บ่วงแค้นแสนรัก นิยาย บท 98

เวินหนิงสะดุ้งตกใจเล็กน้อย ที่หลิวเมิ่งเซวี่ยพูดแบบนั้น เธอรีบมองไปรอบๆ

ยังดีที่บริเวณที่เธอนั่งอยู่ไม่มีใครอื่น ไม่งั้นเรื่องแบบนี้ใครได้ยินเข้า คงเอาไปนินทาจนไปถึงไหนต่อไหนแน่

"เรื่องแบบนี้ เธอพูดกับฉันได้ไม่เป็นไร แต่ถ้าไปพูดกับคนอื่น เขาจะคิดยังไงกัน?"

เวินหนิงส่ายหน้าไปมา เธอแค่รู้สึกว่าหลิวเมิ่งเซวี่ยยังเป็นแค่นักศึกษา แล้วมามีเรื่องความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับหัวหน้าในที่ทำงานแบบนี้มันจะดูไม่ดี

"อืม ฉันรู้แล้ว" หลิวเมิ่งเซวี่ยไม่คิดแบบนั้น "แล้วตกลงเธอจะช่วยฉันมั้ย?"

เธอมาทำงานที่บริษัทตระกูลลู่ ไม่ใช่เพราะอยากเป็นหญิงเก่ง เธอแค่อยากหาโอกาสเข้าใกล้ลู่จิ้นยวน หาทางให้ตัวเองได้เป็นคุณนายผู้หญิงไวๆ

"ถือว่าฉันเตือนแล้วกัน คนอย่างเขาไม่ใช่คนที่เราจะเอื้อมถึง ถ้าเธอฉลาดีมากพอ ก็รีบเลิกล้มความคิดนี้ซะ อย่าไปคิดเรื่องที่มันเป็นไปไม่ได้เลย"

เห็นแก่ที่เคยรู้จักกัน เวินหนิงจึงได้พูดเตือนเธออีกครั้ง

บทเรียนจากเซี่ยเหลียนก็มีให้เห็นอยู่ เวินหนิงไม่อยากเห็นหลิวเมิ่งเซวี่ยเป็นแมลงเม่าบินเข้ากองไฟ

"ไม่ช่วยก็ไม่ช่วย จะมาพูดแบบนี้ทำไม"

หลิวเมิ่งเซวี่ยรู้สึกเคืองเล็กน้อย เวินหนิงคิดว่าตัวเองเป็นใคร ถึงมาทำเป็นสั่งสอนเธอแบบนี้ คงอยากบอกเธอว่าคนต่ำต้อยอย่างเธออย่าไปหวังสูงเหรอ?"

เธอไม่เชื่อหรอก เธอเชื่อแค่ว่าความสำเร็จใดๆย่อมขึ้นอยู่ที่คนทำ

ยิ่งรู้ว่าผู้หญิงที่มีอะไรกับลู่จิ้นยวนคือเวินหนิงแล้ว หลิวเมิ่งเซวี่ยยิ่งมองเวินหนิงเป็นคู่แข่งทางหัวใจ

"ถือเสียว่าฉันไม่ได้พูดอะไรแล้วกัน เดี๋ยวฉันจะหาวิธีเอง"

หลิวเมิ่งเซวี่ยหมดอารมณ์ที่จะนั่งต่อแล้ว เธอถือจานข้าวเดินออกไปทันที

เวินหนิงมองหลังไวๆของเธอที่เดินจากไป ก่อนจะส่ายหน้าอย่างหน่ายใจ

ทำไมผู้หญิงพวกนี้ถึงได้เป็นแบบนี้นะ เธอเตือนด้วยความหวังดีแท้ๆ ยังมาแว้งกัดเธออีก จนใจจริงๆ

........

