"เธอแน่ใจ จะบอกวันนี้เหรอ? ฉันไปดูก่อนว่าเมคอัพฉันเละหรือเปล่า……"
พอซ่งรั่วอวิ้นเกร็ง ปากก็หยุดพึมพำไม่ได้
พอได้ยินแบบนี้ เวินหนิงก็หลุดขำ คนที่ไม่ว่าจะเจอเรื่องก็อะไรก็ใจเย็นตลอด แต่ก็มีเวลาที่ลนลานแบบนี้เหมือนกัน
"สวยแล้ว อย่ากังวลเลย เรื่องนี้ยังไงก็ต้องบอกอยู่แล้ว"
เวินหนิงยื่นมือไปตบไหล่ซ่งรั่วอวิ้นเบาๆ ปลอบใจเธอให้ใจเย็น
ซ่งรั่วอวิ้นพยักหน้า ทั้งสองคนจึงเข้าไปในห้องพักฟื้นพร้อมกัน
ไป๋หลินยวี่กำลังดูทีวี พอเห็นทั้งสองจึงยิ้ม
เวินหนิงเดินไปหาไป๋หลินยวี่ "แม่คะ หนูมีเรื่องสำคัญจะบอก"
ทีแรกไป๋หลินยวี่ยังดูทีวีอยู่ ไม่ได้สนใจเธอมาก แต่พอเห็นสีหน้าเวินหนิงเข้มงวด เลยหันมา "ทำไมเหรอหนิงหนิง ทำไมสีหน้าหนูเข้มงวดขนาดนั้น?"
"เป็นแบบนี้ค่ะแม่ ตอนที่รู้ว่าแม่ป่วยวันแรกหนูก็ไปตรวจไขสันหลังแล้ว แต่ว่าของเราสองคนเข้ากันไม่ได้ ความเข้ากันได้ไม่ต่างกับของคนแปลกหน้าเลย คุณหมอเลยแนะนำให้เราตรวจดีเอ็นเอ ผลที่ได้คือ……เราไม่ใช่แม่ลูกกัน"
"เดี๋ยว เดี๋ยวก่อนหนิงหนิง หนูกำลังงพูดอะไร จะพูดล้อเล่นแบบนี้ไม่ดีนะลูก"
ไป๋หลินยวี่เป็นคนที่รักลูกมากกว่าชีวิตตัวเอง อยู่ๆก็มาบอกว่าเวินหนิงไม่ใช่ลูกในไส้ ท่านไม่เชื่อเลย
"แม่ใจเย็นๆก่อนนะคะ ฟังหนูเล่าก่อน แต่หลังจากนั้นหนูก็พยายามหาเด็กคนนั้นจนเจอ เธอเพิ่งผ่าตัดปลูกถ่ายให้แม่ไป……"
พอได้ยินแบบนี้ ไป๋หลินยวี่ก็เข้าใจทันที จึงหันไปทางซ่งรั่วอวิ้น
ท่านรู้ว่าซ่งรั่วอวิ้นเป็นคนที่บริจาค แต่ก็ไม่เคยคิดแบบนั้นเลย แค่คิดว่าเธอเป็นคนใจบุญ
คิดไม่ถึงจริงๆ เธอจะเป็นลูกสาวของตัวเอง
"เสี่ยว เสี่ยวซ่ง เป็นลูกสาวแท้ๆของแม่?"
