เวินหนิงเห็นผู้หญิงตรงหน้าที่สีหน้าเหมือนกับเห็นผี เธอสามารถเข้าใจความรู้สึกนั้นได้เป็นอย่างดี
ไม่ว่ายังไง ... เธอกลายเป็นคนตายไปแล้วในสายตาของคนอื่น ๆ
“ ฉันเป็นลูกสาวของไป๋หลินยวี่ เวินหนิง ก่อนหน้านั้นฉันได้รับอุบัติเหตุบางอย่าง ตอนนี้เพิ่งกลับมาค่ะ ”
โจวหรานมองผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้า ปฏิกิริยาของเธอจริงจังมาก อย่างน้อยตัวเองไม่เห็นการเสแสร้งหรือมีเจตนาไม่ดี
หรือจะบอกว่า น่าจะไม่มีใครมาแอบอ้างผู้หญิงที่ธรรมดาคนหนึ่ง
“ ทุกวันนี้ คุณเป็นคนดูแลคุณแม่ของดิฉันมาโดยตลอด ลำบากคุณไม่น้อยเลย ต้องขอบคุณมากค่ะ”
เวินหนิงพูดจากก้นบึ้งของหัวใจ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอที่เป็นลูกสาวไม่อยู่ข้างๆแม่ของเธอ ซึ่งเป็นคนตรงหน้าคนนี้คอยดูแลคุณแม่ของเธอคนเดียว สำหรับโจวหรานนั้นเธอจึงรู้สึกสนิทสนมและใกล้ชิดเป็นพิเศษ
“ นี่เป็นสิ่งที่ฉันควรทำ”
โจวหรานเก็บความตกใจที่แสดงออกอยู่บนหน้าลง กลับสู่สีหน้าที่ปกติ
แม้ว่าต่อหน้าทุกคนเธอนั้นอยู่ในนามแม่บ้านของไป๋หลินยวี่ แต่จริงๆเลย ก่อนหน้านั้นเธอได้รับการฝึกอบรมมาเป็นอย่างดี เมื่อจำเป็นจริงๆ ต่อให้คนอื่นลงมือก่อนก็ตามเธอก็ไม่กลัว
เดิมที เธอได้รับการฝึกอบรมจากเหอจื่ออันเพื่อทำงานที่สำคัญกว่านี้ แต่ต่อมา สุดท้ายก็ถูกจัดให้มาอยู่ดูแลไป๋หลินยวี่ และที่สำคัญหน้าที่ของเธอก็กลายเป็นการปกป้องความปลอดภัยของไป๋หลินยวี่ในตอนนี้
ซึ่งโจวหรานก็ไม่รู้ถึงเหตุผลหรือความหมายอย่างชัดเจนของเหอจื่ออันที่จัดเธอให้มาอยู่น่ะจุดนี้ ตอนแรกยังมีการต่อต้านเล็กน้อย ด้วยความสามารถของเธอมาเป็นแค่แม่บ้านวัยกลางคนเท่านั้น
ซึ่งเป็นกันใช้งานที่ไม่เหมาะสมเอาสักเลย
แต่ได้ยินมาอย่างลับๆว่า เป็นเพราะไป๋หลินยวี่มีลูกสาวคนหนึ่ง ซึ่งเป็นคนที่เหอจื่ออันรักมาก
นี่เป็นเพราะคนคนนั้นได้เสียชีวิตไปแล้ว และการเสียชีวิตของเธอก็เกี่ยวข้องกับเขาอย่างมาก ถึงได้เป็นอย่างที่เห็น
แต่คิดไม่ถึงว่า วันนี้คนที่ทุกคนคิดว่าเธอตายไปแล้ว5ปี กลับมาแล้ว
ณ เวลานี้ เธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นเรื่องดีหรือเรืองร้าย
“ ตอนนี้ ..เขา. สบายดีมั้ย”
เวินหนิงมองไปที่สีหน้าสับสนของโจวหราน คิดไปคิดมาเลยถามคำถามนี้ขึ้น
โจวหรานเหลือบมองเธอ “ ตั้งแต่ที่คุณตาย เขาเกือบจะบ้า และยังคิดจะใช้อำนาจที่มีอยู่ในมือไปสู้กับตระกูลลู่ด้วย”
เวินหนิงกลั้นหายใจชั่วขณะ
เธอรู้ดีว่าการตายของเธอ จะทำให้เกิดปฏิกิริยาอย่างลูกโซ่อย่างแน่นอน แต่ถ้าเหอจื่ออันเสียสละเพื่อเธอจนถึงขนาดนี้ เธอจะต้องรู้สึกผิดไปชั่วชีวิตแน่ๆ
“ แต่ยังดี ถูกเจนนี่ห้ามเอาไว้ เพราะด้วยสภาพจิตใจของเขาในเวลานั้นและอำนาจในมือของเขา จะไปสู้กับตระกูลลู่นั้น ก็เสมือนการเอาไข่ไปตีกับหินเท่านั้น ”
“ แล้วตอนนี้เขาเป็นยังไงบ้าง
เพราะเหตุผลบางอย่างทำให้ฉันสูญเสียความทรงจำไป จึงไม่ได้ติดต่อกับเขาเลย และวิธีการติอต่อของเขาก็เปลี่ยนไปหมดแล้วเช่นกัน ฉันหาวิธีบอกเขาไม่ได้ คุณพอจะเอาเบอร์โทรของเขาให้ฉันหน่อยได้ไหมคะ ฉันอยากบอกเขาว่าฉันไม่เป็นไร เขาไม่จำเป็นต้องรู้สึกผิด "
