จอมนางข้ามพิภพ นิยาย บท 1023

“ไม่เป็นเช่นนั้นอยู่แล้ว ขอบคุณมาก รอข้ากลับมาแล้วต้องขอบคุณเจ้าเป็นอย่างดีแน่นอน” โม่ฉือหานกล่าวขอบคุณ หันหลังก็จากไป

ผู้ดูแลเดินออกมาจากด้านหลัง “หลันซาน เจ้าจะช่วยหลีอ๋องดูแลลูกจริงหรือ ถ้าหากเป็นแผนคิดร้ายของเขาล่ะ หรือไม่หากเด็กเป็นอะไรไปแล้วมาโทษเจ้าจะทำอย่างไร?”

ผู้จัดการร้านเป็นคนของหยุนถิง ดังนั้นจึงไม่ชอบหลีอ๋อง

หลันซานส่ายหน้า “ไม่หรอก หลีอ๋องให้ความสำคัญกับลูกชายของตัวเองขนาดนั้น หากเขาต้องการจะจัดการข้า ไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้เลยด้วยซ้ำ และข้าก็ไม่มีอะไรควรค่าให้เขาวางแผนคิดร้ายด้วย”

ผู้จัดการคิดดูแล้ว ก็รู้สึกว่าคำพูดนี้ก็มีเหตุผล “หวังว่าข้าจะคิดมากไป”

ชั่วครู่หนึ่ง รั่วจิ่งก็ถือถุงกระดาษกลับมา “รีบชิมดูเร็ว นี่คือไก่ทอดกับเฟรนช์ฟรายส์ที่เจ้าชอบกินที่สุด แล้วก็ยังมีขนมแป้งทอดที่เพิ่งออกใหม่จากร้านอาหารว่างของซื่อจื่อเฟย เพิ่งจะออกจากเตายังร้อนอยู่เลย”

ขณะที่พูด รั่วจิ่งก็หยิบไม้ไปแทงขนมแป้งทอดหนึ่งชิ้นแล้วส่งไปถึงปากของหลันซาน

หลันซานยิ้มอย่างรู้ใจ อ้าปากก็กินไปหนึ่งคำ “อื้ม อร่อย”

“นั่นมันแน่นอนอยู่แล้ว ฝีมือการทำอาหารของซื่อจื่อเฟยเป็นหนึ่งในสี่แคว้น อาหารที่เพิ่งออกใหม่หลันซานของข้าย่อมต้องได้ชิมก่อนอยู่แล้ว” รั่วจิ่งกล่าวอย่างได้ใจ ป้อนขนมนางต่อไป

ในใจของหลันซานเต็มไปด้วยความตื้นตัน ชีวิตนี้สามารถได้พบคนที่รักตัวเอง ปฏิบัติต่อตัวเองด้วยความจริงใจเช่นนี้ นางรู้สึกพอใจมากแล้ว

“ใช่แล้ว เมื่อครู่ตอนที่เพิ่งถึงหน้าประตูข้าเห็นซวนอ๋องออกไปจากที่นี่ เขาคงไม่ได้มาหาเรื่องใช่ไหม?” รั่วจิ่งสอบถาม

“เขาอยากให้ข้าช่วยดูแลลูกชาย” หลันซานเล่าเรื่องที่โม่ฉือหานมาหาตัวเองเมื่อครู่ออกมาอย่างไม่มีตกหล่น

รั่วจิ่งได้ยินก็โมโหขึ้นมา “โม่ฉือหานเห็นเจ้าเป็นอะไร แม่นมหรือบ่าวรับใช้ จวนหลีอ๋องมีคนมากมายขนาดนั้น เหตุใดจะต้องให้เจ้าดูแลเด็กด้วย มันเกินไปแล้วจริงๆ เราไม่ช่วยเขาดูแล ข้าจะไปบอกเขาให้ชัดเจนเดี๋ยวนี้!”

