เวินเหลียงหยาที่นอนอยู่บนพื้นแสร้งทำเป็นตายก็ไม่สนใจอันตรายอีกต่อไป ผลักคนตายบนร่างเขาออกไปแล้วก็รีบวิ่งเข้ามาทันที
“ท่านแม่ ท่านแม่เป็นอย่างไรบ้าง ท่านพ่อ ทำไมท่านถึงต้องฆ่าท่านแม่” เวินเหลียงหยาถาม
“นางหาที่ตายเอง นางอยากฆ่าข้า แล้วทำไมข้าฆ่านางไม่ได้ล่ะ” เวินหานเทียนย้อนถาม
“ท่านทำเกินไปแล้ว ท่านแม่แต่งงานกับท่านมาหลายปี ได้คลอดและเลี้ยงลูกให้ท่าน แต่ท่านกลับมีจิตใจโหดเหี้ยมขนาดนี้!” ในชั่วขณะนั้นเวินเหลียงหยารู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมาก
เวินหานเทียนอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่โม่เหลิ่งเหยียนหมดความอดทนแล้ว “ข้าไม่มีเวลาฟังพวกเจ้าพูดเรื่องไร้สาระ ทุกคนมาจัดการพวกเขาเลย!”
เมื่อเหล่าทหารคิดจะเดินไปข้างหน้า ทันใดนั้นวัตถุสีดำหลายสิบชิ้นก็บินมาจากรอบทิศทาง
“ทุกคนระวัง มีคนซุ่มโจมตี!” หยุนไห่เทียนตะโกนด้วยเสียงดัง
ทุกคนหลบทันที รวมทั้งเวินหานเทียนก็หลบไปที่ด้านข้างตามจิตใต้สำนึก
วัตถุสีดำเหล่านั้นมีขนาดเท่าข้อมือและแผ่ควันหนาออกมา ตาสภาพแวดล้อมที่ใสแต่เดิมก็เต็มไปด้วยหมอกควันในชั่วพริบตา ทำให้ทุกคนไอไม่หยุด สายตาก็เลือนรางและไม่สามารถมองเห็นข้างหน้าอย่างชัดเจนได้แล้ว
ภายใต้การปิดบังของควันหนา มีชายชุดดำหลายสิบกว่าคนวิ่งเข้ามาจากรอบด้านและพุ่งเข้าไปในควันหนา
เสียงมีดและดาบฟาดฟันกันดังขึ้นในพริบตา นัยน์ตาของโม่เหลิ่งเหยียนแผ่ความทระนง “จับคนของตระกูลเวินทั้งหมดให้ได้เลย!”
“ขอรับ!” ทุกคนรับคำสั่งทันที
ในควันที่หนาทึบ ต่างก็มองไม่เห็นคนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามอย่างชัดเจน จึงได้แต่โจมตีกลับและหลบตามความรู้สึก แต่ก็กลัวว่าจะทำร้ายสหายของตนดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถโจมตีอย่างเต็มกำลังได้
โม่เหลิ่งเหยียนรีบวิ่งไปที่ตำแหน่งของเวินหานเทียนโดยพึ่งพาความทรงจำของตน และโจมตีไปที่เขาด้วยการตบอย่างแรง
มีชายชุดดำคนหนึ่งโจมตีกลับด้วยฝ่ามือที่แหลมคมในควันที่หนาทึบ ซึ่งบังเอิญชนกับฝ่ามือของโม่เหลิ่งเหยียนพอดี กำลังภายในกระแทกกันและได้ส่งผลกระทบร้ายแรงมาก โม่เหลิ่งเหยียนก็คาดไม่ถึงว่าคู่ต่อสู้จะมีกำลังภายในที่แข็งแกร่งขนาดนี้ ขาจึงถอยหลังไปสองสามก้าวโดยไม่รู้ตัว
อยู่ๆก็มีเข็มเงินหลายเข็มพุ่งเข้ามาทางโม่เหลิ่งเหยียนจากด้านหน้าอย่างกะทันหัน โม่เหลิ่งเหยียนรีบหลบแต่ก็ยังคงถูกเข็มเงินเข็มหนึ่งแทงเข้า
