กงมั่วอ้าปากจะพูด แต่ก็ไม่มีแรง ผ่านความทุกข์ทรมานมาทั้งคืน ตอนนี้เธอรู้สึกปวดเมื่อยร่างกาย เวียนหัวจนเกิดภาพหลอน
เมื่อคืนเธอปวดท้องตื่นตอนห้าทุ่ม วิ่งไปเข้าห้องน้ำแล้วรอบหนึ่ง กลับมานอนบนเตียงได้สักพัก ท้องก็เริ่มปั่นป่วน
เป็นแบบนี้จนถึงแปดโมงเช้า เธอจำไม่ได้แล้วว่าวิ่งไปเข้าห้องน้ำกี่รอบ เธอยังรู้สึกอีกว่า อาจจะตายคาโถส้วมด้วยซ้ำ
โตขนาดนี้ เธอเพิ่งเคยสิ้นหวังแบบนี้ครั้งแรก ซวยมาก
เย่หว่านจิ้งรีบมาพยุงตัวเธอไว้ "ทำไมมือหนูเย็นขนาดนี้ล่ะ หนูเป็นอะไรกันแน่?"
เธอพยายามจะพูด แต่พอจะพูดสีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที รีบก้มตัวจับท้องไว้ สีหน้าย่ำแย่มาก วินาทีต่อมา เธอหมดแรงจนล้มลงไป
ในโรงพยาบาล
"คุณหมอ คนไข้เป็นอะไรคะ? เมื่อวานยังดีอยู่เลย"
ในห้องพักฟื้น ไม่ใช่มีแค่เย่หว่านจิ้ง เถ้าแก่ก็ตามมาด้วย เพราะยังไงนี่ก็เป็นหลานสาวของเพื่อนรัก รับปากจะดูแล แต่มาได้ไม่กี่วันก็ล้มป่วยซะแล้ว
ลู่จิ้นยวนก็อยู่ จูงมือลูกชายยืนอยู่ข้างๆ เขาอาจจะเป็นคนเดียวที่ไม่รู้สึกเป็นห่วงกงมั่ว
คุณหมอเอ่ย "ไม่ต้องกังวลครับ คนไข้ไม่มีอันตรายอะไร แค่ร่างกายอ่อนแอเกินไป"
"จากผลที่เราตรวจเช็คมา คนไข้อาหารเป็นพิษ ท้องเสียมาทั้งคืนเลยเป็นแบบนี้ เราให้กลูโคสคนไข้แล้ว พักฟื้นอีกสองวันก็ไม่เป็นอะไรแล้วครับ"
"แต่ว่าก็ต้องระวังนะครับ ถึงแม้จะเป็นแค่ท้องเสีย แต่ถ้ายื้อนานกว่านี้ก็อาจจะเกิดเรื่องได้"
สีหน้าเย่หว่านจิ้งแปลกๆ ทีแรกท่านคิดว่าป่วยหนักซะอีก ไม่คิดเลยว่าแค่ท้องเสีย เลยรู้สึกโล่งอกไป
เวลาเดียวกัน กงมั่วก็ค่อยๆได้สติ
เย่หว่านจิ้งรีบเดินไปหา "เสี่ยวมั่ว หนูฟื้นสักที ยังรู้สึกไม่ดีหรือเปล่า ต้องบอกน้านะ"
เถ้าแก่ลู่ก็เอ่ยถามอย่างเป็นห่วง "หนูอยู่ที่บ้านตระกูลลู่ แต่ล้มป่วยแบบนี้ นี่เป็นความรับผิดชอบของเรา หนูไม่ต้องคิดอะไรมาก พักผ่อนดูแลร่างกายเถอะ"
ลู่อันหรานเบะปาก แล้วเอียงศีรษะไปอีกทาง
ความจริงเมื่อกี้ตอนที่คุณหมอกำลังพูด กงมั่วฟื้นแล้ว เธอก็อยากรู้เหมือนกันว่าตัวเองเป็นอะไร เลยไม่ลืมตา
ไม่คิดเลยว่า ตัวเองอาหารจะเป็นพิษ?
