โชคดีที่มีหยุนถิงอยู่ มิเช่นนั้นพี่สาวก็จบเห่แล้วจริงๆ ในนาทีนี้โม่เหลิ่งเหยียนเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อหยุนถิงใหม่แล้วจริงๆ
เขาเดินไปด้านข้างของเตียง หยิบผ้านวมไหมบางผืนหนึ่งขึ้นมา ห่มให้กับหยุนถิง
จู่ๆทารกก็ร้องไห้ขึ้นมา โม่เหลิ่งเหยียนขมวดคิ้ว รีบร้อนเดินเข้ามา “เกิดอะไรขึ้น?”
“ท่านอ๋อง บางทีเด็กอาจจะหิวแล้ว ต้องหาแม่นมมาให้นม” หมอหลวงโจวกล่าวตอบ
โม่เหลิ่งเหยียนให้แม่นมที่อยู่ด้านนอกประตูเข้ามาทันที และก็ซูมามาที่เขาจัดเตรียมเอาไว้ก่อนหน้านี้ด้วย “สิ่งที่พี่สาวต้องระวังตอนอยู่ไฟหลังคลอด สั่งการลงไปทันที จะต้องปรนนิบัติรับใช้อย่างระมัดระวัง”
“เจ้าค่ะ ท่านอ๋อง” ซูมามาคือคนเก่าคนแก่ในพระราชวัง มีประสบการณ์การปรนนิบัติรับใช้ทางด้านการอยู่ไฟหลังคลอดเป็นอย่างดี
ซูมามาสั่งให้แม่นมป้อนนมให้เด็กทันที จากนั้นก็ให้คนนำผ้าห่มเปื้อนเลือดที่อยู่บนพื้นออกไปซักล้าง แล้วก็นำผืนใหม่ที่เตรียมเอาไว้ก่อนหน้านี้เข้ามา นำฉากบังลมขวางเอาไว้หน้าประตู แล้วก็แขวนม่านประตูผ้าฝ้าย กลัวว่าฮูหยินจะโดนลม
มองดูบรรดาสาวใช้แต่ละคนออกมาแล้วก็เข้าไปอีก โหวฉิงรู้สึกประหม่ามาก แต่ไม่กล้าบุกเข้าไป ซวนอ๋องมีชื่อเสียงเรื่องไม่เห็นแก่หน้าใครทั้งนั้น เขาไม่เห็นพี่เขยคนนี้อยู่ในสายตาเลย
“ท่านอ๋อง จวินซื่อจื่อนำกำลังคนบุกเข้ามาแล้ว!” บ่าวรับใช้เข้ามารายงานทันที
โหวฉิงยังไม่ทันได้ตอบสนองกลับมา ก็เห็นจวินหย่วนโยวพาคนกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาอย่างเอิกเกริก “คำนับซื่อจื่อ ไม่ทราบว่าซื่อจื่อมาด้วยเรื่องอันใด?”
“โม่เหลิ่งเหยียนอยู่ไหน ฮูหยินของข้าอยู่ไหน?” จวินหย่วนโยวสอบถามด้วยเสียงเย็นชา มองไปทางเรือนที่อยู่ไม่ไกลออกไปมีคนเข้าออก ก็จะวิ่งเข้าไป
โหวฉิงรีบขวางเขาเอาไว้ “ซื่อจื่อโปรดรอสักครู่ เหลิ่งเหยียนมาที่นี่จริงๆ เขาพาคุณหนูหยุนเข้าไปรักษาฮูหยินของข้าด้านใน ฮูหยินนางมีภาวะตกเลือดคลอดยาก เกือบจะ-----โชคดีที่คุณหนูหยุนมาทันเวลา แต่คุณหนูหยุนบอกว่าห้ามให้ใครเข้าไป ฮูหยินยังอยู่ในระหว่างผ่าตัด ซื่อจื่อได้โปรดรอสักครู่”
