บ่วงแค้นแสนรัก นิยาย บท 576

สถานีตำรวจ

ทันทีที่เวินหนิงเข้าไป เธอก็เห็นลู่อันหรานนั่งอยู่ข้างใน เธอรีบก้าวเข้าไปข้างในแล้วสังเกตมองเขาอย่างละเอียดเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีปัญหาอะไร เสื้อผ้ายังอยู่เป็นระเบียบ เธอถึงได้โล่งใจ

เมื่อตะกี้เธอยังคิดอยู่ ลู่อันหรานบอกว่ามีคนทำร้ายร่างกายเด็ก เป็นไปได้ไหมที่เขาจะถูกทำร้าย ตอนนี้ดูแล้วถึงได้วางใจ

" คุณแม่ครับ ผมไม่เป็นอะไรครับ คนๆนี้ทำร้ายเพื่อนของผมที่บนถนน ฉันไม่มีทางเลือก ถึงได้โทรหาตำรวจครับ"

เวินหนิงอดรู้สึกสงสัยเล็กน้อยไม่ได้ที่เมื่อได้ยินเพื่อนของลู่อันหราน

ลู่อันหรานมีนิสัยที่แก่แดด เด็กที่อายุประมาณเท่าๆเขา เขามักจะรู้สึกว่าคนอื่นเขาไร้เดียงสา ไม่ชอบเล่นกับพวกเขา ไม่คาดคิดว่าเขาจะมีเพื่อนกับเขาด้วย

เวินหนิงมองไปที่ตำแหน่งที่ลู่อันหรานชี้ เห็นเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ นั่งอยู่บนเก้าอี้ ดวงตากลมโตของเธอเปล่งประกายด้วยความกังวลและตื่นตระหนก ซึ่งแตกต่างจากใบหน้าที่ขาวท้วมของลู่อันหราน เด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนนี้ดูแล้วผอมมาก เสื้อผ้าที่เธอสวมใส่อยู่ใหญ่กว่าตัวของเธอมาก ทำให้เธอที่ตัวเล็กอยู่แล้วยิ่งดูผอมไปใหญ่

เวินหนิงรู้สึกสงสารเธออย่างอธิบายไม่ถูก ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร เธอรู้สึกคุ้นเคยกับสภาพในตอนนี้มาก ซึ่งทำให้เธอนึกถึงตอนตัวเองโดดเดี่ยวและทำอะไรไม่ได้

" พวกเราได้ตรวจสอบแล้วว่าผู้หญิงคนนี้ได้ลงไม้ลงมือกับเด็กคนนี้จริง ๆ เราได้วิพากษ์วิจารณ์เธอไปแล้ว เรื่องนี้ถือว่าได้รับการแก้ไขไปแล้ว"

หลังจากที่ตำรวจพูดเช่นนี้จบ ร่างกายของไป่ซินหรานก็สั่นสะท้าน

เมื่อลู่อันหรานเห็นเช่นนี้ รู้สึกไม่พอใจขึ้นมาทันที “ นี่คือวิธีแก้ปัญหาแบบไหน”

เมื่อกี้เขาเพิ่งจะเห็นว่าบนร่างกายของไป๋ซินหรานมีรอยฟกช้ำหลายแห่ง และรอยฟกช้ำที่หยิกออกจะดูน่าตกใจ เห็นได้ว่าตอนไม่มีคนอยู่บ้าน ผู้หญิงคนนี้ได้แอบทำร้ายร่างกายไป๋ซินหรานไม่น้อย

ถ้าแค่วิพากษ์วิจารณ์ไม่กี่คำ สำหรับผู้หญิงคนนี้ไม่มีผลกระทบอะไร พอกลับบ้านไปคนที่ต้องทนทุกข์ทรมาณก็ต้องเป็นเพื่อนของเขาอยู่ดี

“ คุณแม่ครับ พวกเราจะปล่อยเธอกลับไปบ้านนั้นไม่ได้ คุณแม่ดูสิ ”

ลู่อันหรานคว้ามือของไป๋ซินหรานมา ให้เวินหนิงดูรอยฟกช้ำบนร่างกายของเธอ " ผมไม่มีทางเชื่อว่าแม่เลี้ยงใจร้ายจะเชื่อฟังคำตักเตือนพวกนั้น พวกเราหาทางช่วยเหลือเธอได้ไหม "

เวินหนิงเองเป็นคนที่มีลูก เมื่อเห็นรอยฟกช้ำมากมายบนแขนที่ขาวและอ่อนนุ่มของเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ เธอก็เข้าใจได้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น เธอสนับสนุนคำพูดของลู่อันหราน

“ ถูกต้องค่ะคุณตำรวจ เรื่องนี้จะปล่อยไปง่ายๆแบบนี้ไม่ได้ ถ้าเด็กกลับไปถูกเฆี่ยนตีอีกล่ะ เด็กแค่นี้กลัวว่าจะโทรเรียกหาตำรวจก็ยังทำไม่ได้ ถ้าเกิดเรื่องเลวร้ายกว่านี้ขึ้น จะทำยังไง ”

" นั่นมันเป็นเรื่องภายในครอบครัวของเขา คุณกับพวกเขามีความสัมพันธ์อะไรกัน

ขอเตือนคุณไว้ก่อน ว่าอย่าไปยุ่งเรื่องภายในครอบครับของเขา "