หลิวเมิ่งเซวี่ยหาโอกาสได้ในที่สุด

ลิฟต์VIPที่ลู่จิ้นยวนใช้ บางครั้งด้านในจะมีแค่เขาคนเดียว กว่าลิฟต์จะขึ้นถึงชั้นบนสุดก็ใช้เวลาประมาณสิบนาที

ถึงแม้จะไม่ใช่เวลาที่นานนัก แต่ก็ดีกว่าไม่มีโอกาสเลย

วันนี้ขณะที่ลู่จิ้นยวนกำลังกดลิฟต์ชั้นล่าง หลิวเมิ่งเซวี่ยก็แทรกตัวเข้ามาด้วยสีหน้าเกรงใจ "ขอโทษค่ะประธานลู่ ลิฟต์ฝั่งโน้นคนเยอะเกินไป ไม่ทราบว่าฉันจะขอขึ้นลิฟต์ส่วนตัวของคุณไปด้วยได้มั้ยคะ พอดีมีงานด่วนค่ะ"

ลู่จิ้นยวนปรายตามองเธออย่างเย็นชา โดยไม่ได้พูออะไร หลิวเมิ่งเซวี่ยเห็นว่าเขาไม่ได้ว่าอะไรจึงเดินเข้าไปในลิฟต์ทันที

ในขณะที่ประตูลิฟต์กำลังจะปิดลง ลู่จิ้นยวนก็เอามือกั้นประตูไว้ เขาเห็นเวินหนิงเดินมาพอดีจึงพูดขึ้น "เข้ามา"

หลิวเมิ่งเซวี่ยมองเวินหนิง แล้วมองการกระทำเขาลู่จิ้นยวน ในใจรู้สึกไม่ชอบใจขึ้นมา

เห็นได้ชัดว่า ลู่จิ้นยวนดีกับเวินหนิงมากกว่าเธอ เขายังเป็นฝ่ายเรียกเวินหนิงเองด้วย

ปกติเวินหนิงก็ขึ้นลิฟต์พนักงานอยู่แล้ว เธอเองก็ไม่อยากทำตัวมีสิทธิ์พิเศษอะไร จึงส่ายหน้า "ไม่เป็นไรค่ะ ฉันไม่มีงานด่วนอะไร รอขึ้นลิฟต์ฝั่งนี้ได้ค่ะ"

หลิวเมิ่งเซวี่ยถูกเขาพูดใส่อย่างไม่ไว้หน้าถึงสองครั้งสองครา จนเธอหน้าเสียไปหลายหน แต่ก่อนที่จะทันได้พูดอะไรต่อ ไฟในลิฟต์ก็กระพริบหลับๆติดๆขึ้น

ตามมาด้วยเสียงเสียดสีของโลหะอย่างรุนแรง ลิฟต์ที่เลื่อนขึ้นอย่างนิ่มนวลก็หยุดชะงักลง ไฟในห้องลิฟต์ก็ดับมืดลง

พื้นที่แคบๆในลิฟต์มืดสนิท

หลิวเมิ่งเซวี่ยร้องกรี๊ดขึ้น "กรี๊ด!"

สิ่งที่เกิดขึ้นกะทันหันทำให้เวินหนิงตกใจอยู่ไม่น้อย เธออดไม่ได้ที่เอามือวางบนท้องน้อย เพื่อบอกลูกน้อยในครรภ์ว่าไม่ต้องกลัว

"เวินหนิง เธอเป็นยังไงบ้าง?"

ลู่จิ้นยวนไม่มีอาการตกใจแต่อย่างใด ขณะที่ขมวดคิ้วดูอาการของลิฟต์ที่ขัดข้อง ก่อนจะกดปุ่มพูด ก็ถามหาเวินหนิงอย่างไม่รู้ตัว

"ฉัน.....ไม่เป็นไร "

เวินหนิงรู้สึกประหลาดใจที่เขาถามถึงเธอก่อน แต่ก็รีบตอบกลับทันที

หลิวเมิ่งเซวี่ยฟังสองคนนั้นโต้ตอบกันแล้วก็กำมือเข้าหากันแน่น เธอก็ติดอยู่ในลิฟต์เหมือนกัน เธอก็เป็นผู้หญิง และรู้สึกกลัวเหมือนกัน ทำไมลู่จิ้นยวนถึงไม่ถามถึงเธอซะคำ?"

หรือว่า ลู่จิ้นยวนจะรู้สึกชอบเวินหนิงอยู่?

นึกถึงความเป็นไปได้ข้อนี้แล้ว หลิวเมิ่งเซวี่ยก็ลืมเรื่องที่กำลังติดอยู่ในลิฟต์ไปชั่วขณะ

ตอนนี้ลู่จิ้นยวนยังไม่รู้ความจริง ยังใส่ใจดูแลเวินหนิงแบบนี้ แล้วถ้าเขาเกิดรู้ความจริงขึ้นมา เธอจะเหลือโอกาสอะไร?

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงแค้นแสนรัก