บ่วงแค้นแสนรัก นิยาย บท 465

อย่างไรก็ตาม เวินหนิงกำลังจะทำการอธิบายแล้วจะออกไปจากที่นี่ แต่ตี้น่าก็ก้าวมาข้างหน้าแล้วหยุดเธอไว้

เวินหนิงรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย แต่ตี้น่ากับตั้งใจไว้แล้ว เพราะเมื่อกี้เธอสังเกตเห็นว่าหลังจากที่เวินหนิงกับลู่จิ้นยวนพูดกันไม่กี่คำสีหน้าก็เปลี่ยนไปอย่างมาก เธอจึงต้องการที่จะรู้ให้ชัดเจนกว่านี้

เวินหนิงหลีกทางให้เธอไปสองครั้ง แต่เมื่อเห็นว่าตี้น่าไม่มีเจนตนาที่จะหลีกทางให้ จึงเข้าใจทันทีว่าเธอตั้งใจ ก็เลยไม่ได้หลีกเธออีกต่อไป แต่พูดขึ้นตรงๆว่า “ คุณหนูตี้น่า คุณหาฉัน มีเรื่องอะไรเหรอคะ ”

ตี้น่ามองไปที่เวินหนิง “ ตั้งแต่เมื่อกี้ สีหน้าของคุณเวินก็ดูไม่ค่อยดีสักเท่าไร ฉันเป็นห่วงก็เลยแวะมาดูหน่อยค่ะ ”

เวินหนิงก้าวถอยหลังก้าวหนึ่ง ใบหน้าของตี้น่ายังคงสงวนรอยยิ้มไว้และดูสง่างามอย่างคุณหนูใหญ่ของตระกูลฮอร์ตัน แต่มันไม่ได้ทำให้เวินหนิงรู้สึกสนิทสนมเลย แต่กลับรู้สึกอึดอัด

ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกว่า คุณหนูใหญ่ของตระกูลฮอร์ตันที่ดูอ่อนโยนคนนี้ คงจะไม่สามารถรับมือได้ง่ายอย่างคุณหนูรองที่สูญเสียอำนาจไป

ทุกอย่างแสดงให้เห็นว่า ปืนจากที่สว่างหลบได้ง่ายและลูกศรจากที่มืดยากที่จะป้องกัน อารมณ์นิสัยใจคอที่อดกลั้นมาหลายสิบปี ไม่สามารถเดาออกได้ง่ายๆ

ระหว่างนั้น ลู่จิ้นยวนก็ได้กลับมาจากข้างนอก " ทำไมยังไม่ไปล่ะ"

ลู่จิ้นยวนคิดว่า ทันทีที่เวินหนิงรู้ว่าแม่ของเธอตื่นแล้ว ต้องอยากพบเจอมากในเวลลาแรก จึงตรงไปที่ลานจอดรถรอเธอ

คิดไม่ถึงว่ารออยู่ตั้งนานก็ไม่เห็นแม้แต่เงามา แต่เมื่อเขาดูแล้วก็เห็นว่าโดนคุณหนูตี้น่าพัวพันอยู่

“ ดิฉันแค่คุยกับคุณเวินไม่กี่คำค่ะ ”

ตี้น่าเห็นเป็นแบบนี้ ก็เลยยิ้มอย่างขอโทษ

แม้ว่าลู่จิ้นยวนจะรู้สึกไม่พอใจ แต่เขาก็ไม่สามารถหาเรื่องผู้หญิงคนหนึ่งต่อหน้าผู้คนมากมายแบบนี้ได้ ดังนั้นเขาจึงตอบกลับสั้นๆ อืม อย่างเฉยเมย

เวินหนิงรีบเดินตามเขาออกไปทันที

ระหว่างทางลู่จิ้นยวนขับรถไป แต่เวินหนิงกำลังครุ่นคิด

" คุณหนู่ตี้น่าคนนี้ ดูเหมือนจะไม่ง่ายอย่างที่คิด"

ลู่จิ้นยวนเหลือบมองเวินหนิง “ เมื่อกี้นี้ เธอพูดอะไรกับคุณเหรอ”

เวินหนิงส่ายหัว พฤติกรรมของตี้น่าดูปกติดี แต่เธอมักจะรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ

นอกจากนี้รวมถึงวิธีการที่เธอขึ้นครองตำแหน่งก็แปลกมาก ดังนั้นระวังเธอไว้หน่อยก็ดี

“ ต่อไปถ้าไม่จำเป็นก็อยู่ห่าง ๆ เธอหน่อย”

“ หลังจากน้องสาวเสียโฉมเธอยังสามารถขึ้นครองตำแหน่งได้ในช่วงเวลาสั้น ๆ เช่นนี้ และยังคงยืนหยัดอยู่ได้ กลัวว่าเบื้องหลังน่าจะมีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่”

เวินหนิงพยักหน้า

ระหว่างนั้น ทั้งสองก็ขับรถมุ่งหน้าไปยังโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว

เวินหนิงรีบร้อนไปเจอแม่ของเธอ ส่วนลู่จิ้นยวนก็กำลังครุ่นคิดเช่นกัน ทั้งสองคนจึงไม่ได้พูดคุยอะไรอีกเลย

...