“บางทีอาจเป็นเพราะครั้งก่อนลูกชายของเขาถูกพิษ ดังนั้นเขาถึงได้ไม่เชื่อใจคนในจวน อีกอย่างข้ายังเป็นอาของเด็กอีกด้วย ดูแลก็ดูแลเถอะ อย่างไรเสียข้าก็ไม่ได้ทำอะไรอยู่แล้ว” หลันซานอธิบาย

รั่วจิ่งเบะปาก “เจ้าไม่สนใจจะเป็นอาของเจ้าหมอนั่นหรอก ข้ากลัวว่าเจ้าจะเหนื่อย”

“ไม่หรอก เด็กเลี้ยงง่ายมาก อีกอย่างข้ายังมีเจ้าทั้งคนไม่ใช่หรือ?” หลันซานถามกลับ

“หยุดเลย เจ้าอย่าคิดจะให้ข้าช่วยหลีอ๋องดูแลเด็กเชียว ข้าไม่บีบคอเขาให้ตายก็ดีแค่ไหนแล้ว ตอนนั้นหลีอ๋องปฏิบัติต่อซื่อจื่อเฟยเช่นนั้น ตอนนี้ข้าเห็นหลีอ๋องยังอยากจะซัดเขาสองหมัดอยู่เลย ถึงเวลาหาแม่นมกับบ่าวรับใช้ให้เขาหลายๆคน เห็นเจ้าเหนื่อยข้ารู้สึกปวดใจ” รั่วจิ่งตอบ

คำพูดที่พูดออกมาขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน แต่พูดถึงตอนสุดท้ายกลับอ่อนโยนอย่างยิ่ง แม้แต่หลันซานก็ยังรู้สึกขบขันไปกับเขา

“เจ้าน่ะ ปากร้ายใจดีตลอด ครั้งก่อนเจ้าเด็กน้อยคนนั้นถูกพิษ เจ้าก็ยังรีบช่วยหายาไปทั่วไม่ใช่หรือ?”

“นั่นเป็นเพราะว่าข้าว่างต่างหาก” รั่วจิ่งกล่าวอย่างปากแข็ง

“วางใจเถอะ ข้ารู้จักขอบเขต”

รั่วจิ่งเข้ามาใกล้ ลดเสียงลงแล้วกล่าวว่า “หากเจ้าชอบเด็กจริงๆ เราก็สามารถให้กำเนิดของตัวเองคนหนึ่ง ไม่ เจ้าต้องการจะให้กำเนิดกี่คนก็ได้ทั้งนั้น”

แก้มของหลันซานแดงก่ำในทันที “อย่าวุ่นวายสิ”

“ข้าไม่ได้วุ่นวาย ข้าจริงจัง เจ้าดูจ้าวเคอกับฉินจิ้งอี๋มีลูกคนที่สองกันแล้ว โม่หลานก็ให้กำเนิดแล้ว ลูกของซูชิงโยวก็ไปซื้อซีอิ๊วได้แล้ว เสี่ยวเทียนกับเสี่ยวเหยียนก็ใกล้จะห้าขวบแล้ว มีเพียงเราสองคนที่ยังโดดเดี่ยวเดียวดายอยู่” รั่วจิ่งทอดถอนใจ

หลันซานก้มหน้าลงด้วยความเขินอาย “ห้ามพูดอีกนะ”

รั่วจิ่งมองดูท่าทางเขินอายของนาง ยิ่งรู้สึกว่านางน่ารักมาก จู่ๆก็ก้มหน้าจูจุ๊บไปที่แก้มของหลันซาน

หลันซานตัวแข็งทื่อทันที จากนั้นแม้แต่ลำคอก็ยังเปล่งประกายสีชมพู “รั่วจิ่งเจ้าร้ายเกินไปแล้ว”

“ข้าทำเช่นนี้แค่กับเจ้าเท่านั้น เจ้าว่าข้าจะไปขอยาโอสถฟื้นฟูร่างกายกับซื่อจื่อเฟยดีไหม เช่นนี้ข้าก็จะได้ฮึกเหิมมีชีวิตชีวาสามารถประกาศแสนยานุภาพแล้ว” รั่วจิ่งกล่าวพร้อมกับยิ้มร้ายๆ

หลันซานจ้องมองเขาอย่างตำหนิครู่หนึ่ง “ห้ามไปนะ หากเจ้ากล้าไปข้าจะ.......”

