บ่วงแค้นแสนรัก นิยาย บท 527

เมื่อคำพูดนี้พูดออกมา จริงๆแล้วเวินหนิงเองก็รู้ดีว่าเป็นแค่อารมณ์ชั่วครู่ของเธอ

อย่างไรก็ตาม เธอไม่สามารถห้ามปากตัวเองไว้ได้

สีหน้าที่ปกติและเฉยชาของลู่จิ้นยวนในตอนแรก เมื่อได้ยินคำพูดนี้ในที่สุดสีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที

“ เวินหนิง คำพูดนี้จะพูดออกมาเรื่อยเปื่อยอย่างงี้ไม่ได้”

เขารอเธอมาห้าปี ในห้าปีนี้เขาเหมือนศพที่เดินได้ มันไม่ง่ายเลยกว่าเขาจะรอเธอกลับมาได้ในที่สุด แต่เธอกลับคิดที่จะพาลู่อันหรานไปจากเขาอย่างงี้

เขาไม่อนุญาตไม่ยอม

“ อย่าบังคับฉันอีกเลย อย่าให้ฉันต้องคิดถึงเรื่องพวกนั้นอีกได้ไหม ถ้าไม่อย่างนั้น ฉันจะต้องรู้สึกว่าตัวเองในตอนนี้น่าขยะแขยงมาก”

เวินหนิงก้มหัวลงแล้วพูดด้วยเสียงต่ำ

เมื่อลู่จิ้นยวนได้ยินคำพูดนี้ มือของเขาที่ลอยอยู่กลางอากาศก็หยุดลง

ในเวลานี้ มีรถแท็กซี่คันหนึ่งจอดลง เวินหนิงดึงประตูรถนั่งเข้าไป " ฉันจะกลับไปคนเดียว ไม่ต้องห่วง เพื่อเรื่องของเย่ซือเยวี่ยแล้ว ฉันไม่วิ่งไปไหนไกล"

ลู่จิ้นยวนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง รถก็ถูกขับออกไปแล้ว

เวินหนิงนั่งอยู่บนเบาะรถแท็กซี่ จ้องมองไปเรื่อยๆในเมืองที่ไม่คุ้นเคยด้วยอาการเหม่อลอย

เมื่อคิดถึง เพื่อมู่เยียนหรานแล้ว ลู่จิ้นยวนสามารถเสียสละการพัฒนาธุระกิจที่เมืองจิงเฉิงทั้งเมืองไป สามารถปฏิเสธการแต่งงานเชิงธุระกิจที่ดึงดูดของตระกูลหยงเช่นนี้ได้

มันเป็นอะไรที่ยากมาก ที่ใจเธอจะไม่ไปเปรียบเทียบมัน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อนึกถึงความยากลำบากต่างๆที่เย่หวานคอยหาเรื่องเธอ ใจนั้นยิ่งรู้สึกเจ็บปวดและหงุดหงิดมากขึ้นเล็กน้อย

"พี่คนขับคะ รบกวนขันรถพาฉันวนสักสองรอบนะคะ ฉันอยากดูทิวทัศน์ที่นี่ค่ะ"

ณ ตอนนี้เวินหนิงยังไม่อยากกลับไปที่โรงแรม ก็เลยให้คนขับพาเธอไปรอบ ๆ เมืองจิงเฉิงวนไปสองสามรอบ

เมื่อลู่จิ้นยวนกลับมาถึงที่โรงแรม ถึงได้รู้ว่าเวินหนิงยังไม่กลับมา ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกกังวลขึ้นมา

ตอนนั้น ก็ไม่ควรปล่อยให้เธอออกไปคนเดียว ถ้าหากเธอหายตัวไปอีก เขาจะทำยังไง

ลู่จิ้นยวนรีบโทรหาเวินหนิงทันที จะถามว่าตอนนี้เธออยู่ที่ไหน

แต่ว่า ไม่มีคนรับสาย ในขณะที่สมองของลู่จิ้นยวนกำลังคิดเรื่องเลวร้ายเหล่านั้นที่อาจเกิดขึ้น เวินหนิงได้ส่งข้อความหนึ่งกลับมา

แค่ว่า ข้อความนั้นไม่ได้ส่งให้ลู่จิ้นยวน แต่ถูกส่งไปให้อันเฉินแทน

“ ฉันขออยู่ข้างนอกสักพัก อาจจะกลับดึกหน่อย ไม่ต้องเป็นห่วง”

เมื่ออันเฉินได้รับข้อความ ยังรู้สึกแปลกๆ

แต่ไม่ว่าอย่างไร เขาก็ได้เอาข้อความนี้ไปบอกให้ลู่จิ้นยวน

เมื่อลู่จิ้นยวนเห็นข้อความของเวินหนิง เห็นได้ชัดว่าเธอโกรธมาก

มิฉะนั้น ไม่จำเป็นหรือเจตนาไปรบกวนอันเฉิน โดยไม่โทรหาเขา

ลู่จิ้นยวนแย่งโทรศัพท์มือถือของอันเฉินมา

อันเฉินใช้มือแตะที่จมูกของตัวเอง ทั้งๆที่เขาไม่รู้ไม่เห็นอะไรกับพวกเขาเลยแต่ก็ถูกรานไปด้วย