เมื่อตำรวจฟังแล้วเหมือนว่าเวินหนิงยังไม่อยากจากไป อย่าจะเอาเรื่องอีก จึงอดรำคาญไม่ได้

เรื่องที่ผู้ปกครองเฆี่ยนตีเด็กแบบนี้ เป็นเรื่องที่เห็นกันปกติทุกวันไม่ใช่เหรอ ถ้าทุกคนหาเรื่องเหมือนเธอ พวกเขาก็ไม่ต้องไปทำอะไรกันแล้ว

เวินหนิงขมวดคิ้วเมื่อได้ยินเช่นนี้ กำลังจะพูดอะไรบางอย่างต่อ แต่ตำรวจไม่ต้องหารฟังอีกต่อไป " คุณผู้หญิงท่านนี้ ต่อให้คุณสามารถปกป้องเธอได้ในตอนนี้ แต่คุณสามารถปกป้องเธอได้ตลอดไปหรือเปล่า "

หลังจากที่ตำรวจพูดจบ ก็ขับไล่พวกเขาออกไป

เมื่อได้ยินที่ตำรวจพูด หญิงวัยกลางคนที่นั่งอยู่ตรงมุมอย่างหดหู่ ดูมีเรี่ยวแรงขึ้นมาทันที ยังเหลียบไปมองไป๋ซินหรานพร้อมกับส่งสัญญาณเตือนผ่านสายตาของเธอ จากนั้นลากเธอจากไป

ไป๋ซินหรานถึงกับผงะ เธอรู้ว่า การที่เธอเอาเรื่องนี้มาถึงที่สถานีตำรวจ อย่างมากก็แค่เป็นการตักเตือนแม่เลี้ยงเท่านั้น มันไม่มีผลอะไรเลย พอกลับไปถึงบ้านเธอจะต้องถูกลงโทษหนักกว่าเดิมอีกหลายเท่า

ดังนั้น เธอจึงกรีดร้องออกมาเสียงดังโดยไม่คำนึงถึงสิ่งอื่น ๆ " ไม่ ฉันไม่อยากกลับบ้าน ฉันกลัว"

" แกอยากกลับบ้านแกจะไปที่ไหนได้ แม่ของแกไม่เอาแกไปนานแล้ว เร็วเข้า รีบกลับไปกับฉัน "

เมื่อผู้หญิงคนนั้นเห็นว่าตำรวจไม่สนใจเรื่องพวกนี้ จึงกลับไปดุร้ายเหมือนเดิมอย่างในตอนแรก

รีบบอกให้ผู้หญิงใจร้ายคนนั้นปล่อยมือเดียวนี้ "

ผู้ชายลังเลอยู่พักหนึ่ง ไม่กล้าลงมือใดๆ หลังจากนั้นก็ดึงมือของผู้หญิงคนนั้นจากไป

ไป๋ซินหรานถูกพวกเขาทิ้งไว้อยู่ที่เดิม อย่างกับสิ่งของที่จะทิ้งจะขว้างก็ได้

ไป๋ซินหรานเฝ้าดูรถขับออกไป เธอหวังอย่างยิ่งว่าจะออกจากบ้านหลังนั้น แต่ไม่คาดคิดว่าจะถูกทิ้งไว้เช่นนี้ ในใจนั้นเจ็บปวดมาก

เวินหนิงทนเห็นเช่นนี้ไม่ได้ จึงรีบเข้าไปปลอบใจเธอ " ไม่ต้องกลัวนะ หนูกลับบ้านกับน้าก่อน มีเรื่องอะไรเราค่อยๆคุยกัน ดีไหม "

ไป๋ซินหรานมองไปที่เวินหนิง จากนั้นก็มองไปที่ลู่อันหราน ในที่สุดก็พยักหน้าตกลง

ลู่อันหรานถอนหายใจอย่างโล่งอก ในที่สุดเขาก็ได้ช่วยเพื่อนของเขาออกมาจากขุมนรกนั้น

เขาจับมือของไป๋ซินหรานแล้วขึ้นรถไป

เวินหนิงเห็นเช่นนี้ ก็เดินตามหลังพวกเขาไป

เด็กทั้งสองจะคุยกันพวกเขาจึงนั่งเบาะหลัง เวินหนิงนั่งเบาะใกล้ๆคนขับ ได้ยินพวกเขาคุยกันเสียงดังอย่างกับเสียงนกร้องในยามเช้า แต่เธอก็อดคิดถึงคำพูดประโยคนั้นของลู่อันหรานไม่ได้

ในตอนนั้นตามสถานการณ์แบบนั้น ถ้าลู่อันหรานไม่บอกว่าพ่อของเขาคืนลู่จิ้นยวน บางทีไป๋ซินหรานอาจถูกพาตัวกลับไปเฆี่ยนตีหรือทารุณกรรมต่อไปก็ได้

แม้ว่าไม่อยากยอมรับ แต่ตอนนี้เวินหนิงรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าระหว่างเธอกับลู่จิ้นยวนนั้นห่างกันมาก

ถ้าจะให้ลู่อันหรานทิ้งทั้งหมดที่เคยชินในชีวิตแบบนี้ แล้วไปจากที่นี่กับตัวเอง เขาจะมีความสุขจริงๆไหม

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงแค้นแสนรัก