สีหน้าของโม่เหลิ่งเหยียนมืดมนปานน้ำแข็ง เขาใช้กำลังภายในเพื่อถอนเข็มเงินออกมา แต่ทันใดนั้นใบหน้าของเขาซีดลง กำลังภายไนก็สลายไปดูเหมือนทุกข์ทรมานมาก
“ซวนอ๋อง ท่านเป็นอะไรไปหรือ” หยุนไห่เทียนวิ่งเข้ามาหา เมื่อเห็นเขาผิดปกติก็รีบยื่นมือประคองเขาทันที
“ข้าไม่เป็นไร เจ้าไปจับเวินหานเทียนก่อน อย่าให้เขาหนีไปเป็นอันขาด” โม่เหลิ่งเหยียนสั่ง
“ได้ ท่านต้องระวังตัวด้วย” หยุนไห่เทียนมองเขาปราดหนึ่ง แล้วก็วิ่งเข้าไปในควันหนาโดยตรง
โม่เหลิ่งเหยียนหมุนตัวและวิ่งตรงไปยังทิศทางหนึ่ง เมื่อเขาเห็นมีชายชุดดำคนหนึ่งกำลังฟันไปที่กู้ซินฉีด้วยมีด โม่เหลิ่งเหยียนก็ใช้กำลังทั้งหมดเพื่อผลักคนคนนั้นออกไปด้วยฝ่ามือของเขา แต่เนื่องจากได้ใช้กำลังภายในด้วย จึงทำให้อวัยวะภายในและเลือดลมของเขาสูญเสียการควบคุม ทันใดนั้นเลือดก็พ่นออกมาจากปากและใกล้จะล้มลงกับพื้น
“ซวนอ๋อง ท่านเป็นอะไรไปหรือ” กู้ซินฉีลุกขึ้นจากพื้นโดยกลั้นความเจ็บปวดไว้ และรีบมาประคองร่างของโม่เหลิ่งเหยียนอย่างรวดเร็ว
“ข้าไม่……” พูดยังไม่ทันจบ ภาพตรงหน้าของโม่เหลิ่งเหยียนก็มืดมิดและหมดสติไปแล้ว
“ซวนอ๋อง ซวนอ๋อง!” กู้ซินฉีตะโกน
เหล่าทหารและพวกหยุนไห่เทียนในควันที่หนาทึบต่างก็ได้ยินเสียงนี้ หยุนไห่เทียนไม่มีเวลาไปไล่ตามเวินหานเทียนอีก และจีบวิ่งกลับมาอย่างเร็ว
ควันหนาค่อยๆสลายไป เหล่าทหารได้จับคนทั้งหมดของตระกูลเวิน หมอทหารรีบมารักษาโม่เหลิ่งเหยียน แต่หลังจากการตรวจชีพจรเสร็จ หมอทหารตื่นตระหนกทันที
“เรื่องมันแย่แล้ว ซวนอ๋องถูกพิษ และเป็นพิษที่อันตรายมากด้วย ถ้าไม่สามารถหายาถอนพิษภายในสามวันได้ สารพิษก็จะระเบิดจนทำให้เสียชีวิตอย่างแน่นอน กระหม่อมไร้ความสามารถที่จะถอนพิษให้ซวนอ๋อง” หมอทหารเอ่ย
ใบหน้าของหยุนไห่เทียนบึ้งตึง และรีบหยิบยาถอนพิษที่พกติดตัวออกมาทันที “นี่เป็นยาถอนพิษที่ถิงเอ๋อร์มอบให้ข้า ข้าพกติดตัวอยู่เสมอ ให้ซวนอ๋องกินไปก่อน”
หมอทหารรีบรับมันและเปิดมาดม “เป็นยาที่ดีจริงๆ ยาถอนพิษของซื่อจื่อเฟยจะทำให้ซวนอ๋องมีชีวิตอยู่ได้อีกหลายวัน” เขาให้ซวนอ๋องกินมันลงในขณะที่พูด
สัญญาณถูกปล่อยไปในกลางอากาศ ทำให้มีดอกไม้ไฟที่เป็นรูปดอกบัวแตกกระจายออกมา ดูพิเศษเป็นอย่างยิ่ง
หยุนถิงและคนอื่นๆกำลังเร่งเดินทางด้วยบอลลูนอากาศร้อน และบังเอิญเห็นดอกไม้ไฟที่เป็นรูปดอกบัวในกลางอากาศนั้นพอดี หยุนถิงตื่นตกใจมาก
“แย่แล้ว เสี่ยวลิ่วเกิดอุบัติเหตุ เร็วเข้า เร็วเข้าเลย!”