ลู่จิ้นยวนส่งข้อความไปให้เธอ " คุณอยู่ที่นี่ไม่รู้จักใครและไม่คุ้นเคยสถานที่ รีบกลับมาโดยเร็วจะดีกว่า"

เมื่อเวินหนิงเห็นเช่นนี้แล้วถอนหายใจ ก็เลยให้คนขับส่งเธอกลับไป

ก็ใช่อยู่ เธออยู่ที่นี่ ไม่ใช่มาทะเลาะกับลู่จิ้นยวนสักหน่อย ธุระเร่งด่วนแบบนี้ คือการเชิญศาสตราจารย์หลี่ไปที่เมืองเจียงเฉิง

ทันทีที่เวินหนิงมาถึงประตูโรงแรม เธอก็เห็นลู่จิ้นยวนยืนพิงอยู่ที่ประตูรอเธอ ด้วยการแต่งตัวที่ธรรมดา แต่ก็ยังเป็นที่สะดุดตาของคนมากมายเช่นกัน

มีหญิงสาวบางคนที่ใจกล้าพอ ถึงกับนัดคุยและขอเบอร์โทรศัพท์ของเขา

เวินหนิงตาขาวใส่เขา ผู้ชายคนนี้นี่จริงๆเลย ยืนอยู่ตรงนั้นเฉยๆก็ยังมีผึ่งมาตอมไม่น้อย

ถึงแม้ว่า ลู่จิ้นยวนจะมายืนรอเธออยู่ที่ประตูอย่างซื่อสัตย์ แต่ในสายตาของผู้หญิงโกรธนั้น ต่อให้แก้ตัวยังไงเหตุผลก็ฟังไม่ขึ้น

เมื่อเห็นเธอกลับมาลู่จิ้นยวนก็รีบเดินเข้าไปทันที " ทำไมถึงกลับมาดึกแบบนี้ ที่นี่การจราจรค่อนข้างที่จะซับซ้อน ผู้คนก็เยอะ ไม่ควรไปไหนมาไหนคนเดียว"

เวินหนิงไม่อยากสนใจและวุ่นวายกับเขา จึงเดินตรงไปที่ห้องของเธอ

“ ฉันไม่สนใจเหรอว่าเธอจะเป็นยังไง ... ”

สีหน้าของเวินหนิงผ่อนคลายลงเล็กน้อย แต่คราวนี้เป็นเพราะลู่จิ้นยวนยืนกรานที่จะโทรไปหาไป๋ซินอวี๋

ไป๋ซินอวี๋อยู่ต่างประเทศ เป็นช่วงกลางคืนพอดี รู้สึกแปลกใจมากที่เห็นว่าเป็นสายเรียกเข้าของลู่จิ้นยวน

เป็นเพราะเรื่องราวเหล่านั้นของเวินหนิง ทำให้ทั้งสองหลีกเลี่ยงและห่างเหินกันไม่น้อย ตอนนี้ ไป๋ซินอวี๋กำลังพามู่เยียนหรานไปรักษาตัวที่ต่างประเทศ ก่อนหน้านั้นเคยเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ตอนนี้ดูเหมือนจะเป็นคนแปลกหน้ากันไปแล้ว

ท้ายที่สุดแล้วไป๋ซินอวี๋ไม่ได้โทษกับเรื่องที่เกิดขึ้น ไม่ว่ายังไง แต่ก่อนเขาก็เคยทำสิ่งผิดพลาดไปหลายเรื่อง ช่วยมู่เยียนหรานทำร้านเวินหนิงไปไม่น้อย

" ซินอวี๋ ฉันเป็นจิ้นยวน ตอนนี้อยู่เมืองนอกเป็นอย่างไรบ้าง "

หลังจากท้าท้ายเสร็จ ลู่จิ้นยวนจึงได้เปิดเสียงลำโพงโทรศัพท์ขึ้น

" สบายดี การผ่าตัดศัลยกรรมใบหน้าของเยียนหรานทำเสร็จไปตั้งนานแล้ว ไม่น่าจะเหลือรอยแผลเป็นใด ๆ แต่มือของเธอ ... "

ตอนนี้การแพทย์ก้าวล้ำไปแล้วรอยแผลเป็นตื้น ๆ บนใบหน้าของมู่เยียนหรานไม่ใช่เรื่องยากอะไร แต่ปัญหาเดียวก็คือมือของเธอ

ถ้าอยากให้กลับไปใช้ชีวิตตามปกติมันง่ายมาก แต่ถ้า อยากเล่นเปียโนเพื่อประกอบอาชีพที่มีแม่นยำในระดับสูงมันยากมาก

" คุณดูแลเธอตลอดเหรอคะ "

เมื่อเวินหนิงได้ยินในสิ่งที่เขาพูด รู้สึกงุนงงเล็กน้อย

เธอยังจำท่าทางที่ภาคภูมิใจและสดใสของมูเยียนหรานที่อยู่ตรงหน้าเธอมในตอนนั้น คิดไม่ถึง ว่าเธอจะเล่นเปียโนไม่ได้อีกต่อไป

"เธอคือ"

ไป๋ซินอวี๋ขมวดคิ้วขึ้นอย่างสงสัย เมื่อได้ยินเสียงของผู้หญิง

“ เธอคือเวินหนิง”

ลู่จิ้นยวนไม่ได้ปิดบังอะไร

“ เวินหนิง

เธอยังมีชีวิตอยู่เหรอ "

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงแค้นแสนรัก