ไป๋หลินยวี่มองกวาดใบหน้าของซ่งรั่วอวิ้น ขอบตาก็เริ่มมีน้ำตาเอ่อล้น
ถ้าอย่างนี้ ครั้งแรกที่ท่านเจอซ่งรั่วอวิ้นก็รู้สึกคุ้นหน้าเลย เรื่องเป็นแบบนี้นี่เอง
"หนูพูดจบแล้วค่ะ ตอนนี้ทั้งสองคนคุยกันเถอะค่ะ"
สถานการณ์แบบนี้ เวินหนิงรู้ว่าตัวเองเป็นส่วนเกิน จึงออกจากห้อง ปล่อยให้สองแม่ลูกที่พลัดพรากจากกันได้ใช้เวลาด้วยกัน
พอจบเรื่องนี้ ใจเธอก็โล่งไปไม่น้อย เวลาเดียวกัน ก็เศร้าด้วย
เธอเป็นคนได้รับความรักจากแม่แทนซ่งรั่วอวิ้นมาตั้งนาน ถึงเวลาที่ต้องคืนแล้ว แต่ว่า ในใจก็รู้สึกเสียใจอยู่ดี
เวินหนิงรีบเช็ดน้ำตาที่ขอบตา รวบรวมสติ ตรงไปหาลู่จิ้นยวนที่โรงพยาบาล
เธอลังเลไปนานมาก คำตอบนั้น มันชัดเจนตั้งนานแล้ว
เธอทำไม่ได้ที่จะทิ้งลู่จิ้นยวนในตอนนี้
ถ้าจากไปในสถานการณ์แบบนี้ ถึงตัวเธอจะไป แต่ใจก็ยังอยู่ที่นี่
บวกกับที่ซ่งรั่วอวิ้นกับคุณแม่ได้เจอกัน เธอเพิ่งรู้ว่า บางอย่าง ถ้าพลาดพลั้งแล้ว ก็ไม่สามารถซ่อมแซมได้ เธอไม่อยากมีอะไรที่ต้องเสียดาย
สายตาเวินหนิงมุ่งมั่นมาก พอถึงโรงพยาบาล ก็ขึ้นไปที่ห้องพักฟื้นของลู่จิ้นยวนทันที
เวินหนิงไม่ได้พูดให้จบ เธอกลัวว่าถ้าพูดเรื่องนี้อีก จะทำลายความมั่นใจของลู่จิ้นยวน
เพราะผู้ชายคนนี้ภูมิใจในตัวเองมาก เจอเรื่องแบบนี้ ตอนนี้ยังทำตัวไม่รู้สึกอะไร คงกำลังอวดเก่งอยู่
"เพราะฉะนั้น ฉันจะไม่ไปไหน ฉันจะอยู่ดูแลนาย จนกว่านายจะดีขึ้น"
ถึงแม้เวินหนิงเอ่ยอย่างเรียบนิ่ง แต่ในใจกลับลนลาน พอพูดจบ หูทั้งสองข้างก็แดงมาก
พูดว่าจนกว่าเขาจะดีขึ้น แต่ข่าวที่ลือกัน ชาตินี้เขาคงไม่มีทางดีขึ้น
ถ้าพูดตรงๆก็คือ เธอจะอยู่ต่อ อยู่กับเขาไปตลอดชีวิต
การตัดสินใจนี้ เธอคิดมานานมาก เพิ่งตัดสินใจได้ไม่นานมานี้เอง
เธอแค่รู้สึกว่า ตอนนี้ลู่จิ้นยวนไม่ใช่ผู้ชายเพอร์เฟคที่ไม่มีรอยด่างแล้ว ขอแค่เธอพยายาม สักวันคงต้องยืนเคียงข้างกันได้
ถ้าเป็นแบบนี้ พวกเขาสองคนก็ไม่จำเป็นต้องเหนื่อยขนาดนั้นแล้ว
พอได้ยินสิ่งที่เวินหนิงพูด ในใจลู่จิ้นยวนก็ว้าวุ่นมาก
ส่วนหนึ่งเพราะซึ้งใจ ไม่คิดเลยว่าสถานการณ์แบบนี้ เวินหนิงจะมาหาเขา ยังพูดว่าจะดูแลเขาทั้งชีวิต
เขาโชคดีแค่ไหน ที่มีเธอที่ไม่ไปจากตัวเอง
ส่วนหนึ่งเพราะรู้สึกผิด
เพราะยังไงนั่นก็ข่าวปลอม เขาไม่รู้ว่าถ้าอีกหน่อยเวินหนิงรู้ จะโกรธหรือเปล่า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงแค้นแสนรัก