะสะดวกสบายและมีประสิทธิภาพมากกว่า ฉันจึงได้ย้ายเข้าไปค่ะ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงแค้นแสนรัก