เมื่อหยุนถิงนึกถึงความบ้าคลั่งและร้อนแรงของจวินหย่วนโยวเมื่อคืนนี้ แก้มของนางก็แดงเรื่อร้อนผ่าว หัวใจเต้นรัว
“เจ้าอย่าได้เอ่ยถึงเรื่องนี้อีก เจ้าอันธพาล!” หยุนถิงตำหนิเขาออกมา
“ข้างั้นหรือ ข้าเพียงปรนนิบัติฮูหยินของตน เป็นเรื่องที่ฟ้าดินก็รับรู้ได้” จวินหย่วนโยวหัวเราะออกมาเบาๆ น้ำเสียงของเขาช่างดึงดูด ดูสนุกสนานดีอกดีใจ
หยุนถิงกลับเขินอายมิกล้ามองหน้าเขา เจ้าหมอนี่ตั้งใจอย่างแน่นอน นางจึงยื่นมือออกไปผลักจวินหย่วนโยวโดยมิรู้ตัว
ช่างบังเอิญเหลือเกินที่สัมผัสเข้ากับอกของจวินหย่วนโยว สัมผัสได้ถึงอุณหภูมิอันร้อนแรงที่ส่งผ่านมา หยุนถิงดึงมือกลับโดยสัญชาตญาณ
“ซื่อจื่อรีบลุกขึ้นเร็วเข้า ข้าหิวแล้วข้าอยากจะกินอะไรสักหน่อย”
“เช่นนั้นก็กินข้าสิ” จวินหย่วนโยวจงใจแกล้งนาง
จวินหย่วนโยวในบัดนี้มิได้ดูจริงจังและเยือกเย็นดังปกติ เขาเป็นผู้ชำนาญเชี่ยวชาญในการหว่านล้อม ความคลุมเครือ ประโยคอันหวานชื่นแต่ละคำทำให้หยุนถิงรู้สึกเขินอายเมื่อได้ยิน
“ซื่อจื่อ ท่านร้ายยิ่งนัก!” หยุนถิงเม้มริมฝีปาก
“ชายมิร้าย หญิงมิรัก” จวินหย่วนโยวกล่าวจบก็ก้มศีรษะจุมพิตไปที่หน้าผากของหยุนถิง
ความอ่อนโยนนั้นหาที่เปรียบมิได้
หยุนถิงตกตะลึงตัวแข็งทื่อ นางสัมผัสได้ถึงความอ่อนโยนของซื่อจื่อ และรู้สึกว่าตนประมาทยิ่งนัก
“ฮูหยิน เจ้างดงามเหลือเกิน” จวินหย่วนโยวผละร่างของตนออกมาแล้วเอ่ยชม
“น่าอาเจียนเสียจริง”
“เจ้ามิชอบงั้นหรือ?” จวินหย่วนโยวถามกลับ
“มิชอบ!”
“สตรีนั้นปากอย่างใจอย่าง หากกล่าวว่ามิชอบแท้จริงแล้วกลับแอบดีใจ”
หยุนถิงจองไปทางเขาด้วยความโมโห “ซื่อจื่อ ท่าทีของเจ้าเช่นนี้ มิน่าพอใจเป็นอย่างยิ่ง!”
