จอมนางข้ามพิภพ นิยาย บท 276

หยุนถิงมองดูมู่เซียวเซียวมองซื่อจื่อของตัวเองด้วยรอยยิ้มอ่อนช้อยงดงาม สีหน้าเคร่งขรึมลงทันที ยื่นมือไปรับถุงใบนั้นมา: “เมื่อเป็นเช่นนี้ เราก็ไม่เกรงใจแล้ว”

สีหน้าของมู่เซียวเซียวไม่พอใจเล็กน้อย หยุนถิงผู้นี้งดงามก็จริง แต่ไร้มารยาทเกินไปแล้ว นางต้องการจะมอบให้จวินซื่อจื่อแท้ๆ

“ฮูหยิน เราไปกันเถอะ” จวินหย่วนโยวฮึออกมาอย่างเย็นชา

“ตกลง” หยุนถิงจับมือของเขาและจากไป

มองดูแผ่นหลังของทั้งสองคน ดวงตาคู่สวยของมู่เซียวเซียวมีความผิดหวังและไม่เต็มใจแว๊บผ่านไปเล็กน้อย

นางอ่อนน้อมถ่อมตนขนาดนี้แล้ว แต่จวินหย่วนโยวกลับไม่มองตัวเองเลย บัดซบจริงๆ

ทางด้านนี้ หยุนถิงกับจวินหย่วนโยวขึ้นรถม้าและจากไป

ภายในรถม้า สีหน้าของหยุนถิงเคร่งขรึม สายตาจ้องมองดูจวินหย่วนโยวที่อยู่ตรงหน้าด้วยความไม่พอใจ: “ช่างเป็นตัวหายนะจริงๆ”

จวินหย่วนโยวทำหน้าไร้เดียงสา: “ฮูหยิน ข้าไปสร้างหายนะอะไรให้เจ้าอีก?”

“หุบปาก ต่อไปหากออกมาข้างนอกอีกให้สวมหน้ากากเอาไว้ ใบหน้านี้ช่างน่าชิงชังจริงๆ เอาแต่ดึงดูดเพศตรงข้าม”

มุมปากของจวินหย่วนโยวยกขึ้นเป็นมุมโค้งเล็กน้อย: “ที่แท้ฮูหยินก็กำลังหึงอยู่นี่เอง ข้าก็มีแค่ใบหน้านี้ที่สามารถดึงดูดเจ้าได้ ดึงดูดคนอื่นเข้าก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้นี่นา ในใจของข้ามีเพียงเจ้าคนเดียวเท่านั้น และจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป”

“น้อยๆหน่อย ปากของผู้ชาย ยิ่งกว่าผีหลอกคน” หยุนถิงกล่าวด้วยความไม่พอใจ

“แต่คำพูดไม่สามารถแสดงถึงความจริงใจของข้าได้ ข้าใช้การกระทำพิสูจน์” ขณะที่จวินหย่วนโยวกล่าวไป มือใหญ่ก็คว้าหยุนถิงเข้าไปในอ้อมแขน ก้มหน้าจูบลงไปบนริมฝีปากของนาง

หยุนถิงต้องการจะผลักเขาออกไป แต่กลับถูกจวินหย่วนโยวกอดรัดเอาไว้ในอ้อมแขน ไม่อนุญาตให้นางปฏิเสธ

แข็งกร้าวเผด็จการ โจมตีและเข้ายึดครอง ความแข็งกร้าวที่เป็นของจวินหย่วนโยวคนเดียวเท่านั้น ที่ทำให้หยุนถิงไม่สามารถต่อต้านได้

หยุนถิงที่เดิมทีผลักไสในตอนแรก ไม่ช้าก็ตกเข้าไปสู่การรุกรานของจวินหย่วนโยว ไม่เป็นตัวเอง

รถม้ากลับไปถึงหน้าประตูจวนซื่อจื่อ จวินหย่วนโยวถึงได้ปล่อยมือจากหยุนถิง: “ฮูหยิน ทีนี้ก็สามารถพิสูจน์ความจริงใจของข้าแล้วใช่ไหม”

หยุนถิงที่ได้รับอิสระหายใจเข้าลึกๆคำใหญ่ จ้องมองจวินหย่วนโยวด้วยความโกรธ ไม่สนใจเขาอีก เปิดม่านรถม้าก็ลงจากรถม้าไป

จวินหย่วนโยวมองดูท่าทางโกรธเคืองของนาง นัยน์ตาเต็มไปด้วยการตามใจและความอ่อนโยน: “ดูท่าการแสดงออกของข้าเมื่อครู่นี้ไม่ได้ทำให้ฮูหยินพึงพอใจ คืนนี้ข้าจะต้องพยายามให้ดีอย่างแน่นอน”

หยุนถิงที่เดินออกไปไม่กี่เมตร ร่างกายแข็งทื่อทันที นึกถึงความบ้าระห่ำบนเตียงของซื่อจื่อ หยุนถิงวิ่งเข้าไปในลานโดยตรง

มองดูแผ่นหลังที่หนีเตลิดไปของหยุนถิง จวินหย่วนโยวหัวเราะออกมาเบาๆ

กลับไปถึงลาน หยุนถิงรีบนำหญ้ากิเลนกับเสวี่ยหลิงเซียงไปที่เรือนไผ่ของท่านลั่ว เริ่มจัดการปรุงยาทันที

การไปครั้งนี้ จนกระทั่งฟ้ามืดหยุนถิงถึงออกมา ถือครีมยาที่ทำเสร็จเดินออกมา

ห้องของรั่วจิ่ง จวินหย่วนโยวนั่งมองดูเขาอยู่ข้างเตียง

“ซื่อจื่อขอโทษด้วย เป็นเพราะข้าน้อยไร้ความสามารถ เกรงว่าต่อไปคงจะไม่สามารถปกป้องท่านได้อีกแล้ว” รั่วจิ่งกล่าวด้วยความละอายใจ

