จอมนางข้ามพิภพ นิยาย บท 1036

“ถือสิทธิ์ที่ข้าช่วยเจ้าไว้! หากเจ้าไม่รักชีวิตตนเองเยี่ยงนี้ ต่อไปก็อย่ามาบาดเจ็บต่อหน้าข้าอีก!” โม่ฉีเฟิงแค่นเสียงอย่างเดือดดาล

เมื่อก่อนเขามักรู้สึกว่าจี้อวี๋เหลวไหลไร้แก่นสาร ทำอะไรไม่เข้าท่า มักจะชอบป้วนเปี้ยนต่อหน้าตน ดังนั้นโม่ฉีเฟิงเลยไม่ชอบเจอหน้าจี้อวี๋

แต่ตั้งแต่ตระกูลเวินมาลอบโจมตี โม่ฉีเฟิงเห็นกับตาว่า เพื่อคุ้มครองฝ่าบาท จี้อวี๋ยอมตายก็ไม่ยอมให้คนตระกูลเวินเข้าไปทำร้ายฝ่าบาท อาศัยแค่จุดนี้โม่ฉีเฟิงก็ไม่หวาดระแวงจี้อวี๋อีก

ตอนนั้นเห็นนางบาดเจ็บสาหัส โม่ฉีเฟิงลนลานยิ่งนัก รีบอุ้มนางไปหาหมอหลวงทำแผลทันที หลายวันนั้นโม่ฉีเฟิงคอยเฝ้าจี้อวี๋อยู่ตลอด

จี้อวี๋ไม่แยแส เบ้ปากบอก “แม่ทัพโม่ ท่านตื่นเต้นเรื่องข้าขนาดนี้ นี่ข้านึกว่าท่านชอบข้าเสียแล้วนะใช่หรือไม่?”

หากเป็นเมื่อก่อน โม่ฉีเฟิงต้องย้อนออกไปแน่ แต่ครั้งนี้เขากลับไม่พูดอะไร

ไม่ได้ปฏิเสธ และก็มิได้ยอมรับ

“ในเมื่อท่านยังคงรังเกียจข้า จะสนใจความเป็นความตายข้าทำไม ท่านอย่าลืมนะว่าข้าเป็นคนแคว้นเทียนจิ่ว ไม่แน่ข้าอาจจะกลับไปสวามิภักดิ์เริ่นเซวียนเอ๋อร์ก็ได้ ถึงอาหารของแคว้นต้าเยียนของท่านจะดี แต่ข้าก็ไม่ค่อยคุ้นเคย ไม่ดีเท่าอาหารบ้านเกิดหรอก” จี้อวี๋ถอนหายใจบอก ยกเท้าจะก้าวเดินไป

“ดังนั้น เจ้าอยากกลับแคว้นเทียนจิ่วรึ?” โม่ฉีเฟิงถามอย่างคิ้วขมวดเป็นปม

“ยังไม่ได้ตัดสินใจ” พอจี้อวี๋หมุนตัวก็เห็นหยุนถิงที่ยืนอยู่ไม่ไกลพอดี “ซื่อจื่อเฟย ท่านเข้าวังมาทำไมรึ?”

หยุนถิงเห็นละครสนุกๆฉากนี้พอดี ยังนึกว่าโม่ฉีเฟิงจะใจกล้าสารภาพรักออกมาเสียอีก นางเห็นทั้งคู่ไม่ได้เปิดอกคุยกัน หยุนถิงอดร้อนใจแทนพวกเขาไม่ได้

“ข้าเข้าวังมาหาฝ่าบาท ไม่คิดว่าจะมาเจอเจ้ากับแม่ทัพโม่” หยุนถิงตอบ หันไปพยักหน้ากับโม่ฉีเฟิงเป็นเชิงทักทาย

“ซื่อจื่อเฟยเชิญตามสบายเลย ข้ายังต้องไปลาดตระเวน ไม่รบกวนแล้ว” โม่ฉีเฟิงพูดจบ หมุนตัวจากไปทันที

“ก้อนหินเหม็นจริงๆ” จี้อวี๋เบ้ปากบอก

“เจ้าดูไม่ออกรึว่า แม่ทัพโม่ไม่อยากให้เจ้ากลับไปน่ะ?” หยุนถิงย้อนถาม

จี้อวี๋ชะงัก “เขากลัวข้ากลับแคว้นเทียนจิ่ว จากนั้นก็จะทรยศพวกท่าน และเป็นศัตรูกับแคว้นเทียนจิ่วน่ะสิ”

หยุนถิงยิ้มหน่ายใจ “โม่ฉีเฟิงเองก็เป็นแม่ทัพใหญ่ที่ออกรบมานาน จะใจแคบ มีความคิดเช่นนี้ได้อย่างไร

เขาเป็นคนทำอะไรเปิดเผย เขามิสนใจและก็ไม่มีความคิดเช่นนี้ดอก หากเจ้าเป็นศัตรูกับแคว้นต้าเยียนจริงๆ ดาบจริงปืนจริงในสงครามอยู่แล้วน่ะ

ข้าเห็นท่าทางเขาในวันนี้ ไม่เหมือนอยากเป็นศัตรูกับเจ้านะ กลับดูเหมือนเป็นห่วงเป็นใยเจ้า ไม่แน่อาจจะชอบเจ้าก็ได้”

“ชอบข้า เป็นไปได้อย่างไร ก่อนหน้านี้เขาเกลียดข้าจะตาย?” จี้อวี๋สีหน้าตกตะลึง

“จิตใจคนเรามันเปลี่ยนกันได้ หากไม่ได้ชอบเจ้า มีหรือจะสนใจว่าเจ้าจะเป็นหรือตาย บางทีแม่ทัพโม่อาจจะยังไม่รู้ตัวก็ได้ แต่ข้ามองไม่ผิดแน่ ความสุขของเจ้าเจ้าต้องคว้ามันไว้เองนะ” หยุนถิงช่วยนางวิเคราะห์อย่างหวังดี