“เพียงแค่สามารถรับใช้ฮูหยินให้มีความสุขได้ จะต่อว่าข้าเช่นไรข้าก็มิสนใจ พวกเรามาต่อกันเถอะ” จวินหย่วนโยวเผยอริมฝีปากขึ้น เขามิให้โอกาสหยุนถิงในการปฏิเสธเลย จากนั้นบรรจงจูบไปที่ริมฝีปากนางอีกครั้ง
หยุนถิงคิดจะปฏิเสธ เนื่องจากเมื่อคืนนี้ถูกเขาทรมานมาทั้งคืน ร่างกายรู้สึกปวดล้าไปหมด ทั้งเจ็บปวดทรมาน หากว่าบัดนี้จะทำมันอีกครั้ง นางเกรงว่าคงมิอาจลุกจากเตียงได้
หยุนถิงตั้งใจจะผลักจวินหย่วนโยวออกไป แต่ถูกมือใหญ่ของเขาบีบมือทั้งสองข้างของนางไว้ “ฮูหยินข้าชื่นชอบกลิ่นกายเจ้านัก”
ประโยคนี้ทำให้หยุนถิงหัวใจเต้นรัว เมื่อสบตากับดวงตาสีดำขลับของจวินหย่วนโยวคู่นั้น ก็รู้สึกได้ถึงความกระตือรือร้น มิอาจปิดบังความรักของเขาได้เลย
ดวงตาคู่นั้นที่มองมายังนางลึกซึ้งดุจดั่งทะเล ราวกับน้ำพุมหัศจรรย์ซึ่งดึงดูดหยุนถิงตกลงไปในนั้น
เมื่อเห็นแววตาของนางที่จ้องมาทางตน จวินหย่วนโยวจึงมิลังเลอีกต่อไป เขาใช้โอกาสที่มีอำนาจเหนือและแข็งแรงกว่า ทำให้นางยากจะปฏิเสธ
ภายในห้องอันใหญ่โตแห่งนี้จึงได้มีเสียงของหญิงสาวร้องโหยหวนด้วยความเหน็ดเหนื่อยอยู่เนิ่นนานทีเดียว
หลิงเฟิงที่อยู่ด้านนอกประตูอดมิได้ที่จะชื่นชม “ซื่อจื่อกำลังวังชามากมายเหลือเกิน เมื่อคืนนี้เหน็ดเหนื่อยมาทั้งคืนแล้ว มิรู้สึกหิวบ้างหรือไร?”
เดิมทีพ่อบ้านตั้งใจจะมาถามหลิงเฟิงว่าซื่อจื่อและฮูหยินตื่นแล้วหรือไม่ จะรับอะไรกินหรือเปล่า แต่กลับถูกหลิงเฟิงไล่กลับไป เมื่อได้ยินเสียงร้องดังมาจากด้านใน พ่อบ้านก็อดมิได้ที่จะบ่นออกมา
“ซื่อจื่อมีกำลังวังชาดุจสัตว์ร้ายหรือไร เหตุใดจึงจับฮูหยินมาทรมานอีกแล้ว ฮูหยินร่างกายบอบบางเพียงนั้น จะรับไหวได้อย่างไร มิพักผ่อนสักหน่อยแล้วค่อยต่อ”
หลิงเฟิงเลิกคิ้วมองไปทางเขา มุมปากกระตุกเล็กน้อย “พ่อบ้านเสียสติไปแล้วหรือไร กล้าด่าซื่อจื่อว่าเป็นสัตว์ ใจกล้ามิเบา!”
พ่อบ้านตกใจและรีบอธิบายทันที “ข้าเพียงแค่เปรียบเทียบเท่านั้น ซื่อจื่อของเราจะเป็นสัตว์ได้อย่างไร สัตว์เหล่านั้นมิอาจเปรียบเทียบได้หรอก เฮ้อ ข้าเพียงแค่ต้องการบ่งบอกว่าซื่อจื่อมีกำลังวังชาแข็งแกร่ง เจ้าอย่าได้เข้าใจความหมายข้าผิดไป”
“ข้าเข้าใจแล้ว ท่านอายุปูนนี้ยังมัวแต่ยุ่งเรื่องชาวบ้านอยู่ได้!”
จวินหย่วนโยวกล่าวพลางวางจานลงแล้วอุ้มนางขึ้นนั่ง
หยุนถิงไร้เรี่ยวแรงจริงๆ แต่ท้องของนางก็ร้องด้วยความหิวโหย นางจึงปล่อยให้จวินหย่วนโยวอุ้มตนขึ้นมาแล้วนั่งลงบนผ้าห่ม
จวินหย่วนโยวหยิบจานอาหารขึ้นมาแล้วคีบยื่นไปที่ปากของหยุนถิง
หยุนถิงก็มิได้เกรงใจ นางอ้าปากกินเข้าไปคำโต
เนื่องจากกินเร็วเกินไป มุมปากของหยุนถิงจึงมีรอยน้ำแกงไหลออกมาเล็กน้อย รอยยิ้มที่ปรากฏบนใบหน้าของจวินหย่วนโยวลึกซึ้งขึ้นกว่าเดิม เขาชะโงกหน้าโน้มตัวลงมาจูบไปที่ริมฝีปากของหยุนถิง
“อุ๊ย ซื่อจื่อ ข้ามิเอาแล้วจริงๆ ข้ามิ......” หยุนถิงพูดขึ้นด้วยความอ้อนวอน นางยังมิทันกล่าวจบจวินหย่วนโยวก็ได้ผละออกไป
“เจ้าคิดมากไปแล้ว ข้าเพียงแค่ช่วยเจ้าเช็ดมุมปาก”
หยุนถิงกระตุกริมฝีปากเล็กน้อย “มีใครกันที่เช็ดปากด้วยวิธีนี้?”
