ตั้งแต่คืนที่แต่งงานกับนาง โม่ฉือหานก็ไม่สามารถทำได้แล้ว เขาถึงขั้นสงสัยว่าหยุนถิงแอบทำอะไรกับเขา แต่ก็ไม่พบหลักฐานใดๆ
เดิมทีนึกว่ายาที่ฟ่านเสี่ยรั่วนำกลับมาจะสามารถทำให้เขากลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ ใครจะรู้ว่าแค่บ้าระห่ำไปเพียงไม่กี่คืน ก็กลับคืนสู่สภาพเดิมแล้ว ดังนั้นโม่ฉือหานถึงได้หน้าด้านมาหาหยุนถิง
“คำพูดของหลีอ๋องข้าฟังไม่เข้าใจ เหตุใดข้าถึงรู้แล้วยังแกล้งถามได้?” หยุนถิงถามกลับ
“หยุนถิงเจ้าอย่าไม่แยกแยะดีชั่ว เจ้าบอกมาเลยว่าจะยอมขายในราคาเท่าไหร่ เจ้าเสนอราคามาเถอะ?” โม่ฉือหานหมดความอดทนแล้ว
จวินหย่วนโยวแกะปูให้หยุนถิง วางเนื้อปูเอาไว้ในจานของนาง ท่าทางสง่างามไร้ที่เปรียบ น้ำเสียงกลับเย็นชาอย่างยิ่ง “ในเมื่อหลีอ๋องมาเพื่อขอร้องฮูหยินของข้า การขอร้องคนก็ควรมีท่าทีของการขอความช่วยเหลือ มิเช่นนั้นก็อย่ามารบกวนการรับประทานอาหารของข้ากับฮูหยินที่นี่”
“จวินหย่วนโยว เจ้าอย่าให้มันเกินไปนะ?” โม่ฉือหานคำรามด้วยความโกรธ
“หลิงเฟิง เชิญหลีอ๋องออกไป ต่อไปห้ามให้มีผู้ใดมารบกวนตอนฮูหยินกำลังรับประทานอาหาร จะได้ไม่ส่งผลกระทบต่อความอยากอาหารของฮูหยิน!” จวินหย่วนโยวออกคำสั่งอย่างแสดงอำนาจ
“ขอรับ” หลิงเฟิงเดินเข้ามาทันที “หลีอ๋องเชิญเถอะ”
“ให้ตายเถอะ!” โม่ฉือหานโกรธจนใกล้จะระเบิดอยู่แล้ว แต่เขากลับต้องยอมก้มหัว อย่างไรเสียทั่วทั้งสี่แคว้นนอกจากหยุนถิงที่รักษาคุณชายใหญ่ตระกูลโจวจนหายแล้ว เขายังไม่เคยได้ยินว่ามีใครสามารถรักษาอาการไม่สามารถแข็งตัวได้มาก่อน
“หยุนถิง ต้องทำอย่างไรเจ้าถึงจะยอมขายให้ข้ากันแน่ เงื่อนไขเจ้าเสนอได้ตามใจชอบ?” ครั้งนี้ น้ำเสียงของโม่ฉือหานอ่อนลงไปเล็กน้อยแล้ว
หยุนถิงมองดูเขาโมโห โกรธเกรี้ยว แต่กลับได้แต่อดทนเอาไว้ ท่าทางที่หดหู่และคับข้องใจ ก็หัวเราะลั่นออกมา “คิดไม่ถึงเลยว่า คนที่อยู่เหนือมวลชนอย่างหลีอ๋องวันหนึ่งก็ต้องมาขอร้องข้า ความรู้สึกแบบนี้ดีมากจริงๆ ไม่เลว ไม่เลวจริงๆ”
“เจ้าอย่าได้คืบจะเอาศอก” โม่ฉือหานกล่าวอย่างขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน
หากไม่ใช่เพราะมีเหตุต้องขอร้องหยุนถิง เขาจะต้องจับสองผัวเมียนี่แยกชิ้นส่วน ห้าอาชาแยกร่างให้ได้
“ไม่ขาย ไม่ว่าหลีอ๋องจะเสนอเงื่อนไขใดให้ ข้าก็ไม่ขายทั้งนั้น!” หยุนถิงกล่าวอย่างเย็นชา
คำพูดประโยคเดียว ทำให้โม่ฉือหานโกรธจนแทบจะกระอักเลือดออกมา
“หยุนถิงเจ้าอย่าไม่แยกแยะดีชั่ว!” โม่ฉือหานกล่าวด้วยความโกรธแค้น
“ข้าจะไม่แยกแยะดีชั่วนี่แหละ หลีอ๋องจะทำอะไรข้าได้!” หยุนถิงมองมาอย่างดูหมิ่นเหยียดหยาม
น้ำเสียงหยิ่งทะนง เย็นชา สายตาเหินห่าง ดูหมิ่นเหยียดหยาม ราวกับกำลังมองดูตัวตลกที่กำลังดิ้นรนจนเฮือกสุดท้าย สายตาเช่นนี้ทำให้ความโกรธของโม่ฉือหานพุ่งขึ้นมาสุดขีด
