บ่วงแค้นแสนรัก นิยาย บท 529

"เขา เป็นอะไร"

“ เขาวิ่งออกไปข้างในตอนที่ผู้คนไม่ทันได้สังเกตค่ะ”

สีหน้าของเย่หวานจิ้งมืดนิ่งไปทันทีเมื่อได้ยินเช่นนี้

“ เอาพวกเธอมาทำอะไรกัน แค่เด็กคนหนึ่งปล่อยให้หนีออกไปได้ ”

หลังจากพูดจบ ก็รีบให้คนออกตามหาทันที

" เป็นเพราะว่าอันหรานไม่ชอบฉันหรือเปล่าคะ ถึงได้ ... "

เฉิ่นหรูเย่ว์ก้มศีรษะลงพูดด้วยน้ำเสียงที่น้อยใจ แต่ท่าทางนั้นออกจะเย็นชา จริงๆด้วย การรับมือกับลูกของคนอื่นมันไม่ได้ง่ายเลย

แต่เธอต้องพูดอะไรสักอย่าง เพื่อไม่ให้เย่หวานจิ้งผิดหวังในตัวเธอ

เย่หวานจิ้งมองไม่เห็นปฏิกิริยาสีหน้าของเธอ จึงใช้มือลูบหลังเธอเบาๆ " นิสัยของเด็กคนนี้ชอบซนอย่างงี้แหล่ะ มันไม่เกี่ยวอะไรกับหนูเลย"

เฉิ้นหรูเย่ว์ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

...

ลู่อันหรานไม่สนใจว่าที่บ้านจะวุ่นวายมากขนาดไหน เขาในตอนนี้แค่อยากไปสนามบินเร็ว ๆ ไปหาคุณพ่อกับคุณแม่

แค่ว่า ตอนรถขับออกไปได้ประมาณครึ่งทาง ก็โดนรถของตระกูลลู่ตามมาทัน

เย่หวานจิ้งดูแล้วไม่รู้จักคนที่มารับ ยังคิดว่าลู่อันหรานโดนคนหลอกไป " อันหราน รีบกลับมาหาย่าที่นี่เร็ว ๆ "

" ผมจะไปเมืองจิงเฉิงหาคุณพ่อกับคุณแม่ของผม ท่านย่าอยู่บ้านดีๆนะครับ"

ลู่อันหรานไม่เห็นด้วยอย่างแน่นอน ถ้าจะต้องอยู่กับเฉิ่นหรูเย่ว์คนนั้น จะไม่ทำให้เขาต้องปวดหัวตาย

เมื่อเย่หวานจิ้งได้ยินเช่นนี้ มองไปที่คนเหล่านั้น “ พวกคุณเป็นคนของเวินหนิงเหรอ”

หลังจากที่เวินหนิงเข้ามารับช่วงบริหารบริษัทของคุณแม่เธอต่อ เธอก็ได้อบรมคนของตัวเองมาจำนวนหนึ่ง เพื่อที่วันข้างหน้าเวลาจำเป็นเธอจะได้ไม่ต้องไปขอความช่วยเหลือจากลู่จิ้นยวนอีก

“ คุณหนูเวินให้พวกเราส่งคุณชายน้อยไปให้ครับ ”

เมื่อเย่หวานจิ้งได้ยิน รู้สึกโกรธมาก เวินหนิงคนนี้ หรือว่าเธอจะรู้ว่าตัวเองต้องการให้เฉิ่นหรูเย่ว์กับลู่จิ้นยวนเข้ากันสักพักเพื่อที่จะได้พัฒนาความสัมพันธ์ จึงได้ตั้งใจมาขัดจังหวะ

ยิ่งคิดถึงเรื่องนี้มากเท่าไหร่ เย่หวานจิ้งก็ยิ่งโกรธมากขึ้นเท่านั้น เธอเลยตัดสินใจโทรไปหาลู่จิ้นยวนทันที

ลู่จิ้นยวนกำลังทำการแก้ไขสัญญาญที่จะร่วมมือกับตระกูลหยงอยู่ เพราะวันนี้เขาเจอทางตันเข้าอย่างจัง เขากำลังคิดหาวิธีให้ทั้งสองลดอคติลงโดยเร็วที่สุด

ในขณะนี้โทรศัพท์ก็ดังขึ้น

ทำให้ความคิดของชายหนุ่มถูกขัดจังหวะ ทำให้เขารู้สึกรำคาญไม่น้อย

แต่ว่า เมื่อเห็นว่าเป็นสายเรียกเข้าของเย่หวานจิ้ง เขาก็หยิบมันขึ้นมารับสาย

“ มีอะไรเหรอครับแม่”

“ เวินหนิงกำลังจะพาอันหรานไปเมืองจิงเฉิง เรื่่องนี้ลูกรู้ไหม

ปกติอันหรานก็ไม่ค่อยได้มาอยู่กับแม่ ตอนนี้พวกเธอเพิ่งจะออกไป เธอยังจะเอาอันหรานไปอีก มันหมายความว่ายังไง

หรือ คิดว่าคุณย่าอย่างฉันจะไม่สามารถดูแลหลานชายคนเดียวให้ดีได้ใช่ไหม "

เมื่อลู่จิ้นยวนได้ยินคำพูดเช่นนี้ รู้สึกหัวใหญ่ทันที

ว่าแต่ เขาก็ไม่อยากให้ลู่อันหรานตามมา เพราะว่าเขายังเรียนอยู่ที่โรงเรียนอนุบาลอยู่ ก่อนหน้านั้น เขาก็ได้ช่วยลู่อันหรานลาไปหลายวันแล้ว ให้เขาได้ไปเที่ยวเล่น