เธอโตขนาดนี้ ให้ความสำคัญเรื่องอาหารมาก อาหารที่สกปรกไม่ถูกหลักอนามัยจะไม่แตะ ทำไมอาหารถึงเป็นพิษล่ะ?
กงมั่วนึกถึงเมื่อวาน ก่อนที่เธอจะนอน ก็แค่ดื่มซุป แล้วซุปนี้……
เธอนึกอะไรได้ เลยแอบมองไปทางเด็กน้อยที่ยืนข้างผู้ใหญ่ เลยเห็นท่าทางที่ลู่อันหรานเบะปาก เธอโกรธจนจะบ้า
ท่าทางที่ไม่สนใจของลู่จิ้นยวน ก็กระตุกต่อมอารมณ์เธอด้วย อารมณ์ของคนป่วยหวั่นไหวง่ายอยู่แล้ว
ในใจเธอรู้สึก ที่ตัวเองเป็นแบบนี้ เป็นเพราะลู่อันหรานแน่นอน เพราะเขาเป็นคนยกซุปมาให้
แต่เพราะอะไร ท่าทางเมื่อกี้ของเขายังไม่ชัดเจนอีกเหรอ
เธอนึกถึงเรื่องเมื่อวานที่เธอท้องเสียทั้งคืน ความโกรธความแค้นก็เอ่อล้นออกมา น้ำตาก็ไหลออกมาอย่างง่ายดาย
"เสี่ยวมั่ว หนูเป็นอะไร? ทำไมร้องไห้ล่ะ รู้สึกไม่สบายที่ไหนหรือเปล่า?"
กงมั่วแอบด่าเย่หว่านจิ้งว่าไม่มีสมอง เลยแสดงสีหน้าย่ำแย่ไปกว่าเดิม แอบมองไปทางลู่อันหราน พูดสะอึกสะอื้น
"อันหราน……หนูเกลียดน้ามากเลยเหรอ?"
เถ้าแก่ลู่กับลู่จิ้นยวนที่ไม่เอ่ยพูดอะไร ในใจมีลางสังหรณ์แล้ว พอกงมั่วถามแบบนี้ ก็แสดงว่าลางสังหรณ์ของพวกเขาเป็นจริง
สีหน้าทั้งสองเข้มงวดขึ้นมาทันที
ในตาลึกๆของลู่อันหรานมีประกาย เขาทำหน้าไม่รู้เรื่อง "คุณน้ากง คุณน้ากำลังพูดอะไรครับ? อันหรานไม่ได้พูดว่าเกลียดคุณน้านะครับ"
ถึงปากจะไม่พูด แต่แกทำไปแล้ว
จริงๆกงมั่วก็ไม่อยากเชื่อ เด็กไม่ถึงหกขวบตรงหน้าจะมีความคิดแบบนั้น แล้ววางยาในซุปของเธอ
แต่ถ้าจงใจที่จะกลั่นแกล้งล่ะ?
สมมติว่าเด็กนี่เกลียดเธอ อยากจะแกล้งเธอ แต่ยังเด็กเลยควบคุมประมาณไม่ได้ เลยทำให้เธอทุกข์ทรมานขนาดนี้ก็เป็นไปได้
พอคิดแบบนี้ เธอก็รู้สึกขนลุก เด็กขนาดนี้ทำอะไรไม่คิด วันนี้อาจจะวางยาถ่ายในซุปเธอ ถ้าครั้งหน้าเป็นยาพิษล่ะ?
แค่คิดกงมั่วยังเหงื่อตก คิดว่าจำเป็นต้องยืมมือคนตระกูลลู่มาสั่งสอนเด็กบ้าคนนี้แล้วล่ะ
เย่หว่านจิ้งเอ่ย "เสี่ยวมั่ว หนูอย่าคิดมาก อันหรานจะเกลียดหนูได้ยังไง"
กงมั่วไม่ตอบ สถานการณ์อึดอัดทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงแค้นแสนรัก