จวินหย่วนโยวได้ยินว่าหยุนถิงอยู่ข้างใน ถึงได้แอบโล่งใจไปเปลาะหนึ่ง
โชคดีที่โม่เหลิ่งเหยียนไม่ได้ทำอะไรกับหยุนถิง มิเช่นนั้นจวินหย่วนโยวจะต้องพลิกจวนซวนอ๋องของเขาให้ได้
“หากซื่อจื่อไม่รังเกียจ เชิญไปที่ห้องโถงด้านหน้าเถอะ ที่จวนมีชาหลงจิ่งเข้ามาใหม่พอดี?” โหวฉิงสอบถามอย่างเคารพนบนอบ
โม่เหลิ่งเหยียนคนหนึ่งก็ทำให้เขาปวดหัวมากแล้ว ตอนนี้ก็มีจวินซื่อจื่อโผล่ออกมาอีกคน จู่ๆโหวฉิงก็รู้สึกกดดันอย่างมาก ปรนนิบัติอย่างระมัดระวัง สองคนนี้ไม่ว่าใครเขาก็ไม่สามารถล่วงเกินได้ทั้งนั้น
“ไม่ต้อง ข้าจะรออยู่ที่นี่นี่แหละ คนมา เฝ้าเรือนนี้ให้ดี ใครก็ห้ามเข้าไปรบกวน!” จวินหย่วนโยวสั่งการอย่างแสดงอำนาจ
หลิงเฟิงกับรั่วจิ่งวิ่งเข้าไปทันที ยืนอยู่หน้าประตู
เหลิ่งเหยียนก็ไม่ให้เขาเข้าไปแล้ว ตอนนี้จวินซื่อจื่อกับองครักษ์ก็มาเฝ้าอยู่หน้าประตูอีก จู่ๆโหวฉิงก็รู้สึกว่าทำไมตัวเองถึงได้ยากเย็นขนาดนี้
โหวฉิงไม่กล้าพูดอะไรมาก สั่งให้บ่าวรับใช้ไปยกเก้าอี้มา
โม่เหลิ่งเหยียนที่อยู่ในเรือนย่อมได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวด้านนอกอยู่แล้ว คิดไม่ถึงว่าจวินหย่วนโยวจะไล่ตามมาเร็วขนาดนี้ พี่เขยผู้โง่เขลายังถือว่าจัดการเรื่องนี้ได้ดีไม่ให้เขาเข้ามา
การผ่าตัดของหยุนถิงจบลงแล้วแท้ๆ แต่โม่เหลิ่งเหยียนมองดูหยุนถิงที่หลับสนิท ใบหน้าเล็กที่เหนื่อยล้า บอกไม่ถูกว่าเพราะอะไร เขาถึงมีความคิดที่ไม่อยากให้หยุนถิงออกไปพบจวินหย่วนโยวเล็กน้อย
ดังนั้น โม่เหลิ่งเหยียนไม่ได้พูดอะไรเลย
จนกระทั่งตอนกลางคืนหยุนถิงถึงได้ตื่นขึ้นมา ระหว่างนั้นเด็กก็ร้องไห้ไปหลายครั้ง ถึงแม้นางจะได้ยิน แต่เปลือกตาก็หนักเกินไป จึงไม่ได้ตื่นขึ้นมา
จวินหย่วนโยวที่อยู่ด้านนอกลานได้ยินร้องไห้ของเด็ก ก็รู้สึกโล่งใจทันที เขายังนึกว่าเด็กเพิ่งเกิด เห็นว่าหยุนถิงไม่ได้ออกมา ก็ไม่ได้เร่งเร้าและไม่ไปรบกวน
ดังนั้นเมื่อจวินหย่วนโยวรออย่างนี้ ก็รอจนกระทั่งฟ้ามืด
หยุนถิงที่อยู่ในเรือนบิดขี้เกียจ ลุกขึ้นเดินเข้ามา “ฮูหยินเป็นอย่างไรบ้าง?”