“ดูแลสุขภาพให้ดีก่อน มีหยุนถิงอยู่ทั้งคน เข้าไม่เป็นอะไรหรอก เจ้าอยากเดิมพันชนะข้าตลอดไม่ใช่หรือ ข้ายังรอเจ้าอยู่นะ” จวินหย่วนโยวเอ่ยปาก

ในอดีตตอนที่พวกเขายังเป็นเด็ก หลิงเฟิงกับรั่วจิ่งก็ติดตามจวินหย่วนโยวแล้ว ถึงแม้จะเป็นเจ้านายกับองครักษ์ แต่พวกเขาก็ติดตามซื่อจื่อมาตั้งแต่เด็ก หากบอกว่าสนิทสนมราวกับพี่น้องก็ไม่เกินจริงไปเลย

มู่ฉิงเซินโกรธจนขว้างน้ำชาลงไปบนพื้น: “บัดซบ จู่ๆกิจการของตระกูลมู่เกิดปัญหาขึ้นมาทั้งหมดในคราวเดียวได้อย่างไร ต้องมีคนแอบเล่นเล่ห์เหลี่ยมอยู่เบื้องหลังแน่ เด็กๆ รีบไปสืบทันที ไม่ว่าจะเป็นใครกล้าเป็นศัตรูกับตระกูลมู่ ข้าจะต้องให้เขาตายทั้งเป็นแน่นอน”

ตอนแรกเจ้าสามถูกทำให้พิการ เมื่อคืนเจ้าใหญ่ไปจับกุมจวินหย่วนโยวแท้ๆ แต่แล้วผู้ใต้บังคับบัญชาก็ได้รับความเสียหายอย่างหนัก แม้แต่มู่ฟงก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสไม่ได้สติ เหตุการณ์ต่อเนื่องเหล่านี้ทำให้มู่ฉิงเซินไฟโทสะพุ่งเข้าสู่หัวใจ กระอักเลือดออกมาเล็กน้อย คนทั้งคนเกือบจะหมดสติไป

“นายท่าน ท่านเป็นอย่างไรบ้าง?” พ่อบ้านกล่าวถามด้วยความเป็นห่วง

“ข้าไม่เป็นไร รีบไปเตรียมรถม้า ข้าจะเข้าวังไปพบฮองเฮา!” มู่ฉิงเซินออกคำสั่ง

ตอนนี้ ความหวังเพียงหนึ่งเดียวของตระกูลมู่ก็คือฮองเฮา

“ขอรับ” พ่อบ้านให้คนไปเตรียมรถม้าทันที จากนั้นก็ให้องครักษ์ไปสืบหาสาเหตุของเรื่องราว

มู่ฉิงเซินมุ่งหน้าตรงไปที่พระราชวังตลอดทาง เพียงแต่ว่าตอนที่เขาเร่งเดินทางถึงพระราชวัง กลับได้ยินว่าฮองเฮาถูกฝ่าบาทกักบริเวณ ห้ามออกจากตำหนักแม้แต่ครึ่งก้าว เวลานี้มู่ฉิงเซินตะลึงงันไป

“ทำไมถึงเป็นเช่นนี้ นั่นคือฮองเฮาเชียวนะ ทำไมฝ่าบาทถึงทำเช่นนี้?” มู่ฉิงเซินไม่เชื่อ รีบร้อนไปเข้าเฝ้าฮ่องเต้

แต่แล้วฮ่องเต้ก็โยนสมุดบัญชีพวกนั้นใส่หน้าของมู่ฉิงเซิน ทันทีที่มู่ฉิงเซินเห็นคนทั้งคนก็ตะลึงงันไป: “ฝ่าบาท ต้องมีคนปรักปรำกระหม่อมแน่นอน กระหม่อมจะกล้าเบียดบังผลประโยชน์ใส่ตัวได้อย่างไร”

“หลีอ๋องจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องมาสืบสวนในคืนนั้นเลย ข้าอยู่ด้านข้างได้ยินกับหู เจ้ายังจะกล้าปฏิเสธอีกหรือ เจ้านี่มันเป็นกว๋อจ้างที่ดีของข้าจริงๆ

ฮองเฮาเบียดบังผลประโยชน์ใส่ตัวอยู่ในวัง เจ้ายักยอกเงินบรรเทาภัยพิบัติและซ่อมแซมเส้นทางการเดินเรือข้างนอก พวกเจ้าช่างเป็นมือซ้ายมือขวาของข้าจริงๆ นี่รวมหัวกันมาทำร้ายข้าเช่นนี้อย่างนั้นหรือ

กิจการของตระกูลมู่ก็ยิ่งเป็นการหลอกลวงคดโกง หลอกลวงผู้คน ตอนนี้ศาลต้าหลี่เต็มไปด้วยชาวบ้านที่ร้องเรียนตระกูลมู่ของเจ้าแล้ว

แต่ละเรื่อง ล้วนเป็นการกระทำของเจ้าทั้งนั้น ไม่ว่าเรื่องไหนก็เพียงพอให้ประหารชีวิตเจ้าเก้าชั่วโคตรทั้งนั้น หลีอ๋องยังตรวจสอบอยู่ แต่ฮองเฮาทุจริตหลักฐานชัดเจน เด็กๆ ปลดฮองเฮาออกจาก------” คำพูดของฮ่องเต้ยังไม่ทันได้พูดจบ ก็ถูกมู่ฉิงเซินขัดจังหวะเสียก่อน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