เห่อจื่ออันหันมองไปทางลู่จิ้นยวน พูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นมาก
สายตาที่ของเยือกเย็นลู่จิ้นยวนจ้องมองไปที่เห่อจื่ออัน ทีแรกเขาคิดว่าตัวเองมาหาถึงที่ บอกเขาว่าแผนของเขาโป๊ะแตกแล้ว คงจะเห็นสีหน้าที่ลนลานของเห่อจื่ออัน
แต่คิดไม่ถึงจริงๆ คำตอบที่ได้กลับเป็นแบบนี้
เขามั่นใจขนาดนั้นเลยเหรอว่าเวินหนิงไม่เคยสงสัยเขา?
ความมั่นใจหน้าตาเฉยแบบนี้ ทำให้ลู่จิ้นยวนรู้สึกไม่สบอารมณ์
เพราะเขาก็รู้อยู่แก่ใจดี เวินหนิงไม่เคยเชื่อคำพูดของเขาอย่างจริงๆจังๆ
นี่เพราะผลกรรมของเรื่องในอดีต เขายอมรับได้ แต่กลับไม่อยากให้มีผู้ชายอีกคนที่เธอให้ความไว้วางใจ
"เธอจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็อยู่ที่เธอ ไม่ใช่แก"
ผ่านไปสักพักลู่จิ้นยวนค่อยเอ่ยออกมา
บางที เขาคงต้องไปลองใจเวินหนิงว่าเห่อจื่ออันสำคัญแค่ไหน
เห่อจื่ออันยักไหล่ด้วยสีหน้าเฉยๆ "งั้นแกก็ไปสิ ไม่จำเป็นต้องรายงานฉัน เพราะ……ฉันไม่สนใจอยู่แล้ว"
พูดจบ เห่อจื่ออันก็เปิดประตูรถ จากนั้นก็แล่นรถออกไป
ลู่จิ้นยวนเห็นรถเขาแล่นหายไป เขากำมัดแน่น ในใจรู้สึกหงุดหงิดมากแต่ก็ระบายไม่ได้
คิดไปมา ลู่จิ้นยวนเลยโทรไปหาเวินหนิง เรื่องนี้ จะหลบหลีกอีกไม่ได้ เขาต้องการคำตอบ
เวินหนิงอยู่ที่โรงพยาบาล กำลังจะเตรียมตัวไปรับลู่อันหรานที่โรงเรียน พอเห็นสายของลู่จิ้นยวน สายตาก็หม่นหมอง
เธอคิดว่าลู่จิ้นยวนคงกำลังพัฒนาความสัมพันธ์กับหยงซือเหม่ยอยู่ แต่ยังนึกถึงเธอแล้วโทรมาอีก
มุมปากเลิกขึ้นอย่างเยาะเย้ย ค่อยกดรับสาย "ทำไม มีเรื่องอะไรหรือเปล่า?"
พอได้ยินเสียงของเวินหนิง ใจลู่จิ้นยวนก็เริ่มเกร็งอย่างบอกไม่ถูก "มีเรื่องจริงๆ เราเจอหน้ากันเถอะ ฉันมีเรื่องสำคัญจะคุยกับเธอ"
"เดี๋ยวฉันจะไปรับอันหรานกลับบ้าน มีเรื่องอะไร คุยกันทางโทรศัพท์เลย"
เวินหนิงปฏิเสธลู่จิ้นยวนอย่างไม่ต้องคิด ตอนเช้าเพิ่งมีข่าวฉาวกับผู้หญิงคนอื่น ตอนบ่ายก็มาหาเธอ นี่มันอะไรกันแน่?
ลู่จิ้นยวนขมวดคิ้ว ฟังออกว่าเวินหนิงต่อต้านแค่ไหน "เธอไปรับอันหราน ฉันก็จะไปพอดี ถ้าถึงตอนนั้น เราค่อยหาที่คุยเรื่องนี้"
พูดจบ ลู่จิ้นยวนไม่ให้โอกาสเวินหนิงปฏิเสธ ตัดสายทันที จากนั้นก็ขับรถไปที่โรงเรียนลู่อันหราน
เวินหนิงมองโทรศัพท์ อดไม่ได้จนขมวดคิ้ว
แต่ว่า ยังไงก็ต้องไปรับลู่อันหรานอยู่ดี
คิดไปคิดมา ตัวเองก็ไม่ได้ทำเรื่องไม่ดีสักหน่อย เธอจะกลัวเขาทำไม?