ตอนนี้ ยังจะมาที่เมื่องจิงเฉิงอีก จะทำให้เขาไม่สามารถเข้าเรียนตามปกติไปอีกนาน พอๆ เทอมหนึ่งลู่อันหรานแทบจะไม่ได้เรียนกี่วันอยู่แล้ว

“ คุณพ่อครับ ผมจะไปเอง”

เมื่อลู่อันหรานได้ยินเย่หวานจิ้งพูดแบบนี้ รู้สึกท่านจะไม่ค่อยพอใจ ก็รีบบอกความประสงค์ว่าตัวเองต้องหารที่จะไปเมืองจองเฉิงเอง

" ลูกต้องอยากมาอยู่แล้ว มาแล้ว ลูกจะได้เที่ยวเล่นไปทั่ว ไม่ต้องทำการบ้านไม่ต้องไปโรงเรียนอีก "

พ่อย่อมเข้าใจลูกชายเสมอ ลู่จิ้นยวนจะไม่รู้ความคิดเล็กๆนั้นของลู่อันหรานได้อย่างไร

“ ไม่ใช่นะ ยังมี ... ”

ลู่อันหรานกำลังจะบอกว่าเย่หวานจิ้งได้จัดผู้หญิงคนหนึ่งมาสอนเขา โทรศัพท์ก็ถูกแย่งกลับไป

" ในเมื่อเป็นแบบนี้ ลูกก็บอกเวินหนิงหน่อย ให้อันหรานอยู่ที่บ้านอีกสองสามวัน มาอยู่เป็นเพื่อนท่านปู่กับแม่ที่ผมหงอกๆสองคนหน่อย "

เมื่อพูดถึงขนาดนี้ ลู่จิ้นยวนก็ไม่รู้จะพูดยังไงต่อดี “ ครับ อันหราน ลูกอยู่บ้านต้องเชื่อฟังนะ ไม่นานพวกเราก็กลับไปแล้ว ”

" ตำแหน่งของพวกเขาค้นหาเจอหรือยัง "

อันเฉินพยักหน้า " คนในครอบครัวของตระกูลหยงชอบไปที่ร้านอาหารในเขตชานเมืองเพื่อดื่มน้ำชายามบ่าย ในช่วงบ่าย"

ลู่จิ้นยวนลุกขึ้นยืน " งั้นก็ไปเลย"

หลังจากคิดไปคิดมา ก็ตัดสินใจไม่เรียกเวินหนิงไปด้วย

วันนี้วิ่งมาทั้งวันเธอคงจะเหนื่อยมากแล้ว อีกอย่าง ไปแล้วอาจจะต้องเจอกับหยงซือเหม่ยอีก

ผู้หญิงคนนั้น เห็นได้ชัดว่าจูงโจมเวินหนิงกัดไม่ปล่อยแน่

ลู่จิ้นยวนไม่อยากให้ทั้งสองฝั่งต้องมีอคติมากไปกว่านี้

ชายหนุ่มขับรถไปยังสถานที่ที่อันเฉินพูด

ไม่นานก็ถึงที่หมาย

บังเอิญมาก เจอหยงซือเหม่ยยืนอยู่ข้างนอก พร้อมกับโทรศัพท์ในมือ กำลังคุยโทรศัพท์กับใครอยู่

ลู่จิ้นยวนกำลังจะจอดรถ ในเวลานี้ จู่ๆก็มีมอเตอร์ไซค์ขับออกมาจากด้านหลังของหยงซือเหม่ย

เป็นเพราะว่าทั้งตัวเธอเต็มไปด้วยแบรนด์เนมราคาแพง โดยเฉพาะกระเป๋าในมือของเธอไม่ต้องพูดถึงเป็นเฮอร์เมสรุ่นลิมิเต็ดเอดิชั่น รุ่นนี้อย่างต่ำต้องราคาหลายแสน ยิ่งไปกว่านั้นเธอกำลังคุยโทรศัพท์ เธอไม่ได้สนใจกระเป๋าที่อยู่ในมือเธอเลย ก็เลยถูกโจรหมายปอง

พอหยงซือเหม่ยตั้งสติได้ ก็โดนรถมอเตอร์ไซค์คันนั้นขับมาอย่างรวดเร็ว แค่พริบตารถก็จอดอยู่ตรงหน้าของเธออย่างใกล้ชิด เธอยังไม่ทันได้ตั้งตัว

ในแววเดียว กระเป๋าที่อยู่ในมือของเธอ ก็ถูกกระชากออกไป เนื่องจากกระเป๋าของเธอพาดอยู่บนไหล่ของเธอ ทั้งคนและกระเป๋าก็ถูกระชากไปกับรถด้วย

“ อ๊ะ ช่วยด้วยค่ะ”

หยงซือเหม่ยไม่เคยเจอสถานะการณ์เช่นนี้มาก่อน เธอทั้งกรีดร้องและขอความช่วยเหลือ

แต่ผู้คนที่อยู่รอบข้างยังอยู่ในอาการตกใจ ทำอะไรไม่ถูก

พอดีที่ว่าลู่จิ้นยวนยังไม่ได้ดับเครื่องยนต์ เมื่อเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขาจึงเหยียบคันเร่งให้ถูกที่สุด แล้วขับไปยังรถมอเตอร์ไซค์คันนั้น

รถมอเตอร์ไซค์ไม่ทันสังเกตเห็น จึงชนเข้ากับรถของลู่จิ้นยวนอย่างจัง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงแค้นแสนรัก