"เพี๊ยะ!" สิ้นคำพูดของหลินซินเหยียน ฝ่ามือหนึ่งก็ตบลงไปบนใบหน้าของนางอย่างแรง ใบหน้าของนางสั่นไหวหลินซินเหยียนยกมือกอบกุมใบหน้าของนางด้วยความงุนงง นางหันไปมองเจ้าของฝ่ามือนั้น ริมฝีปากสั่นระริกเอ่ยขึ้นด้วยความไม่เชื่อในสายตา
"ท่านพ่อ เหตุใดถึง...."
"นางลูกไม่รักดี! ใครให้เจ้าพูดจาเช่นนี้กับซินเอ๋อกัน" ชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำบึกบึน ด้วยเพราะเป็นนักรบจึงดูมีความน่าเกรงขามอยู่มากแม้จะอายุล่วงเลยเข้าวัยสี่สิบกว่าแล้วก็ตาม
สายตาเย็นชา จ้องมองสตรีตรงหน้าของเขาคล้ายกับว่านางมิใช่บุตรสาวแท้ๆแต่เป็นเพียงทาสรับใช้ไร้ค่าก็เท่านั้น ใบหน้าของหลินซินเหยียนบวมแดงขึ้นมาในทันใด ความเจ็บปวดทางร่างกายหรือจะสู้ทางจิตใจ น้ำตาไหลรินเอ่ยขึ้นด้วยเสียงสั่นเครือ
"ท่านพ่อ...ข้าต่างหากที่เป็นบุตรสาวแท้ๆของท่าน" น้ำเสียงสะอื้นปนความเจ็บปวดเอ่ยขึ้นแทบจะขาดใจ นางห้องไห้ด้วยความเจ็บปวด ความรู้สึกเสียใจถาโถมเข้ามา "ข้าต่างหากที่เป็นบุตรสาวแท้ๆของท่าน นางเป็นเพียงบุตรบุญธรรมที่ท่านเก็บมาเลี้ยงเอาไว้เท่านั้น"
แม่ทัพใหญ่หลินเสวี่ยเฟยหัวเราะเยาะเย้ยขึ้นมาในทันที "นางก็เป็นบุตรสาวของข้าเช่นเดียวกันกับเจ้า แต่นางมีค่ากว่าเจ้าที่ไร้ประโยชน์ จวนแม่ทัพของข้ามีคนไร้ประโยชน์เช่นเจ้าอาศัยอยู่ มันคือความอัปยศอดสูแก่ตระกูลของข้า
เจ้าดูนางสิ เจ้าบอกนางเป็นเพียงบุตรบุญธรรม แต่นางนั้นมีความสามารถโดดเด่น เป็นอัจฉริยะมีหน้ามีตาแก่ตระกูลหลิน นางเป็นความภาคภูมิใจของตระกูลหลิน
ข้าจะบอกเจ้าให้ เหตุการณืในวันนี้เป็นข้าเองที่อนุญาตให้องค์ชายรชทายาทพบเจอกับซินเอ๋อ มิเช่นนั้นแล้วเจ้าคิดว่าทั้งวันจะไม่มีผู้ใดเข้ามาพบเจอเลยหรือ?"
