โม่เหลิ่งเหยียนกับหมิงจิ่วซางกลับไปดื่มชาอีกครั้ง พ่อบ้านสั่งให้คนไปยกน้ำชามาให้ใหม่ จากนั้นก็ให้ห้องครัวเตรียมอาหารเอาไว้เต็มโต๊ะ ดูจากท่าทางแล้วซื่อจื่อกับฮูหยินไม่ตื่น ซวนอ๋องคงจะไม่จากไปแล้ว
แต่ว่าพ่อบ้านก็คิดไม่ถึงว่า ซวนอ๋องจะให้ความช่วยเหลือ ถึงแม้จะรู้ว่าเขาทำเพื่อฮูหยิน แต่พ่อบ้านก็ยังรู้สึกซาบซึ้งอยู่ดี
“วันนี้ เจ้าติดค้างน้ำใจข้าอย่างหนึ่ง” หมิงจิ่วซางกล่าวอย่างได้ใจ
“เจ้าต้องการอะไร?” โม่เหลิ่งเหยียนถาม
“ถ้าหากเป็นไปได้ ก็ให้หยุนถิงทำอาหารให้ข้ากินสักมื้อแล้วกัน อาหารว่างพวกนี้ของจวนซื่อจื่อยังอร่อยขนาดนี้ อาหารก็ต้องยิ่งอร่อยอย่างแน่นอน” หมิงจิ่วซางจงใจกล่าวออกมา
“เป็นไปไม่ได้” โม่เหลิ่งเหยียนปฏิเสธ
“เพราะอะไร?”
“ข้ายังไม่เคยกินอาหารฝีมือของหยุนถิงเลย เจ้ายิ่งไม่ต้องคิดเลย”
หมิงจิ่วซางเลิกคิ้ว: “ไม่ใช่มั้ง ตอนเทศกาลดอกท้อเจ้ากินหม้อไฟพร้อมกับหยุนถิงไม่ใช่หรือ?”
“นั่นคือทุกคนทำด้วยกัน” โม่เหลิ่งเหยียนแก้ไขให้ถูกต้อง
“เจ้าหมอนี่------” หมิงจิ่วซางกำลังจะพูดอะไรต่ออีก จู่ๆก็ได้ยินเสียงต่อสู้กันดังมาจากด้านนอกจวนซื่อจื่อ สีหน้าของหมิงจิ่วซางเคร่งขรึมขึ้นมาทันที
“อดกลั้นกันไม่ไหวแล้วหรือ” มุมปากของโม่เหลิ่งเหยียนเกี่ยวเป็นรอยยิ้มเย้ยหยันเล็กน้อย
“ดูท่าวันนี้คงจะครึกครื้นแล้ว” หมิงจิ่วซางกล่าว
“ชมการแสดงก็พอ”
ในที่ลับของจวนซื่อจื่อ องครักษ์เงามังกรเห็นคนที่จู่ๆก็ปรากฏขึ้นมากะทันหันพวกนั้น เดิมทีคิดจะไปรับมือ แต่คิดไม่ถึงว่ายังมีคนชุดดำอีกกลุ่มหนึ่งขวางพวกเขาเอาไว้ และต่อสู้ร่วมกับพวกเขา
นึกถึงว่าตอนนี้ซวนอ๋องอยู่ที่จวนซื่อจื่อ ดูท่าคนพวกนี้คือคนของซวนอ๋อง องครักษ์เงามังกรทั้งหมดปกป้องลานเอาไว้เป็นอย่างดี สิ่งที่พวกเขาต้องทำก็คือปกป้องความปลอดภัยของซื่อจื่อและฮูหยิน
ในคืนนี้ เสียงต่อสู้ด้านนอกจวนซื่อจื่อดังอย่างต่อเนื่อง แสงดาบเงากระบี่พร่างพราย เลือดหลั่งเป็นแม่น้ำ ศพกลาดเกลื่อนไปทั่ว
ตอนใกล้จะรุ่งสางขฌ องครักษ์ของจวนซื่อจื่อออกไปทันที เอาผงสลายกระดูกที่ฮูหยินให้พวกเขาจัดการกับศพพวกนั้น หลังจากที่ฟ้าสางแล้ว ด้านนอกจวนซื่อจื่อที่กว้างใหญ่ก็ถูกจัดการทำความสะอาดเรียบร้อยนานแล้ว
เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น หยุนถิงก็ตื่นขึ้นมา หลังจากที่ตรวจให้กับจวินหย่วนโยว และแน่ใจว่าเขาไม่ได้เป็นอะไรแล้ว ถึงได้วางใจลงมา จากนั้นก็ตรวจดูบาดแผลและร่างกายให้กับรั่วจิ่ง ป้อนสารอาหารเหลวให้กับรั่วจิ่งสองขวด หลังจากทำทุกอย่างนี้จบหยุนถิงถึงออกจากประตูไป
ในคืนนี้ถึงแม้นางจะนอนหลับอยู่ แต่กลับได้ยินเสียงต่อสู้อยู่ตลอด ดังนั้นหยุนถิงจึงนอนหลับไม่สนิทนัก ซื่อจื่อถูกวางแผนทำร้ายคิดว่าคงจะไม่สบายใจเท่าไหร่
ในนาทีที่หยุนถิงเปิดประตูออก เมื่อเห็นคนสองคนที่อยู่ด้านนอก ก็ตกตะลึงไปจริงๆ
ด้านนอกลาน โม่เหลิ่งเหยียนนั่งอยู่บนเก้าอี้หิน และคนที่อยู่ด้านข้างใช้ผ้าห่มห่อตัวเองเอาไว้โดยตรง ดูแล้วน่าขำอย่างมาก
“ซวนอ๋อง ทำไมท่านถึงอยู่ที่นี่?”ดท หยุนถิงถามด้วยความตกตะลึง
โม่เหลิ่งเหยียนเห็นนางออกมา หัวใจที่ตึงเครียดอยู่ถึงได้ผ่อนคลายลง: “มาดื่มชา”
“อ๋า?”
“เขากลัวว่าเจ้าจะมีอันตราย ดังนั้นจึงพาข้ามาคุ้มกันเอาไว้ ยังส่งคนไปดักซุ่มที่จวนซื่อจื่อ ตลอดคืนที่ผ่านมาขับไล่คนไปหลายกลุ่มแล้ว” หมิงจิ่วซางบ่นอุบ
นัยน์ตาสีดำที่ลึกล้ำของโม่เหลิ่งเหยียนมองมาทางเขาอย่างเย็นชาดุร้าย: “หุบปาก”
“ข้าก็แค่พูดไปตามความจริงเท่านั้น เพื่อตอบแทนบุญคุณเจ้าลากข้ามาอดหลับอดนอน จนถึงตอนนี้ข้ายังไม่ได้กินข้าวเลย” หมิงจิ่วซางกล่าวด้วยความน้อยใจ
“ตกลง ข้ารับปาก”
“ซวนอ๋องท่านใจป้ำมากจริงๆ ท่านวางใจ ข้ารับรองว่าท่านจะไม่เสียเปรียบแน่” หยุนถิงตบไปที่ไหล่ของโม่เหลิ่งเหยียนอย่างมีสัจจะ
“หยุนถิง เจ้ากำลังทำอะไรอยู่?” เสียงที่เย็นยะเยือกดังมา จวินหย่วนโยวเดินเข้ามาจากด้านนอกประตู
ทันทีที่หยุนถิงหันกลับไปก็มองเห็นเขา: “ซื่อจื่อท่านตื่นแล้ว ร่างกายดีขึ้นหรือยัง ข้าช่วยดูให้ท่าน” ขณะที่กล่าวไป ก็จับชีพจรให้กับจวินหย่วนโยวไปด้วย
มือใหญ่ของจวินหย่วนโยวคว้านางเข้ามากอด ประกาศความเป็นเจ้าของอย่างเผด็จการ
“ซื่อจื่อ ท่านเพิ่งตื่นอย่างเพิ่งโมโหไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งอย่าให้อารมณ์แปรปรวนมากเกินไป ครั้งนี้โชคดีที่ได้ซวนอ๋องกับพี่ชายท่านนี้ช่วยเอาไว้ เขาเป็นคนขวางมู่ฟง แล้วก็คนที่แอบลอบโจมตีจวนซื่อจื่อพวกนี้ด้วย” หยุนถิงอธิบาย