เวินหนิงไม่สนอะไรมาก บอกให้คนขับรถไปส่งตัวเองที่โรงเรียน
รถแล่นอยู่บนถนน เวินหนิงมองออกไปนอกหน้าต่างจนเหม่อ
ผ่านไปไม่นาน โทรศัพท์เธอก็ดัง เห่อจื่ออันเป็นคนโทรมา
"ผลตรวจร่างกายวันนี้ หยงซือเหม่ยให้คนส่งมาแล้ว ทุกอย่างปกติ พร้อมทำได้ทุกเมื่อ"
"จริงเหรอ? ดีมากเลย"
พอได้ยินข่าวดี เวินหนิงก็รู้สึกโล่งอก
"เดี๋ยวฉันจะลองคุยกับเธอ ให้เธอรีบตกลงทำ"
"ได้ รบกวนนายด้วยนะ"
เวินหนิงไม่สงสัยอะไรเลย เพราะยังไง นอกจากเธอ เห่อจื่ออันเป็นคนที่คุณแม่เชื่อใจมากที่สุด ให้เขาจัดการเรื่องนี้ ไว้วางใจได้
พอได้ยินเธอพูดแบบนี้ มุมปากเห่อจื่ออันก็เลิกขึ้น
เขาไม่แปลกใจเลยที่จะได้คำตอบนี้ เพราะเวินหนิงไม่เคยระแวงเขาเลย
เห็นสีหน้าแบบนั้นของลู่จิ้นยวน หรือว่า เขารู้อะไรบางอย่าง?
แต่ว่า เป็นไปไม่ได้ ไม่มีใครพูดเรื่องที่เธอสัญญากับหยงซือเหม่ยแน่นอน
"ฉันเชื่อว่าเขาจะไม่ทำเรื่องที่ไม่ดีต่อฉัน"
เวินหนิงคิดไปมา เลยตอบกลางๆ
พอลู่จิ้นยวนได้ยิน ก็จับแก้วตรงหน้าไว้แน่นจนเห็นเส้นเลือดชัดเจน
ทีแรกเขาคิดว่าเวินหนิงได้ยินในสิ่งที่เขาพูดแล้วจะถามต่อ หรือว่าสงสัย แต่ประโยคนี้ ทำให้ใจเขาตกลงไปถึงตาตุ่มเลย
เชื่อว่าเขาจะไม่ทำเรื่องที่ไม่ดีต่อเธอ……
ความเชื่อใจแบบนี้ ระหว่างพวกเขา เป็นสิ่งที่คาดหวังแต่ไม่มีทางได้ดั่งหวัง
"ในใจเธอ มันน่าเชื่อใจมากกว่าฉัน ใช่ไหม?"
ลู่จิ้นยวนทุ่มเสียงต่ำ หักห้ามความโมโหเอาไว้
เวินหนิงมองลงไป "ใช่"
"งั้นก็แสดงว่า ไม่ว่ามันจะเป็นใคร ทำอะไร เธอก็จะเชื่อ เชื่อโดยไม่มีเงื่อนไข?"
"อย่างน้อย เขาก็ไม่เคยหักหลังฉัน ตอนที่ฉันกำลังจะตายบนเกาะนั่น เขาเป็นคนช่วยชีวิตฉันไว้"
พอพูดถึงอดีต ทีแรกลู่จิ้นยวนยังอยากพูดอะไรมากมาย แต่ตอนนี้กลับพูดไม่ออก
เวินหนิงเห็นสีหน้าผู้ชายค่อยๆหม่นหมองลง ปกติไม่มีใครเห็นสีหน้าแบบนี้บนหน้าลู่จิ้นยวนแน่นอน ผิดหวังสิ้นหวัง จนถึงขั้นไร้ความช่วยเหลือ
วินาทีนั้น เวินหนิงรู้สึกว่าใจตัวเองเปลี่ยนแปลงไปตามอารมณ์ของเขา แต่ว่า เธอก็แอบหยิกขาตัวเองแรงๆ
ลองนึกถึงเรื่องที่เห็นวันนี้สิ เรื่องที่ได้ยินวันนี้ด้วย เธอจะลังเลอีกไม่ได้ เดี๋ยวจะยิ่งว้าวุ่นไปกว่าเดิม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงแค้นแสนรัก