จวินหย่วนโยวรีบทำตาม และสั่งให้ทุกคนเร่งความเร็วเพื่อกลับไปที่เมืองหลวงให้เร็วที่สุด
พวกหยุนไห่เทียนพาโม่เหลิ่งเหยียนไปที่จวนตระกูลฟู่โดยตรง เมื่อหมอยมบาลได้ยินว่าโม่เหลิ่งเหยียนถูกพิษและหมดสติก็ตื่นขึ้นมาด้วยความตกใจ และรีบวิ่งไปรักษาโม่เหลิ่งเหยียนโดยไม่มีเวลาแม้แต่จะสวมเสื้อคลุมนอก
แต่พิษนี้ทำให้หมอยมบาลทำหน้าอึดอัด “ข้าเป็นหมอมาหลายปี แต่ก็ไม่เคยเห็นพิษแปลกๆแบบนี้มาก่อน”
ตาเฒ่าเหอรีบเข้ามาและตรวจชีพจรของโม่เหลิ่งเหยียน “การถอนพิษคงจะยากมาก แม่ทัพหยุน เจ้าควรหาทางติตต่อซื่อจื่อเฟยเผื่อพวกเราไม่สามารถถอนพิษได้ อย่าทำให้การรักษาล่าช้า”
“พวกท่านวางใจได้เลย ข้าให้เสี่ยวลิ่วไปแจ้งถิงเอ๋อร์แล้ว หวังว่านางจะได้เห็นมัน” หยุนไห่เทียนตอบ
“ถ้าอย่างนั้นก็ดีแล้ว”
“พวกเจ้าออกไปก่อน ข้าจะต้องหารือกับตาเฒ่าเหอว่าจะถอนพิษได้อย่างไร” หมอยมบาลเอ่ยขึ้น
“ได้” หยุนไห่เทียนรีบสั่งให้ทุกคนกลับไป
หมอยมบาลและตาเฒ่าเหออยู่ในห้องและจ้องมองซึ่งกันและกัน พวกเขาถอดเสื้อผ้าของโม่เหลิ่งเหยียนออก และพบว่ามีจุดเลือดสีดำบนไหล่ของเขา หมอยมบาลรีบเอาเข็มเงินแทงเข้าไปทันที จากนั้นก็บีบเลือดสีดำออกเพื่อแยกแยะสารพิษ
แต่ผลที่ออกมาทำให้พวกเขาตกตะลึงทั้งคู่ “ตาเฒ่าเหอ ทำไมข้าถึงรู้สึกว่าพิษที่แปลกๆนี้คุ้นเคยมากนะ”
“เหมือนกับพิษของซื่อจื่อเฟยมากเลย หรือว่าซื่อจื่อเฟยคิดจะทำร้ายซวนอ๋อง” ตาเฒ่าเหอสงสัยด้วยความตกใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ
อัพต่อด้วยจ้า...
รอตอนต่อจ้า...
แต่ละบทที่่อ่านแล้ว ควรมีสีหรือเครื่องหมายที่แตกต่างกัน ผู้อ่านจะได้ทราบว่าเรืื่องนี้อ่านไปถึงบทไหนแล้ว...
รำคานโฆษณาที่เลื่อนเข้ามา เข้าใจได้ว่าต้องหารายได้ แต่ควรนำไปวางไว้ด้านล่างสุด ไม่ด้านซ้ายก็ด้านขวา จะได้ไม่เสียอารมณ์ในการอ่าน ปกติโฆษณาที่อยู่ระหว่างหน้าก็ใหญ่และมากอยู่แล้ว...
ขอร้องทงทีมงานช่วยอัพเดทจนจบด้วยนะคะ😭😭😭😭😭...
เรื่องนี้ทางทีมงานจะอัพเดทต่อมั้ยค่ะ😭...
รอตอนใหม่อยู่นะคะ😭🙏🏻...
เมื่อไหร่จะอัพเพิ่มค่ะหายไปเป็นเดือนแล้วนะ...
รอค่ะ ตามเรื่องนี้มานานมาก อัพตอนต่อจาก 1070 ให้หน่อยค่ะ...
สนุกมากค่ะ รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะรบกวนลงต่อให้จบด้วยค่ะ กำลังสนุก...