“มิว่าเรื่องใดก็ตามล้วนต้องมีครั้งแรก เมื่อครู่พวกเราได้ลองทำดูแล้ว” จวินหย่วนโยวยิ้มขึ้นแล้วป้อนอาหารนางต่อไป
“จิ้งจอกเจ้าเล่ห์!” หยุนถิงพึมพำแล้วก้มหน้ากินต่อ ครั้งนี้นางให้ความสำคัญโดยมิกินมูมมามดังก่อนหน้า
อาหารมื้อนี้จวินหย่วนโยวทำการป้อนหยุนถิงอย่างอ่อนโยนและเอาใจใส่ เมื่อเห็นว่านางกินอิ่มแล้วจึงได้นำชามกับตะเกียบออกไป ก่อนจะสั่งให้คนนำน้ำร้อนเข้ามา เขาช่วยเปลื้องผ้าอาบน้ำให้แก่หยุนถิงด้วยตนเอง
ความใส่ใจมิต้องกล่าวถึงว่ามากมายเพียงใด แต่หยุนถิงก็มิได้ถูกเขาหลอกด้วยท่าทางเหล่านี้ เพราะตัวการหลักที่ทำให้นางหมดเรี่ยวหมดแรงเช่นนี้ก็คือตัวเขามิใช่หรือ!
หลังจากดูแลรับใช้หยุนถิงแล้ว จวินหย่วนโยวจึงได้มานั่งกินอาหารที่โต๊ะตามลำพัง
หยุนถิงมองไปทางจวินหย่วนโยวซึ่งสวมเสื้อคลุมสีขาวประกอบกับใบหน้าอันหล่อเหลาอย่างไร้คำบรรยาย ยามเขากินอาหารก็ช่างสง่าผ่าเผยเหลือเกิน นางอดมิได้ที่จะรู้สึกว่าสามีของตนช่างงามยิ่งนัก มิว่าทำอะไรก็ดูดีไปเสียทุกอย่าง
ทันทีที่จวินหย่วนโยวเงยหน้าขึ้นก็พบสายตาของหยุนถิงที่มองมาทางตนแล้วเอ่ยถามว่า “ฮูหยินยังต้องการอีกงั้นหรือ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ
อัพต่อด้วยจ้า...
รอตอนต่อจ้า...
แต่ละบทที่่อ่านแล้ว ควรมีสีหรือเครื่องหมายที่แตกต่างกัน ผู้อ่านจะได้ทราบว่าเรืื่องนี้อ่านไปถึงบทไหนแล้ว...
รำคานโฆษณาที่เลื่อนเข้ามา เข้าใจได้ว่าต้องหารายได้ แต่ควรนำไปวางไว้ด้านล่างสุด ไม่ด้านซ้ายก็ด้านขวา จะได้ไม่เสียอารมณ์ในการอ่าน ปกติโฆษณาที่อยู่ระหว่างหน้าก็ใหญ่และมากอยู่แล้ว...
ขอร้องทงทีมงานช่วยอัพเดทจนจบด้วยนะคะ😭😭😭😭😭...
เรื่องนี้ทางทีมงานจะอัพเดทต่อมั้ยค่ะ😭...
รอตอนใหม่อยู่นะคะ😭🙏🏻...
เมื่อไหร่จะอัพเพิ่มค่ะหายไปเป็นเดือนแล้วนะ...
รอค่ะ ตามเรื่องนี้มานานมาก อัพตอนต่อจาก 1070 ให้หน่อยค่ะ...
สนุกมากค่ะ รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะรบกวนลงต่อให้จบด้วยค่ะ กำลังสนุก...