“เจ้ารนหาที่ตาย!” ฝ่ามือของเขาจู่โจมมาทางหยุนถิง
จวินหย่วนโยวสะบัดแขนเสื้อกะทันหัน ทลายฝ่ามือนั่นอย่างง่ายดาย ลมฝ่ามือฝาดไปทางต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ด้านข้าง ชั่วพริบตาต้นไม้ใหญ่ที่หนาพอๆกับแขนของคนต้นนั้นก็ถูกผ่าออกเป็นสองท่อน
จากนั้นฝ่ามือของจวินหย่วนโยวฟาดไปทางโม่ฉือหานอย่างแรง โม่ฉือหานยังไม่ได้ตอบสนองจากความตกตะลึงเมื่อครู่นี้ รู้สึกถึงลมฝ่ามือเย็นยะเยือกที่จู่โจมมาด้านหน้า รีบร้อนหลบออกไป แต่เขาก็ยังช้าไปก้าวหนึ่ง คนทั้งคนถูกฟาดไปที่ไหล่ โม่ฉือหานเจ็บจนสีหน้าซีดขาว
ความเจ็บปวด โมโห โกรธแค้น สุดท้ายกลายเป็นความตกตะลึง โม่ฉือหานเบิกตากว้างเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ “จวินหย่วนโยวเจ้ามีกำลังภายในเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?”
“ข้ามีทักษะการต่อสู้เมื่อไหร่ ยังต้องบอกเจ้าอีกหรือ?” จวินหย่วนโยวถามกลับอย่างเย็นชา
นาทีนี้คนทั้งคนของโม่ฉือหานรู้สึกแย่ไปหมด จวินหย่วนโยวในอดีตอย่าว่าแต่กำลังภายในเลย แค่เดินไกลหน่อยยังหายใจหอบเลย ตอนนี้เขาถึงกับสามารถทะลายลมฝ่ามือของตัวเองได้ แถมยังฟาดมาทางตัวเองอีกหนึ่งฝ่ามือ
เขายังเก็บซ่อนความสามารถอีกเท่าไหร่กันแน่ หรือว่าหยุนถิงช่วยเขาปรับสมดุลร่างกายอยู่ตลอด?
นอกเหนือจากความเป็นไปได้นี้ โม่ฉือหานคิดไม่ถึงความเป็นไปได้แบบที่สองแล้ว ดูเหมือนว่าตั้งแต่หยุนถิงแต่งงานกับจวินหย่วนโยวแล้ว เจ้าหมอนี่ดีขึ้นมาอย่างน่าเหลือเชื่อ สุขภาพก็แข็งแรงขึ้นทุกวัน
นึกถึงตรงนี้ สีหน้าของโม่ฉือหานราวกับกิ้งก่าเปลี่ยนสี ดูตลกไร้ที่เปรียบ
แค่องครักษ์เงามังกรเขาก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้แล้ว ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้จวินหย่วนโยวเก่งกาจเช่นนี้ เวลานี้แผนการของหลีอ๋องพบกับอุปสรรคอย่างมาก ไม่มีเวลามาสนใจความโกรธและแก้แค้น เขาสั่งให้เหลยถิงประคองเขาจากไปทันที
“ไม่ใช่ ข้าก็แค่ผ่านมาเฉยๆ” จวินหย่วนโยวกล่าวพร้อมเดินเข้ามา นั่งลงไปตรงหน้าของโม่เหลิ่งเหยียน “ไม่ประมาณตนเอง”
“ข้าพอใจเสียอย่าง” จวินหย่วนโยวตอกกลับไปด้วยสีหน้าเย็นยะเยือก
“พอใจรนหาที่ตายข้าย่อมไม่ขวางเจ้าอยู่แล้ว แต่ว่าหากเจ้าตายไปแล้ว คงจะมีคนคิดถึงหยุนถิงอยู่ไม่น้อย” โม่เหลิ่งเหยียนกล่าว
“ข้าไม่มีทางยอมให้โอกาสนี้กับพวกเขาเด็ดขาด แค่กๆ------” จวินหย่วนโยวโกรธจนไอขึ้นมาอย่างรุนแรง
หยุนถิงช่วยเขาตบหลังทันที “ซื่อจื่อท่านอย่าโกรธไปเลย ซวนอ๋องเป็นห่วงท่าน เลยพูดประชดประชัน”
“ข้าไม่ต้องการความห่วงใยของเขา!”