" ตอนนี้เขากำลังทำสิ่งที่สำคัญมาก แม้แต่ฉันก็สามารถติดต่อเขาได้แค่เฉพาะบางครั้ง ฉันจะช่วยบอกเขาให้เรื่องที่ว่าคุณยังไม่ตาย"
โจวหรานเห็นความวิตกกังวลบนใบหน้าของเวินหนิง แต่ไม่ได้ให้วิธีการติดต่อของเขากับเธอตรงตามที่เวินหนิงต้องการ
เวินหนิงสะดุ้งเล็กน้อย รู้สึกได้ว่าผู้หญิงตรงหน้าเธอ ไม่อาจหยั่งรู้ได้
“ ฉันอยากบอกเขาด้วยตัวเอง ไม่ได้เหรอ”
" ฉันกลัวว่า ถ้าเขารู้ว่าคุณยังมีชีวิตอยู่ มันจะไปรบกวนจิตใจของเขา เพราะสิ่งที่เขากำลังทำอยู่ในตอนนี้มันสำคัญมาก ไม่สามารถถูกรบกวนได้"
โจวหรานพูดอย่างเฉยชา เวินหนิงเห็นว่าต่อให้ตายร้ายดียังไงเธอก็ไม่ยอมพูด จึงต้องยอม " ถ้าอย่างนั้น รบกวนคุณแล้ว "
โจวหรานพยักหน้า
เวินหนิงยังอยากจะพูดบางอย่างต่อ ในขณะนี้พยาบาลก็ได้เปิดประตูเดินเข้ามาในห้องผู้ป่วยพอดี ดูเหมือนว่าจะฉีดยาให้ไป๋หลินยวี่ เธอจึงส่งสัญญาณแล้วเดินเข้าไปในห้องผู้ป่วยเพื่อช่วยเหลือพยาบาล
โจวหรานมองตามหลังเธอแล้วขมวดคิ้ว
โจวหรานหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา จากนั้นหามุมว่างหนึ่งที่ไม่มีคน แล้วโทรหาหมายเลขที่เหอจื่ออันเคยทิ้งไว้ให้เธอ
งั้นทุกสิ่งที่เขาทำมาอย่างแหนบเหนื่อยในช่วงหลายปีที่ผ่านมาก็จะสูญเปล่า
เธอจะไม่ปล่อยให้สิ่งนี้เกิดขึ้นเป็นอันขาด
ขณะที่คิด ใบหน้าที่สวยงานของเจนนี้เต็มไปด้วยอุบาย หลังจากที่เหอจื่ออันคุยธุรกิจกับคนอื่นเสร็จกลับมา ก็เห็นรูปร่างใบหน้าที่ผิดปกติของเธอ
"คุณเป็นอะไรหรือเปล่า "
"ไม่ ไม่มีอะไร."
เจนนี่รีบซ่อนโทรศัพท์มือถือ " การเจรจาของวันนี้เป็นไปด้วยดีหรือเปล่าคะ"
" ผ่านไปด้วยดี."
การแสดงออกของเหอจื่ออันดูเหนื่อยล้าเล็กน้อย
เมื่อเทียบกับเขาเมื่อห้าปีก่อน ตอนนี้เหอจื่ออันดูเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ไม่เหมือนแต่ก่อนที่ยังเอาแต่เล่นสนุกไปวันๆไม่สนใจใคร ตอนนี้ใจเย็นขึ้นเยอะและดูเฉยเมยมากขึ้น อย่างกับว่าทุกสิ่งในโลกนี้ไม่สามารถทำให้เขาผันผวนได้อีก
เพียงแค่ว่า การปกปิดของเจนนี่ในเมื่อกี้นี้ ทำให้เขารู้สึกแปลก ๆ เล็กน้อย
เจนนี่ไม่ใช่คนที่ไม่เคยออกสังคม เรื่องที่สามารถทำให้สีหน้าของเธอเปลียนได้ขนาดนี้ คือเรื่องอะไรกันแน่
แม้ว่าทั้งสองคนจะคุยกัน แต่จิตใจของพวกเขาไม่ได้อยู่ที่เดียวกัน อย่างเห็นได้ชัด
เจนนี่กลัวว่าพูดเยอะแล้วจะหลุดปาก จึงหาข้ออ้างหนึ่งแล้วเดินออกไป
เหอจื่ออันเห็นเธอออกไป ดวงตาของเขาสบกับรูปถ่ายบนโต๊ะ จากนั้นใช้นิ้วสัมผัสไปที่มันเบา ๆ
บนนั้นคือรูปถ่ายของเวินหนิง ที่เขาไปขอมาจากไป๋หลินยวี่ เป็นรูปเดียวที่เขามีอยู่ ถูกจัดวางไว้ที่นี่อย่างประนีประนอม ไม่เคยอนุญาตให้ใครไปแตะต้องมัน
" ห้าปีแล้วน่ะ "
" ไม่ต้องห่วง ผมจะไม่ปล่อยให้คุณตายฟรี ตระกูลลู่ฉันจะไม่มีวันปล่อยพวกมันไปอย่างแน่นอน พวกคนที่ทำให้คุณและแม่ผมต้องตาย ผมจะต้อง ... ให้พวกเขาต้องชดใช้"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงแค้นแสนรัก