จี้อวี๋มีสีหน้ายินดีระคนประหลาดใจ “ซื่อจื่อเฟย ท่านพูดขนาดนี้แล้ว ไม่มีทางผิดแน่ ข้าเชื่อสายตาท่าน ในที่สุดโม่ฉีเฟิงเจ้าหมอนี่ก็เปลี่ยนความคิดที่มีต่อข้าเสียที

เสียแรงที่ก่อนหน้านี้ข้าคิดหัวแทบแตกอยากให้เขาสนใจข้า แต่ก็โดนเขาปฏิเสธอยู่เรื่อย คราวนี้ข้าต้องคิดให้ดีละว่า จะทำยังไงให้เขาสารภาพความในใจของเขากับข้า ได้สลับบทบาทกันเช่นนี้มันสะใจจริงๆ” หยุนถิงเห็นจี้อวี๋ทำท่าจะไป ก็ถามออกมา “เจ้าไม่กลับแคว้นเทียนจิ่วแล้วรึ?”

“โม่ฉีเฟิงชอบข้าแล้ว ข้าจะกลับไปทำไมล่ะ ชีวิตคนเรามันสั้นนัก การมีความสุขน่ะสำคัญที่สุดแล้ว ข้าไม่คุยกับท่านละ ข้าต้องรีบไปไล่ตามความสุขของข้าละ” จี้อวี๋ออกจากวังอย่างหน้าชื่นตาบาน

หยุนถิงเห็นนางกระโดดไปเดินไปอย่างอารมณ์ดี ก็ดีใจกับนางด้วยจริงๆ ชีวิตนี้การที่ได้เจอคนที่รักตนอย่างจริงใจ และตนก็รักเขานั้น ไม่ง่ายเลยจริงๆ

ตำหนักในวัง

พอฮ่องเต้ได้ยินว่าหยุนถิงมา ก็ให้นางเข้ามาทันที “เจ้าเข้าวังมาหาข้า มีเรื่องอันใดรึ?”

“พวกเจ้าไปครั้งนี้ระมัดระวังกันให้มาก มีเรื่องอันใดก็รีบรายงานทันที อำนาจแถบชายแดนของจวนซื่อจื่อให้พวกเจ้าจัดแจงได้ตามสบาย!” จวินหย่วนโยวยื่นป้ายคำสั่งให้

คนหนึ่งในนั้นรับมา “ขอรับ!”

หยุนถิงมองดูพวกเขาจากไป ถึงจะรู้จักอำนาจของจวนซื่อจื่อดี แต่พอคิดถึงพี่ใหญ่ ก็อดไม่สบายใจไม่ได้ “ท่านพี่ ข้าอยากไปชายแดนสักครั้ง”

จวินหย่วนโยวรู้ว่าหยุนถิงให้ความสำคัญกับคนในครอบครัวที่สุด ในเมื่ออีกฝ่ายพุ่งเป้ามาที่หยุนไห่เทียน หยุนถิงไม่มีทางไม่ยุ่งแน่นอน

“ข้าไปกับเจ้าด้วย” จวินหย่วนโยวบอกอย่างรู้ดี

พ่อบ้านวางยาพิษตน และยังลอบทำร้ายฝ่าบาท สืบมานานขนาดนี้ก็รู้แค่เป็นแคว้นเทียนจิ่ว เห็นได้ชัดว่าอำนาจเบื้องหลังนั้นแข็งแกร่งและลึกลับนัก

“ขอบคุณท่านพี่” หยุนถิงรีบเรียกลูกทั้งสองมาสั่งความทันที พอตระเตรียมทุกอย่างเรียบร้อยก็ออกเดินทางทันที

พอหยุนหลีมาถึงจวนซื่อจื่อ ก็ได้ยินว่าพี่หญิงใหญ่และพี่เขยซื่อจื่อออกไปแล้ว อดแปลกใจไม่ได้ เดิมนางอยากถามพี่หญิงใหญ่ว่า รู้หรือไม่ว่าเหตุใดพี่ชายใหญ่จู่ๆถึงได้นำทหารจากไป แต่ไม่คิดเลยว่าพวกนางจะไม่อยู่บ้าน

“บางทีซื่อจื่อเฟยกับจวินซื่อจื่ออาจจะแค่ออกไปเที่ยวเล่นก็ได้ พวกเรากลับกันก่อนดีหรือไม่?” เสวี่ยเชียนโฉวปลอบ

“คงได้แต่ทำอย่างนี้แล้วล่ะ” หยุนหลีเบ้ปาก หมุนตัวกลับ

เพียงแต่เดินไปได้แค่สองช่วงถนน หยุนหลีก็ได้ยินเสียงคุ้นเคย พอเงยหน้าก็เห็นตำแหน่งติดหน้าต่างชั้นสองของหอชุนเฟิง จี้อวี๋กำลังโอบกอดบุรุษซ้ายขวาข้างละคนอย่างสบายอารมณ์

“ชายงาม ดื่มสักหน่อยสิ” จี้อวี๋พูดอย่างอ้อแอ้ ยื่นมือไปเชยคางชายผู้หนึ่งขึ้น อีกมือก็ยื่นจอกเหล้าถึงปากเขา ป้อนเขาดื่มเหล้า

“สวรรค์ ข้าไม่ได้ตาฝาดกระมัง จี้อวี๋กำลังเย้าหยอกชายงาม?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