เห็นเหอจื่ออันเห็นอกเห็นใจแบบนี้ เวินหนิงก็โล่งอก
ทั้งสองคนกำลังนั่ง รีบทานอาหารเช้า ลู่อันหรานก็โทรเข้ามา
“แม่ ผมถึงแล้ว พวกคุณอยู่ที่ไหนฮะ? ”
“เราอยู่ชั้นห้า ลูกรออยู่ข้างล่าง แม่จะพาลูกไปลงทะเบียนหาหมอ”
เวินหนิงยังกังวลกับสุขภาพลู่อันหราน ดังนั้นจึงยืนกรานจะพาเขาไปหาหมอแล้วค่อยว่ากัน
ในใจลู่อันหรานขมขื่น แต่เขาต้องเสแสร้งก็ต้องจัดเต็ม ไม่งั้นต้องโป๊ะแตกแน่ ดังนั้นจึงตอบตกลง
“โอเค ผมรอแม่ที่ประตูทางเข้าโรงพยาบาล”
เวินหนิงตอบและรีบไป
“จื่ออัน วันนี้ฉันอาจจะค่อนข้างยุ่ง ไม่งั้นคุณกลับไปก่อนดีไหม? ”
เวินหนิงคิดสักพัก เดี๋ยวพาลู่อันหรานไปหาหมอ ทิ้งเหอจื่ออันไว้ มันไม่ค่อยโอเค แต่ให้เขาไปด้วยก็จะทำให้คนอื่นเสียเวลา เลยอยากให้เขาไปทำธุระของตัวเอง
“อ๋อ ไม่เป็นอะไร ฉันกลับมาไม่กี่วัน ยังไม่ยุ่ง”
ประโยคหนึ่งของเหอจื่ออัน ยิ่งทำให้เวินหนิงเอ่ยปากไล่เขาอีกไม่ลง
กว่าจะได้อยู่ด้วยกันสักพัก เขาจะยอมไปได้อย่างไรล่ะ
เวินหนิงไม่พูดอะไรอีก รีบลงไปข้างล่างมาถึงห้องโถง แวบเดียวก็เห็นลู่อันหรานยืนหน้าประตู
วันนี้เขาสวมเสื้อสเวตเตอร์สีแดง กางเกงขายาวสีดำ สวมหมวกแก๊ป ถึงแม้จะไม่ได้แต่งตัวซับซ้อน แต่เพราะเขาหน้าตาดี ดังนั้นยืนตรงนั้นเหมือนนายแบบตัวน้อยเลย ดึงดูดสายตามาก
“อันหราน อยู่นี่!”
เวินหนิงเรียกเขาขณะที่โบกมือ
ลู่อันหรานเห็นว่าเป็นแบบนี้ก็รีบวิ่งไป พุ่งเข้าหาอ้อมแขนเวินหนิง แต่ดวงตายังมองสำรวจเหอจื่ออัน
คนคนนี้ ตามหลอกหลอนจริงๆ นะ
เดี๋ยวสักพัก เขาต้องหาวิธีไล่เขาไปให้ได้
ลู่อันหรานมองเหอจื่ออัน พลางคิดแผนชั่วร้าย ไม่คิดว่าเหอจื่ออันก็มองสำรวจเขาเช่นกัน
ทั้งสองสบตากัน ลู่อันหรานรู้สึกหนาวสั่นอย่างอธิบายไม่ได้ สัญชาตญาณเด็กน้อยบอกเขาว่า ชายคนนี้ไปยั่วโมโหง่ายๆ ไม่ได้
“คุณอาคนนี้ ดูดุจังเลย”
ลู่อันหรานซุกในอ้อมแขนเวินหนิง แสร้งทำเป็นกลัว
เขาคิด ด้วยความรักที่แม่มีต่อตน ต้องไล่เหอจื่ออันคนนี้ไปได้แน่ๆ
“ดุเหรอ? ได้ยังไง? ”
เหอจื่ออันได้ยินดังนั้นก็ยิ้ม “หนิงหนิง ดูเหมือนเสี่ยวอันหรานจะไม่ค่อยชอบฉัน”
“ม-ไม่มั้งคะ”
เวินหนิงกระอักกระอ่วนนิดหน่อย เธอรู้ว่าเหอจื่ออันไม่มีทางดุเด็กคนหนึ่งได้ ดังนั้นจึงเหลือบมองลู่อันหราน พูดกับเขาเสียงเบา “หนูลืมสิ่งที่แม่เคยพูดกับหนูเหรอ? ”