“มาแล้วทำไมไม่เรียกข้า ทำการผ่าตัดให้ฮูหยินเหนื่อยเกินไป ข้าเลยงีบหลับไปครู่หนึ่ง โชคดีที่แม่ลูกปลอดภัย” หยุนถิงกล่าวอย่างเขินอาย
“ขอเพียงเจ้าสบายดีก็พอแล้ว” น้ำเสียงของจวินหย่วนโยวอ่อนโยนอย่างยิ่ง
แต่แววตาที่เขามองไปทางโม่เหลิ่งเหยียน กลับดุดันเย็นชาอย่างยิ่ง ชั่วร้ายอันตราย เต็มไปด้วยการเตือน “ต่อไปหากซวนอ๋องจะหาฮูหยินของข้าอีก ต้องได้รับความยินยอมของข้าก่อน มิเช่นนั้นเจ้าอย่าคิดจะพานางไปอีก”
น้ำเสียงเย็นชา หนักแน่น ไม่อนุญาตให้มีข้อกังขา
“ครั้งนี้เหตุการณ์เกิดขึ้นกะทันหัน เกี่ยวพันถึงชีวิต ดังนั้นข้าก็เลยไม่ทันได้บอกเจ้า เจ้าก็หามาเองแล้วไม่ใช่หรือ” โม่เหลิ่งเหยียนตอบกลับมาอย่างราบเรียบ
“ใช่แล้วซื่อจื่อ ฮูหยินมีภาวะตกเลือดคลอดยาก เด็กก็สายสะดือพันคออีก ดังนั้นซวนอ๋องถึงไม่ทันได้บอกท่าน” หยุนถิงรีบกล่าวอธิบาย
“ห้ามมีครั้งหน้าอีก” สีหน้าของจวินหย่วนโยวเย็นยะเยือกสุดขีด
หากไม่ใช่เพราะรู้ว่าโม่เหลิ่งเหยียนพาหยุนถิงมารักษาคนของจวนแม่ทัพ เขาจะอดทนรอจนถึงตอนนี้ได้อย่างไร เกรงว่าคงจะทำลายล้างทั่วทั้งจวนแม่ทัพภักดีไปนานแล้ว
โหวฉิงคุกเข่าลงไปบนพื้นทันที “ขอบคุณคุณหนูหยุนมากที่ช่วยชีวิตลูกชายและฮูหยินของข้า ข้าไม่รู้ว่าควรจะตอบแทนอย่างไร โปรดรับการคำนับของข้าด้วย”
หยุนถิงชะงักงันรีบยื่นมือไปประคองเขาขึ้นมาทันที “ท่านแม่ทัพเกรงใจไปแล้ว ซวนอ๋องขอให้ข้าช่วย ข้าย่อมต้องทำอย่างสุดความสามารถอยู่แล้ว”
“เหลิ่งเหยียนขอบคุณเจ้ามาก ครั้งนี้โชคดีที่เจ้าพาคุณหนูหยุนมา เช่นนั้นตอนนี้ข้าสามารถเข้าไปดูฮูหยินกับลูกหรือยัง?” โหวฉิงกล่าวถามเสียงเบา
“ย่อมได้อยู่แล้ว ท่านแม่ทัพต้องเบามือให้มาก อย่าทำให้เด็กตกใจ” หยุนถิงกำชับ
โหวฉิงตื่นเต้นอย่างมาก “ข้าระมัดระวังแน่นอน ขอบคุณมาก” กล่าวจบ ก็ตรงเข้าไปในเรือน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ
อัพต่อด้วยจ้า...
รอตอนต่อจ้า...
แต่ละบทที่่อ่านแล้ว ควรมีสีหรือเครื่องหมายที่แตกต่างกัน ผู้อ่านจะได้ทราบว่าเรืื่องนี้อ่านไปถึงบทไหนแล้ว...
รำคานโฆษณาที่เลื่อนเข้ามา เข้าใจได้ว่าต้องหารายได้ แต่ควรนำไปวางไว้ด้านล่างสุด ไม่ด้านซ้ายก็ด้านขวา จะได้ไม่เสียอารมณ์ในการอ่าน ปกติโฆษณาที่อยู่ระหว่างหน้าก็ใหญ่และมากอยู่แล้ว...
ขอร้องทงทีมงานช่วยอัพเดทจนจบด้วยนะคะ😭😭😭😭😭...
เรื่องนี้ทางทีมงานจะอัพเดทต่อมั้ยค่ะ😭...
รอตอนใหม่อยู่นะคะ😭🙏🏻...
เมื่อไหร่จะอัพเพิ่มค่ะหายไปเป็นเดือนแล้วนะ...
รอค่ะ ตามเรื่องนี้มานานมาก อัพตอนต่อจาก 1070 ให้หน่อยค่ะ...
สนุกมากค่ะ รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะรบกวนลงต่อให้จบด้วยค่ะ กำลังสนุก...