“ข้าก็ไม่ได้อยากจะเป็นห่วงเจ้าหรอก!”
หยุนถิงหมดคำพูด เจ้าสองคนนี้เห็นหน้าก็ทะเลาะกัน แต่ช่วงเวลาวิกฤติกลับแข็งแกร่งกว่าศัตรูพวกนั้นมากมายนัก อย่างน้อยก็ไม่คอยซ้ำเติม นี่อาจจะเป็นสิ่งที่เรียกว่าคนที่มีสติปัญญาเหมือนกันเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกันกระมัง
จวินหย่วนโยวโกรธจนกระอักออกมาอีกหนึ่งคำ หยุนถิงขมวดคิ้ว ช่วยเขาจับชีพจรทันที นานพักใหญ่ถึงได้โล่งใจไปเปลาะหนึ่ง
“ซื่อจื่อกระอักเลือดคั่งคำนี้ออกมา ลมหายใจสงบนิ่ง ชีพจรก็คงที่กว่าแต่ก่อนแล้ว เลือดที่อุดตันอยู่ที่ตำแหน่งหน้าอกตลอด ตอนนี้กระอักออกมาดีขึ้นมากแล้ว” หยุนถิงกล่าวด้วยความปิติยินดี
จวินหย่วนโยวก็รู้สึกว่าหน้าอกไม่ได้อึดอัดขนาดนั้น สามารถหายใจได้อย่างสบายแล้ว
โม่เหลิ่งเหยียนกระตุกมุมปาก “หมายความว่า เจ้าต้องขอบคุณข้าสินะ”
“ไสหัวไปข้างหนึ่งเลยไป ใครอยากจะขอบคุณเจ้ากัน” จวินหย่วนโยวกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ
อัพต่อด้วยจ้า...
รอตอนต่อจ้า...
แต่ละบทที่่อ่านแล้ว ควรมีสีหรือเครื่องหมายที่แตกต่างกัน ผู้อ่านจะได้ทราบว่าเรืื่องนี้อ่านไปถึงบทไหนแล้ว...
รำคานโฆษณาที่เลื่อนเข้ามา เข้าใจได้ว่าต้องหารายได้ แต่ควรนำไปวางไว้ด้านล่างสุด ไม่ด้านซ้ายก็ด้านขวา จะได้ไม่เสียอารมณ์ในการอ่าน ปกติโฆษณาที่อยู่ระหว่างหน้าก็ใหญ่และมากอยู่แล้ว...
ขอร้องทงทีมงานช่วยอัพเดทจนจบด้วยนะคะ😭😭😭😭😭...
เรื่องนี้ทางทีมงานจะอัพเดทต่อมั้ยค่ะ😭...
รอตอนใหม่อยู่นะคะ😭🙏🏻...
เมื่อไหร่จะอัพเพิ่มค่ะหายไปเป็นเดือนแล้วนะ...
รอค่ะ ตามเรื่องนี้มานานมาก อัพตอนต่อจาก 1070 ให้หน่อยค่ะ...
สนุกมากค่ะ รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะรบกวนลงต่อให้จบด้วยค่ะ กำลังสนุก...