“……ไม่ ไม่ลืม……”
ลู่อันหรานเสียเปรียบ รู้สึกหงุดหงิดมาก ไม่กล้าพูดอะไรตามอำเภอใจอีก
“งั้นเรียกเขาสิ”
ลู่อันหรานถูกเวินหนิงมองอยู่ ทำได้แค่เรียกเหอจื่ออันอย่างเชื่อฟัง “คุณอาเหอ”
ขณะที่เรียก ในใจก็ไม่พอใจอย่างยิ่ง นี่มันแตกต่างจากที่เขาคิดไว้เลย……
“อืม อันหราน เจอกันอีกแล้วนะ ดีใจมากที่ได้รู้จักหนู”
เหอจื่ออันยื่นมือ ต้องการจับมือกับลู่อันหราน
ลู่อันหรานเหลือบมองเวินหนิง เห็นการเร่งเร้าในดวงตาเธอ ก็ทำได้แค่จับมืออีกครั้ง “ผมก็ดีใจมากที่ได้รู้จักคุณฮะ”
เมื่อได้ยินประโยคนี้ เหอจื่ออันก็ไม่เป็นอะไร เวินหนิงกระอักกระอ่วนมาก แต่ลู่อันหรานเกือบระเบิด “เฮ้ๆ คุณอาหมอฮะ นี่ไม่ใช่พ่อผม!”
เขาโตขนาดนี้แล้ว ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน พ่อของเขามีแค่ลู่จิ้นยวน โอเคไหม?
คุณหมอได้ยินประโยคนี้ก็มองสำรวจอีกครั้ง ก็ไม่ได้พูดอะไร แค่ในใจคิดไปโดยปริยายว่านี่คือครอบครัวที่สร้างใหม่ แต่เด็กคนนี้ยังไม่ยอมรับความจริงนี้
“โอเค งั้นคิดเสียว่าฉันไม่เคยพูดนะ เด็กน้อย หนูไม่สบายตรงไหน? ”
เห็นคุณหมอท่านนี้ไม่ได้ขอโทษ ในใจลู่อันหรานก็ไม่พอใจ
แต่เวินหนิงรู้ว่าคุณหมอทำงานยุ่งมาก ยังมีคนเยอะมากต่อคิวอยู่ด้านหลัง “อันหราน รีบบอกคุณหมอสิว่าหนูไม่สบายตรงไหน จะได้สั่งยาให้ถูก”
“ผม ปวดท้องมาก”
ลู่อันหรานชี้ไปที่ท้องตัวเอง
คุณหมอหยิบเครื่องตรวจฟังออกมาฟังให้ลู่อันหราน ก็ไม่พบสิ่งผิดปกติใดๆ จึงสั่งยาเพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้กระเพาะอาหารและการย่อยอาหาร
หาหมอเสร็จแล้ว เหอจื่ออันก็พูดขึ้นว่าจะพาลู่อันหรานออกไปซื้อของ
เวินหนิงตอบตกลงแล้ว ก็พาลู่อันหรานไปด้วยกัน
“จื่ออัน คุณอย่าพาเขาไปที่ที่มีของแพงๆ เขายังเป็นเด็ก ยังไม่รู้จักระวังมือ”
“คุณกังวลว่าเงินฉันจะไม่พอเหรอ? ”
เหอจื่ออันยิ้มจางๆ มองหญิงสาวผ่านกระจกมองหลัง
“ไม่ใช่นะ แค่ไม่อยากให้คุณเสียเงินเยอะเกินไป”
“ไม่เป็นอะไร อันหราน หนูซื้อเท่าที่ต้องการได้เลย”
เห็นเหอจื่ออันมีท่าทางภาคภูมิใจ ลู่อันหรานก็กำหมัดเล็ก ผิวเผินยังคงดูเชื่อฟัง แต่ปีศาจตัวน้อยภายในใจก็เคลื่อนไหวแล้ว
“แสร้งทำเป็นใจกว้างใช่ไหม เดี๋ยวฉันจะให้คุณร้องไห้ไม่ออก!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงแค้นแสนรัก