จอมนางข้ามพิภพ นิยาย บท 302

พอฎีกาออกมา ราษฎร์ทั่วทั้งแคว้นต้าเยียนพากันโห่ร้องด้วยความดีใจ ฝ่าบาทช่างเข้าอกเข้าใจประชาชนยิ่งนัก

ปกติแล้วสิ่งที่พวกเขาเพาะปลูกนอกจากจะต้องจ่ายภาษีแล้ว เหลือไว้เองก็ไม่มากเลย หากเอาไปขายก็ไม่ได้ราคา ดังนั้นคนมากมายเลยละทิ้งท้องนาแล้ว

บัดนี้ฝ่าบาทสนับสนุนให้เพาะปลูกยา ไม่เพียงลดหย่อนภาษียังรับซื้อในราคาสูงอีกด้วย ทำให้ความกระตือรือร้นของราษฎร์นั้นมีมากอย่างไม่เคยมีมาก่อน ทุกคนพากันเอาพืชผลในดินที่ควรเก็บ เก็บขึ้นมา รอแค่เพียงทางการแจกจ่ายเมล็ดพันธุ์ตัวยาลงมา

ที่พักแรมของราชสำนัก

มู่เทียนบาย่อมได้ยินฎีกานี้มาเช่นกัน เขาโกรธจนสะบัดถ้วยชาในมือลงพื้นอย่างแรง

“เหตุใดจู่ๆฮ่องเต้ต้าเยียนก็ออกฎีกาเช่นนี้มา?” มู่เซียวเซียวถามอย่างเป็นกังวล

“เห็นได้ชัดว่าจะกดขี่หอเทพเซียนของเรา แต่อดีตมา วัตถุดิบยาของทั้งสี่แคว้นล้วนขายให้หอเทพเซียนทั้งนั้น บัดนี้เขาให้ราษฎร์ของตนปลูกเอง แบบนี้จะเป็นความสูญเสียมหาศาลของพวกเรา!” มู่เทียนบามุ่งหน้าตรงไปพระราชวังทันที

“ท่านพ่อ ท่านจะไปพูดกับฝ่าบาทดีหรือไม่?” มู่เซียวเซียวเสนอ

“ในเมื่อฮ่องเต้ประกาศฎีกาแล้ว แสดงว่าอยากจะสลัดตัวหนีจากหอเทพเซียนของเรา วัตถุดิบยามิใช่อะไรที่ใครที่ไหนก็ได้จะมาปลูกได้ ปลูกออกมาได้หรือไม่ยังมิรู้แน่ชัดเลย พอปลูกได้แล้วยังต้องการเวลาอีก

น่ากลัวจะเห็นว่า ครั้งนี้ร้านยาของเราโดนทลาย ดังนั้นเลยคิดจะปลูกเอง มิเป็นไร รอให้ต่อไปพวกเขาปลูกไม่ได้หรือไม่ก็ยาที่ปลูกออกมาไม่ดีเท่าตัวยาของหอเทพเซียนเรา เขาย่อมมาขอร้องเราถึงที่อยู่แล้ว!” มู่เทียนบาบอกอย่างได้ใจ

“ท่านพ่อเฉลียวฉลาดนัก!”

“ท่านเจ้าหอแย่แล้วขอรับ!” ข้ารับใช้วิ่งทะเล่อทะล่าเข้ามา

“เกิดอะไรขึ้น?” มู่เทียนบาสีหน้าเย็นชาทันที

“ท่านเจ้าหอ ร้านยาพวกนั้นของพวกเรานอกเมืองหลวงแคว้นต้าเยียน รวมถึงร้านยาในอีกสามแคว้นล้วนเกิดปัญหาขึ้นทั้งหมด โดนคนฟ้องว่าขายยาปลอม มีคนมากมายกินยาของร้านเราแล้วโดนพิษ ยังมีคนตายด้วย ตอนนี้ทั่วทั้งสี่แคว้นพากันต่อต้านร้านยาของหอเทพเซียนเรา ราชวงศ์แคว้นเป่ยลี่ได้ให้คนจัดการปิดร้านยาแล้วสืบสวนอย่างเข้มงวดแล้ว” ข้ารับใช้รายงาน

มู่เทียนบาสีหน้าซีดเผือดทันที เขาเซเข่าอ่อนแทบล้มลงพื้น โชคดีที่มู่เซียวเซียวอยู่ข้างพยุงเขาไว้ได้ทัน

“ท่านพ่อ ท่านยังดีอยู่หรือไม่?”

“ข้าจะยังดีอยู่ได้รึ เวลาแค่คืนเดียว ร้านยาทั่วทั้งสี่แคว้นเกิดปัญหาพร้อมกัน ต้องมีคนจงใจก่อกวนอยู่เบื้องหลังแน่ ถึงร้านยาของหอเทพเซียนจะราคาแพง แต่ไม่มีทางขายยาปลอมแน่ ใครกันแน่ที่ต่อกรกับหอเทพเซียนของเราอย่างนี้ เจ้ารีบติดต่อคนในพื้นที่ของหอเทพเซียนทั้งหมด ให้พวกเขาสืบหาความจริงมาให้ได้ ไม่ว่าจะแลกด้วยอะไรก็ตาม” มู่เทียนบาบอกอย่างเดือดดาล

“ขอรับ” ข้ารับใช้รีบไปส่งนกพิราบสื่อสาร

“ท่านพ่อ ข้าจำได้ว่า เป่ยหมิงฉี่ไท่จื่อแห่งแคว้นเป่ยลี่อยู่ที่แปรพระราชฐาน พวกเราไปเยี่ยมเยือนเขาหน่อยดีหรือไม่?” มู่เซียวเซียวรีบเสนอขึ้นมาทันที