โรงพยาบาล

ทันทีที่รถจอด เวินหนิงก็รีบถอดเข็มขัดนิรภัยออกแล้ววิ่งเข้าไปในโรงพยาบาลทันที

ห้องผู้ป่วยของไป๋หลินยวี่อยู่ในห้อง VIP ชั้นบนสุด ณ ตอนนี้การผ่าตัดเสร็จสิ้นแล้วและได้เข็นกลับไปพักฟื้นที่ห้องผู้ป่วยแล้ว

ขณะที่เวินหนิงวิ่งเข้าไปนั้น เธอก็ได้หยุดฝีเท้าลงที่หน้าประตู

เวินหนิงก้มหน้าลง ทันใดนั้นเธอไม่รู้ว่าจะเข้าไปเผชิญหน้ากับแม่ของเธอได้อย่างไร ความรู้สึกของเธอในตอนนี้ซับซ้อนมาก

เดิมที แค่คิดว่าหาแม่ให้พบ ทำการปลูกถ่ายเซลล์ไขกระดูกของตัวเองให้แม่ ก็สามารถช่วยชีวิตแม่ได้แล้ว

แต่สิ่งที่คิดไม่ถึง กับกันตรวจเจอว่าทั้งสองคนไม่มีความสัมพันธ์เป็นแม่ลูกกัน เรื่องนี้เธอคิดยังไงก็คิดไม่ถึงมาก่อน

อย่างไรก็ตาม ในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา การดูแลและความรักของแม่ที่มีต่อตัวเองไม่น้อยกว่าใคร ดังนั้น ... สรุปมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่

เวินหนิงคิดไม่ออก แต่ก็ยากมากที่จะไม่ไปคิดถึงเรื่องนี้ แต่ไม่ว่าอย่างไร ตอนนี้ไป๋หลินยวี่ต้องการไขกระดูกของคนในครอบครัวเพื่อรักษาอาการป่วยของเธอ มิฉะนั้นมันจะเลวร้ายลงไปเรื่อยๆ

เวินหนิงพยักหน้า กับการดูแลเอาใจใส่ของลู่จิ้นยวนในช่วงนี้ ทำให้เธอรู้สึกซึ้งใจมาก

รอลู่จิ้นยวนออกไปและปิดประตูลง ไป๋หลินยวี่ถึงได้ปล่อยโฮออกมา แล้วกอดเวินหนิงที่อยู่ตรงหน้าร้องไห้อย่างใจจะขาด

ไม่ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน เธอก็ยังคงคิดถึงแต่เรื่องของเวินหนิง

ข่าววันที่เวินหนิงเกิดอุบัติเหตุ เธอดูแค่ครั้งเดียวเท่านั้น ในสมองของเธอมีแต่ภาพของเวินหนิงราวกับว่าเป็นคำสาปไม่มีวันสิ้นสุด

เธอยังรู้สึกว่า ถ้าไม่ใช่เพราะเธอต้องการให้เวินหนิงกลับมาดูลูกบ้าง ก็คงไม่มีใครพบเธอ และเธอก็คงจะไม่ตกลงไปในแม่น้ำเพื่อหลบหนีการไล่ล่าของลู่จิ้นยวน

เธอรู้สึกผิดอย่างมาก แทบจะทำให้เธอไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อ

ถ้าไม่ใช่เพราะคิดว่าจะต้องช่วยเวินหนิงดูแลอันหรานอีก คาดว่า เธอคงไม่ต้องการมีชีวิตอยู่อีกต่อไป

ใครจะไปคิดถึง ว่าลูกสาวที่เสียไป จะมาปรากฏตัวต่อหน้าเธอเช่นนี้

"หนิงหนิง แม่ไม่ได้ฝันไปใช่ไหม "

มือของไป๋หลินยวี่สัมผัสไปที่แก้มของเวินหนิง รู้สึกถึงความอบอุ่น แต่ก็ยังยากที่จะลบความรู้สึกที่เป็นเหมือนความฝันในใจของเธอออกไปได้

" คุณแม่ไม่ได้ฝันค่ะ หนูจริงๆ "

เวินหนิงสำลักเช่นกัน ไป๋หลินยวี่เป็นคนที่ไม่เคยแสดงอาการให้ใครเห็น โดยเฉพาะคนภายนอก แต่ก่อนนั้นที่โดนเวินฉีโม่พาเมียน้อยเข้ามาบ้าน เธอก็ยังไม่มีอาการเหมือนเมื่อครู่ที่อย่างกับจะขาดใจ

สามารถเห็นได้ว่า เธอนั้นรักลูกสาวคนนี้มากแค่ไหน

“ ใบหน้าของลูก ...ทำไมถึงเป็น ... ”

" มันเป็นอดีตไปแล้วค่ะ "

เมื่อเห็นการพูดอธิบายที่ติดๆขาดๆแบบไม่ละเอียดของเวินหนิง ไป๋หลินยวี่ยิ่งรู้สึกเจ็ยป่วยใจมาก

ถึงแม้ว่าเวินหนิงจะไม่ได้พูดอะไรมาก แต่การทีจะเปลี่ยนรูปลักษณ์ใบหน้าของเธอได้ละเอียดถี่ถ้วนขนาดนี้ อาจเป็นเพราะได้รับบาดเจ็บสาหัสมาก่อน ไม่รู้ว่าเธอต้องเผชิญกับความเจ็บป่วยมาแล้วเท่าไร

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงแค้นแสนรัก