สีหน้าของจวินหย่วนโยวเย็นยะเยือกราวกับเกล็ดน้ำแข็ง แต่ก็กล่าวออกมาอย่างกระอักกระอ่วน: “เรื่องในวันนี้ ขอบคุณมาก”
“ไม่ต้องเกรงใจ ข้าก็แค่ไม่อยากให้เจ้าตายด้วยน้ำมือคนอื่นเท่านั้น” โม่เหลิ่งเหยียนกล่าวออกมาอย่างราบเรียบ
“ข้าโชคดีอยู่แล้ว เจ้ายังไม่ตายเลย ข้าย่อมไม่ตายอยู่แล้ว”
“พอเถอะซื่อจื่อ ท่านกับซวนอ๋องอย่าเจอหน้ากันก็ทะเลาะกันเลย ผ่านเหตุการณ์ในครั้งนี้ ข้ามีข้อเสนอแนะอย่างหนึ่ง ซื่อจื่อมีองครักษ์เงามังกร ซวนอ๋องมีหอดวงจันทร์ หากพวกท่านทั้งสองร่วมมือกันขึ้นมาญด นี่ก็คือสิ่งที่เรียกว่าพันธมิตรที่แข็งแกร่งร่วมมือกัน มันจะต้องแข็งแกร่งที่สุดในต้าเยียนหรือแม้กระทั่งในสี่แคว้นอย่างแน่นอน ถึงเวลานั้นแม้แต่สี่แคว้นก็จะต้องยำเกรงกำลังที่แข็งแกร่งของพวกท่านเช่นกัน”
“เป็นไปไม่ได้!” จวินหย่วนโยวและโม่เหลิ่งเหยียนเอ่ยปากพร้อมกัน
พวกเขาสองคนไม่ชอบหน้ากันมาตั้งแต่เด็ก แต่ก็กำจัดอีกฝ่ายไปไม่ได้ญท ต่างคนต่างก็มีกองกำลังและผู้ใต้บังคับบัญชาของตัวเอง จู่ๆจะให้คนสองฝ่ายที่ไม่มีทางเข้ากันได้ร่วมมือกัน เป็นเรื่องยากมากจริงๆ
“ผู้หญิงอย่างเจ้าช่างเพ้อฝันจริงๆ” แม้แต่หมิงจิ่วซางก็ยังอดแขวะไม่ได้ อย่าว่าแต่ซวนอ๋องเลย ถึงจะเป็นเขาก็ไม่เห็นด้วยหรอก
“เมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นข้าก็ก้าวล่วงแล้ว ถือเสียว่าข้าไม่เคยพูดมาก่อนแล้วกัน” หยุนถิงกล่าวขอโทษ เป็นเพราะนางพิจารณาไม่รอบคอบเอง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ
อัพต่อด้วยจ้า...
รอตอนต่อจ้า...
แต่ละบทที่่อ่านแล้ว ควรมีสีหรือเครื่องหมายที่แตกต่างกัน ผู้อ่านจะได้ทราบว่าเรืื่องนี้อ่านไปถึงบทไหนแล้ว...
รำคานโฆษณาที่เลื่อนเข้ามา เข้าใจได้ว่าต้องหารายได้ แต่ควรนำไปวางไว้ด้านล่างสุด ไม่ด้านซ้ายก็ด้านขวา จะได้ไม่เสียอารมณ์ในการอ่าน ปกติโฆษณาที่อยู่ระหว่างหน้าก็ใหญ่และมากอยู่แล้ว...
ขอร้องทงทีมงานช่วยอัพเดทจนจบด้วยนะคะ😭😭😭😭😭...
เรื่องนี้ทางทีมงานจะอัพเดทต่อมั้ยค่ะ😭...
รอตอนใหม่อยู่นะคะ😭🙏🏻...
เมื่อไหร่จะอัพเพิ่มค่ะหายไปเป็นเดือนแล้วนะ...
รอค่ะ ตามเรื่องนี้มานานมาก อัพตอนต่อจาก 1070 ให้หน่อยค่ะ...
สนุกมากค่ะ รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะรบกวนลงต่อให้จบด้วยค่ะ กำลังสนุก...