“คงได้แต่ทำเช่นนี้แล้วล่ะ” มู่เทียนบากับมู่เซียวเซียวมุ่งตรงไปยังแปรพระราชฐานทันที

เพียงแต่ในตอนที่พวกเขาไปถึง กลับได้รับการบอกว่า เป่ยหมิงฉี่พาคนกลับแคว้นเป่ยลี่ไปตั้งแต่เมื่อสองวันก่อนแล้ว

คราวนี้สองพ่อลูกงงเป็นไก่ตาแตกไปเลย “หรือว่าฟ้าจะไม่ละเว้นหอเทพเซียนของข้า ตอนนี้ข้าจะพาคนไล่ตามเป่ยหมิงฉี่ไป หวังว่าจะยังทัน เจ้าจับตาดูการแข่งคัดเลือกลูกศิษย์ของหอเทพเซียนให้ดี อย่าได้ทำให้การแข่งขันไม่ราบรื่นเพราะสาเหตุนี้ต่างหาก มิเช่นนั้นคนด้านนอกจะคิดว่าหอเทพเซียนของเราหมดสิ้นแล้ว” มู่เทียนบาถอนหายใจ

“เจ้าค่ะ ท่านพ่อ”

......

หน้าประตูจวนซื่อจื่อ

ร่างหนึ่งเดินไปเดินมาหน้าจวนหลายรอบมาก ลังเลอยู่นาน ในที่สุดชางหยุนสี่ตัดสินใจเดินเข้ามา

คนรับใช้พาชางหยุนสี่ไปเรือนของหยุนถิง หยุนถิงกำลังกินของหวาน เลิกคิ้วมองมาอย่างแปลกใจ

“ไม่คิดว่า วันหนึ่งองค์หญิงสี่จะมาเรือนของข้าได้”

“ข้าถามเจ้าหน่อย พระที่เจ้าเจอในป่าลึกวันนั้น คือคงอู๋ไต้ซือใช่หรือไม่?” ชางหยุนสี่ถามอย่างเย่อหยิ่ง

“จะขอร้องก็ต้องมีท่าทีของคนขอร้องสิ สำหรับคนที่คิดเล่นงานข้าหลายครั้งหลายครา นี่ข้ามีเมตตามากแล้วนะ” หยุนถิงยิ้มมุมปากอย่างไม่แยแส

ชางหยุนสี่ชะงักกึก “เจ้ารู้แล้ว?”

หลายวันก่อนนางกับพี่รองวางแผนเล่นงานหยุนถิงหลายครั้ง แต่ไม่สำเร็จเลยสักครั้ง เพราะหยุนถิงไม่เคยทำอะไรที่คาดเดาได้เลยสักนิด

“ทั่วทั้งแคว้นต้าเยียนและสี่แคว้นล้วนอยู่ในสายตาซื่อจื่อ การเล่นสนุกเล็กน้อยของพวกเจ้าน่ะมีรึจะปิดบังองครักษ์เงามังกรได้” หยุนถิงย้อนถาม

ใบหน้าชางหยุนสี่ยิ่งทะมึนหนักขึ้น เสียแรงที่พวกเขาวุ่นวายหนักหนา สุดท้ายในสายตาหยุนถิงกลับเป็นแค่เรื่องตลก

ต่อมาหยุนถิงก็ให้ชางหยุนสี่ตักของหวานให้เธอ รดน้ำดอกไม้ในสวน และยังให้นางทำความสะอาดเรือน---สรุปแล้วให้นางทำงานของทุกคนไปหนึ่งรอบ

ชางหยุนสี่ที่เย่อหยิ่งเอาแต่ใจแต่เด็ก เหนื่อยจนไม่สนใจหน้าตาแล้ว นางนั่งลงแหมะกับระเบียงบันไดเลย

“หยุนถิง ที่ควรทำข้าก็ทำหมดแล้ว เจ้าจะช่วยข้าอย่างไร?” ชางหยุนสี่ถาม

“เจ้ากลับไปแคว้นชางเยว่ก่อนเถอะ รอเจ้าไปถึงแคว้นชางเยว่แล้ว ข้าค่อยบอกวิธีเจ้า” หยุนถิงตอบ

ชางหยุนสี่เดือดจัด “หยุนถิง นี่เจ้าหลอกใช้ข้ารึ?”

“ในเมื่อข้ารับน้ำใจไมตรีที่องค์หญิงสี่ยื่นมา ย่อมต้องช่วยเจ้า แต่จู่ๆเจ้าก็มาบอกข้าว่ามีสัญญาหมั้นหมายกับอ๋องเก้าแห่งแคว้นเป่ยลี่ ข้าไม่ใช่เทพเซียนเสียหน่อย ต้องให้เวลาข้าไปสืบอ๋องเก้าผู้นั้นบ้างสิ วางใจเถอะ ไม่ทำเจ้าเสียเรื่องดอก”

ชางหยุนสี่คิดๆดูก็รู้สึกมีเหตุผล “ท่านพี่ไท่จื่อเคยบอก เจ้าน่ะเชื่อใจได้ ข้าจะเชื่อเจ้าสักครั้ง ถ้าเจ้ากล้าหลอกข้า ข้าจะไม่ละเว้นเจ้าแน่!”

“เจ้าเป็นน้องสี่ของชางหลันเย่ เห็นแก่หน้าเขา ข้าไม่หลอกเจ้าหรอก”

ถึงชางหยุนสี่จะไม่ชอบเย่อหยิ่งจองหองของหยุนถิง แต่ตอนนี้นางไม่มีหนทางแล้วจริงๆ ท่านพี่ไท่จื่อเชื่อใจหยุนถิง บัดนี้นางก็ทำได้เพียงแค่เชื่อใจหยุนถิงแล้วล่ะ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