ราวกับโดนฟ้าผ่า หลินซินเหยียนตัวชาแข็งทื่อนางไม่คิดเลยว่า เรื่องราวทั้งหมดในวันนี้จะเป็นแผนการของบิดาแท้ๆของนาง เหตุใดกันเพียงเพราะว่านางนั้นไร้พลังลมปราน ไม่มีวิทยายุทธเช่นนั้นหรือ แม้กระทั่งเวลาผ่านไป ก็มีเสียงสดใสของเด็กสาวสองคนวิ่งเข้ามา
"ท่านพี่ซินเอ๋อ ท่านมิเป็นอันใดใช่หรือไม่?" หลินเสวี่ยเฟย และหลินเสวี่ยหยวน น้องสาวต่างมารดาของนางวิ่งกันเข้ามา ทั้งสองต่างก็ไปปลอบโยนหลินเสี่ยวซินกันเสียหมด สายตาดูแคลนของทุกคนที่มองมา มันทำให้หัวใจของหลินซินเหยียนนั้นแตกสลายไปแล้วจริงๆ
"ท่านพี่ซินเอ๋อ ท่านไม่ต้องกลัว ไม่มีผู้ใดรังแกท่านได้พวกข้าและท่านพ่อจะปกป้องพี่เอง" เสียงใสเอ่ยขึ้นราวกับว่าเวลานี้หลินซินเหยียนคือปีศาจที่โหดเหี้ยมอย่างไรอย่างนั้น
สายตาที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังของเย่เฉินตง สายตาที่เต็มไปด้วยความรังเกียจของน้องสาวต่างมารดาทั้งสอง และสายตาที่ท่านพ่อของนางมองมา ต่างทำให้หัวใจของหลินซินเหยียนเจ็บปวด
"พวกข้าสองคน พี่ท่านเป็นพี่สาวเพียงผู้เดียวเท่านั้น บ้านตระกูลหของพวกเรา ทุกคนในจวนต่างก็ชื่นชมยกย่องท่านเป็นคุณหนูเพียงผู้เดียว ส่วนคนอื่นที่ไร้ค่า ไม่สมควรด้วยซ้ำที่นางจะอาศัยอยูู่ในจวนแม่ทัพแห่งนี้" หลินเสวี่ยเฟยกล่าว
หลินเสี่ยวซินตกใจเป็นอย่างมาก นางไม่คิดว่าหลินซินเหยียนจะตัดสินใจฆ่าตัวตายจริงๆ แล้วเช่นนี้ชีวิตของนางจะสนุกไปได้อย่างไรกัน ทันใดนั้นนางก็คิดได้ ตั้งท่าจะวิ่งเข้าไปดูหลินซินเหยียน นางตะโกนออกไปเสียงดัง
"ท่านพี่!" หลินเสี่ยวซินที่กำลังจะวิ่งเข้าไปร่างของนางก็ถูกองค์รัชทายาทดึงรั้งเอาไว้ ดวงตาเย็นชาของเขามองไปยังร่างบางที่นอนจมกองเลือดด้วยความรังเกียจ แม่ทัพใหญ่ถอนหายใจออกมา ก่อนจะเอ่ยขึ้นมาด้วยความไร้เยื่อไยว่า
"คนไร้ค่าเช่นนี้ ตายไปเสียก็ถือว่าดีแล้ว กลับออกไปกันเถอะ ค่อยให้คนมาจัดการศพทีหลัง"
กล่าวจบชายวัยกลางคนก็เดินออกไปด้วยใบหน้าที่ไร้ความรู้สึก ท่าทีของเขาที่แสดงออกมานั้นราวกับว่า สตรีที่นอนจมกองเลือดอยู่นั้นหาใช่บุตรสาวของตนไม่ องค์รัชทายาทเย่เฉินตงรู้สึกสะเทือนใจเล็กน้อย จะบอกว่าเขาไม่รู้สึกอะไรเลยก็เป็นไปไม่ได้แต่หากนางตายได้ก็ดียิ่งนัก การหมั้นหมายของเขาก็จะสามารถเปลี่ยนมาเป็นซินเอ๋อได้อย่างง่ายดายเช่นเดียวกัน
เพราะเมื่อเทียบกับซินเอ๋อแล้วนางไม่มีคุณสมบัติใดที่เพียบพร้อมและเหมาะสมกับเขาเลยสักนิด สตรีที่ไร้ค่า ไร้ประโยชน์เช่นนางอยู่ไปก็รั้งแต่จะให้ผู้คนอับอาย ตายเสียได้เช่นนั้นก็ดีแล้ว
........
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางหมอ