พอได้ยินลู่อันหรานพูดแบบนี้ เวินหนิงก็อายมากกว่าเดิม แต่ถ้าอยากจะดิ้นหลุดจากลู่จิ้นยวน คงเป็นไปไม่ได้
เธอเลยถูกอุ้มเข้าไปในห้องนอน
"เพราะฉะนั้น สารภาพมาตรงๆดีกว่า ไม่งั้น ฉันคงต้องใช้วิธีการบางอย่าง"
ลู่จิ้นยวนยิ้มเจ้าเล่ห์ เวินหนิงเข้าใจทันทีว่าเขาหมายถึงอะไร "ที่หลังโดนของขว้างใส่ ไม่สาหัสหรอก พักวันสองวันก็หายแล้ว"
"ขว้างใส่?"
ลู่จิ้นยวนขมวดคิ้วแน่น นี่โดนคนอื่นทำร้ายชัดๆ
เพราะยังไง ถึงจะหกล้มหรืออะไร คงไม่โดนหลังแบบนี้
"ให้ฉันดูหน่อย"
ลู่จิ้นยวนยื่นมือไป จะปลดเสื้อเวินหนิง
ใครจะรู้ว่าผู้หญิงคนนี้กำลังอวดเก่งอยู่หรือเปล่า?
"นายบอกว่าแค่สารภาพ ก็ไม่ต้อง……"
"ใครจะรู้ว่าเธอพูดความจริงหรือเปล่าล่ะ?"
ลู่จิ้นยวนจงใจ เวินหนิงทำอะไรเขาไม่ได้ เลยไม่ต่อต้านอีก
พอถอดเสื้อออก บนผิวที่ขาวอมชมพูมีรอยช้ำม่วงๆ แค่ดูก็รู้ว่าเจ็บ สีหน้าเขาแย่ไปกว่าเดิม
"ใครเป็นคนทำ?"
ตอนนี้ยังมีคนกล้าลงมือกับเวินหนิง ไม่อยากหายใจแล้วสินะ?
"ช่างเถอะ จัดการไปแล้ว"
เวินหนิงไม่อยากพูดถึงเรื่องบ้าๆของตระกูลเวิน แต่ลู่จิ้นยวนไม่ยอม "วันนี้เธอออกไปพร้อมกับเย่ซือเยวี่ย? ถ้าเธอไม่พูด ฉันจะไปถามเอง"
"อย่า……" เวินหนิงห้ามลู่จิ้นยวน เย่ซือเยวี่ยเหนื่อยมาทั้งวัน ลำบากมากแล้ว ถ้าถูกลู่จิ้นยวนเค้นถามอีก คงเหนื่อยใจด้วย
"ฉันไปหาเวินฉีโม่ เพราะอยากจะถามเรื่องวันที่ฉันเกิด"
เวินหนิงเล่าเรื่องวันนี้ทั้งหมด แต่คิดไม่ถึงเลยว่า ลู่จิ้นยวนได้ยินแล้วไม่หายโกรธ "ในเมื่อไปหาเบาะแส ทำไมไม่เรียกฉันไปด้วย?"
เสียเปรียบจากคนตระกูลเวินมาเท่าไหร่ ผู้หญิงคนนี้ไม่จำเหรอ?
พอคิดได้แบบนี้ ลู่จิ้นยวนก็อยากจะกดเธอลงเตียง สั่งสอนเธอให้หลาบจำ
การกระทำของผู้ชายคนนี้ ทำให้เวินหนิงอยากมุดหัวเข้าผ้าห่ม หูเธอแดงมาก "แค่รู้สึกว่านายยุ่ง อีกอย่าง ฉันก็ไม่อยากพึ่งพานายทุกเรื่อง"
ลู่จิ้นยวนได้ยิน รู้สึกไม่สบอารมณ์แล้วเอ็นดู ความหัวดื้อของผู้หญิงคนนี้ เขาทำอะไรไม่ได้จริงๆ แต่ถ้าไม่เป็นแบบนี้ เขาอาจจะไม่ชอบเธอก็ได้
"เดี๋ยวฉันทายาให้"
ลู่จิ้นยวนทำได้แค่ไปหายามา แล้วทาให้เวินหนิง ถึงแม้ปากจะอารมณ์เสีย แต่ก็ลงมือเบามาก
แน่นอน ในใจก็ไม่หยุดคิดว่าจะสั่งสอนจางหย่าหลินยังไงดี ต้องให้เธอชดใช้กับสิ่งที่ทำ
"แล้วเธอได้เบาะแสอะไรบ้าง?"
"เวินฉีโม่บอกว่า วันนั้นมีผู้หญิงอีกคนคลอดพร้อมกัน เขาบอกว่าเธอเป็นคนตระกูลหยงเมืองจิงเฉิง"
ลู่จิ้นยวนหยุดมือ เหมือนคิดไม่ถึงว่าจะเป็นแบบนี้ ตระกูลหยงเมืองจิงเฉิง คนอื่นอาจจะไม่รู้ แต่เขาจะไม่รู้ได้ยังไง?
ตระกูลหยง เป็นตระกูลที่มีชื่อเสียงในเมืองจิงเฉิง มีทั้งเงินทั้งอำนาจ เทียบเคียงกับตระกูลลู่ได้เลย
เวินหนิงเห็นสีหน้าเขาไม่ดีมากนัก ใจก็เกร็งทันที "ไม่ใช่ว่าเด็กผู้หญิงเกิดเรื่อง หรือเป็นอะไรใช่ไหม?"
พอคิดแบบนี้ ความหวังที่ถูกจุดประกาย ก็ดับไปแบบนี้ เวินหนิงเลยลุกขึ้นทันที
ลู่จิ้นยวนรีบปลอบใจเธอ "เปล่าหรอก"
"สรุปยังไงกันแน่?"
ลู่จิ้นยวนรู้ว่าตอนนี้เวินหนิงฝากความหวังไว้ที่เรื่องนี้ ถ้าบอกเธอว่ายากที่เอาไขสันหลัง เธอคงรับไม่ได้ เลยหาข้ออ้างกลบเกลื่อน
"ตระกูลหยง เป็นตระกูลใหญ่ที่เมืองจิงเฉิง ทำไรไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ไม่ค่อยสร้างมิตรกับใคร ถ้าเราไปแบบนี้ คงสำเร็จยาก"
"……" เวินหนิงได้ยินก็รู้สึกผิดหวัง
"แต่ก็ไม่ต้องผิดหวังหรอก ฉันจะให้คนไปลองถามพวกเขาดู อีกอย่าง เธอบอกว่าไปหาบันทึกประวัติที่โรงพยาบาล?"
ลู่จิ้นยวนไม่ได้รู้สึกดีอะไรกับคนตระกูลเวิน ถึงจะคิดว่าเวินฉีโม่คงไม่กล้าโกหก แต่ถ้าเข้าใจผิดล่ะ งั้นคงเสียแรงเปล่าๆ ก็เลยคิดที่จะลงมือทางอื่นด้วย
"อื้อ แต่ไม่ค่อยราบรื่น มีหมอมา ทีแรกก็คุยกันดีๆอยู่ แต่พอได้ยินว่าเราจะสืบเรื่องตอนนั้น ก็โมโหทันที ไม่รู้ทำไม"
เวินหนิงเหมือนรู้ว่าลู่จิ้นยวนคิดอะไร เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับร่างกายไป๋หลินยวี่กับเธอ แค่คำพูดของเวินฉีโม่ คงเชื่อใจมากไม่ได้
"หื้อ?"
พอลู่จิ้นยวนได้ยินก็ขมวดคิ้ว
เขารู้สึก เรื่องนี้ต้องมีอะไรผิดปกติแน่นอน
ถ้าหมอคนนั้นไม่อยากช่วยจริงๆ ทำไมไม่ไล่พวกเธอไปตั้งแต่แรก แต่กลับคำตอนที่พูดถึงเรื่องนั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงแค้นแสนรัก