“จะทำไม?” รั่วจิ่งจงใจเย้าแหย่นาง

แต่แล้วมือเพิ่งจะสัมผัสถูกผ้าอ้อมก็ได้ยินเสียงปุดดังออกมา รั่วจิ่งโกรธจนใบหน้าดำมืด “เจ้าเด็กบ้าถึงกับกล้าตดใส่มือของข้า”

เสียงนี้ ทำให้ทุกคนหัวเราะออกมา เสียงหัวเราะของหลันซานดังที่สุด “อย่ามองว่าเจ้าหมอนี่ตัวเล็ก ค่อนข้างร้ายกาจทีเดียว รู้จักผายลมปกป้องตัวเอง”

“เจ้าเด็กบ้า ดูสิว่าข้าจะไม่.......ไอ๊หยา อะไรน่ะทำไมถึงได้เหม็นขนาดนี้?” ใบหน้าของรั่วจิ่งเต็มไปด้วยความรังเกียจ

หลันซานที่อุ้มโม่โยวเอาไว้รู้สึกถึงความอุ่นในมือทันที “น่าจะถ่ายแล้ว ข้าไปเปลี่ยนผ้าอ้อมให้เจ้าเด็กน้อยก่อน” พูดจบก็อุ้มเด็กเข้าไปในเรือน

แม่นมกับบ่าวรับใช้ตามเข้าไปทันที ทิ้งรั่วจิ่งที่ความคิดยุ่งเหยิงเอาไว้คนเดียวในสายลม

เขาจ้องมองไปที่ประตูห้องอย่างดุดันครู่หนึ่ง หันหลังก็จากไป มุ่งหน้าไปที่จวนซื่อจื่อ ต่อล้อต่อเถียงก็ส่วนต่อล้อต่อเถียงแต่หลีอ๋องให้ช่วยดูแลเด็กเรื่องนี้อย่างไรเขาก็ต้องบอกซื่อจื่อ

จวินหย่วนโยวได้ยินว่าโม่ฉือหานฝากลูกชายเอาไว้ให้หลันซาน ก็นึกถึงเรื่องผิดปกติของแคว้นเทียนจิ่วทันที สายของจวนซื่อจื่อกระจายไปทั่วทั้งสี่แคว้น แคว้นเทียนจิ่วส่งคนหลายพันคนเร่งเดินทางมายังชายแดนระหว่างแคว้นต้าเยียน จวินหย่วนโยวก็ได้รับข่าวแล้วเช่นกัน

“ดูท่าฝ่าบาทคงจะให้หลีอ๋องไปรอที่ชายแดน เพราะเกรงว่าแคว้นเทียนจิ่วจะลอบโจมตี” จวินหย่วนโยวเอ่ยปาก

“ซื่อจื่อ หรือว่าเหตุการณ์ของตระกูลเวินก่อนหน้านี้จะเกี่ยวข้องกับแคว้นเทียนจิ่ว?” รั่วจิ่งถาม

“ในบรรดาสี่แคว้นมีเพียงแคว้นเทียนจิ่วที่ผิดปกติ ถึงแม้จะไม่มั่นใจ แต่ก็ต้องป้องกันเอาไว้” ดวงตาของจวินหย่วนโยวมืดมน

ด้วยนิสัยที่ตรงไปตรงมาของเริ่นเซวียนเอ๋อร์ทำเรื่องเช่นนี้ออกมาไม่ได้แน่นอน เว้นแต่จะเป็นคนอื่นๆในแคว้นเทียนจิ่ว คนคนนี้เป็นใครกันแน่?

“ท่านพี่ ถ้าอย่างไรข้าลองถามเริ่นเซวียนเอ๋อร์ดูดีไหม?” หยุนถิงที่เดินเข้ามาเสนอแนะขึ้นมา

“ไม่ได้ ถ้าหากไปแหวกหญ้าให้งูตื่นมันจะไม่ดี ถึงแม้เริ่นเซวียนเอ๋อร์จะไม่เหมือนคนที่จะวางแผนคิดร้ายคนอื่นๆได้ แต่ก็ต้องระวังคนรอบข้างของนางเอาไว้ด้วย ส่งคนออกไปตรวจสอบให้ชัดเจนก่อนค่อยว่ากัน” จวินหย่วนโยวตอบ

“ท่านพี่กล่าวถูกต้องแล้ว”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