ทันใดนั้นก็มีคนกลุ่มหนึ่งปรากฏตัวขึ้นที่ข้างหลังเขาทันที จำนวนเยอะมากนัก อัดแน่นไปทั่วทั้งถนน หลั่งไหลออกมาจากทุกทิศทุกทาง
ในเวลานี้ ขุนนางชั้งสูงต่างชื่นชมยินดีกัน โชคดีที่พวกเขาไม่หุนหันพลันแล่น ไม่เช่นนั้น เพียงแค่คนเหล่านี้ก็มีมากกว่าพวกเขาหลายเท่าแล้ว หากใช้ไม้แข็งที่โต้กับท่าทีที่แข็งคงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาอย่างแน่นอน
"เดี๋ยวก่อน!" เป่ยหมิงฉี่เอ่ยขึ้นอย่างกะทันหัน "ซวนอ๋อง เจ้าฝังดินปืนไว้ที่ใด?"
โม่เหลิ่งเหยียนหันกลับมามองเขา "หากกองทัพของข้าถอนกำลังออกไปอย่างปลอดภัย แน่นอนว่าข้าจะบอกตำแหน่งแก่เจ้าอยู่แล้ว"
"ร้ายกาจ!"
โม่เหลิ่งเหยียนเพิกเฉยและจากไปกับลูกน้อยของเขา คนบางกลุ่มตรงไปที่ทะเลชิ่งไห่ อีกกลุ่มหนึ่งก็ไปที่ด่านห้าเสือ
เมืองหลวงของแคว้นเป่ยลี่ขนาดใหญ่เงียบลงในทันที องครักษ์ที่เฝ้าปกป้องเมืองบอกว่าซวนอ๋องได้ถอยกลับไปพร้อมกับคนของเขาจริงๆแล้ว ทุกคนจึงค่อยโล่งใจลง
ขุนนางชั้งสูงบางคนถึงกับล้มลงกับพื้น คืนนี้กลัวแทบตาย ส่งซวนอ๋องตัวร้ายนี้ไปซะที
“กองทัพหลวงไปเฝ้าอยู่ที่ประตูเมือง ส่วนอื่นๆ ก็พยายามค้นหาจุดที่ฝังดินปืนอย่างสุดกำลัง หากมีสถานที่น่าสงสัย ก็รีบกำจัดทิ้งในทันที!” เป่ยหมิงฉี่สั่ง
“ขอรับ” เหล่าทหารไปทันที
......................
ทางนี่ หลีอ๋องพาคนกลุ่มใหญ่ตรงไปยังแคว้นเป่ยลี่ หลังจากเดินทางมาหลายวัน คืนนี้พวกเขาก็ตั้งค่ายในป่าแห่งหนึ่ง
โม่หลานตื่นเต้นมาก กำลังย่างไก่สองตัว ได้กลิ่นอันแสนหอมนั้นน้ำลายก็จะไหลออกมาแล้ว
“ดูไม่ออกเลยนะ พวกเจ้าสองคนยังฉลาดดี เอาเครื่องปรุงมาด้วย อร่อยมากจริงๆเลย”
"แน่นอนอยู่แล้ว พี่ใหญ่ข้าบอกแล้วว่าไม่ว่าไปที่ใดก็ห้ามให้ท้องตัวเองหิว" คุณหนูหยุนได้ใจยิ่งนัก
หลีอ๋องชำเลืองมองโม่หลานและเด็กทั้งสอง สีหน้าเย็นชา "นี่ไปสู้รบ พาเด็กสองคนไปทำไม อย่าทำให้กองทัพเดือดร้อนไปด้วยละ!"
ไม่รู้ว่าหยุนถิงกำลังคิดอะไร กลับให้คุณชายหกไปส่งตายด้วย
โม่หลานได้ยินเช่นนี้ก็ไม่ยอมในทันที "หลีอ๋องท่านพูดอะไรกัน คนที่ข้าพามาข้ารับผิดชอบเอง ไม่จำเป็นต้องให้ท่านมาสน ไม่ทำให้การเดินทางของกองทัพล่าช้าก็พอแล้ว"
“ในสนามรบอันตราย หากตายหรือเกิดไรขึ้นข้าไม่รับผิดชอบ!” โม่ฉือหานตะคอกอย่างเย็นชา
“ท่านไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบ ถึงตอนนั้นใครจะบาดเจ็บยังไม่แน่เลย” คุณชายหกแบะปาก
เขาไม่เคยลืมว่าตอนนั้นหลีอ๋องทำให้พี่ใหญ่ของเขาต้องอับอายอย่างไร
สีหน้าของโม่ฉือหานเย็นชา "เจ้าหนู เจ้าพูดจาโอ้อวดยิ่งนัก!"
“ข้าแค่พูดความจริง ท่านเป็นคนดูถูกเด็กๆอย่างพวกข้าเกินไป”
"ท่านอ๋องท่านมีเวลาจริงจังกับคุณชายหก ท่านคิดหาวิธีโจมตีแคว้นเป่ยลี่ก่อนเถอะ ข้าได้ยินมาว่าสายลับของเป่ยหมิงฉี่นั้นเยอะมากนัก ระวังจะถูกซุ่มโจมตีละ!" โม่หลานบ่น
"สิ่งนี้เจ้าไม่จำเป็นต้องกังวล!" โม่ฉือหานตะคอกอย่างเย็นชา หันกลับและจากไป และเรียกคนสนิทของเขามาปรึกษาหารือเกี่ยวกับวิธีการรับมือ
ทหารพักอยู่ที่นี่ กินเสบียงอาหาร และดมกลิ่นหอมของไก่ย่าง ก็อดไม่ได้ที่จะกลืน
คิดไม่ถึงว่าคุณหนูโม่และเด็กแสบสองคนนี้ยังค่อนข้างมีวิธี สำหรับทหารที่กินหมั่นโถวมาเป็นเวลาหลายวันแล้วนั้น รู้สึกอิจฉายิ่งนัก
ท่านก็รู้ว่าพี่ใหญ่ของข้าไม่ชอบข้าตั้งแต่เด็ก มักจะตีและด่าว่าข้า ข้าตกอยู่ในสภาพตกนรกทั้งเป็นชัดๆเลย ตายทั้งเป็น
แม่และพี่รองของข้าถูกพี่ใหญ่รังแกอย่างน่าสงสารยิ่งนัก และตอนนี้นางก็มาทรมานข้าอีก ขอหลีอ๋องช่วยข้าหลุดพ้นจากห้วงแห่งความทุกข์ด้วย ให้ข้ารอดพ้นจากมือของพี่ใหญ่ " คุณชายหกแสดงได้อย่างยอดเยี่ยมน่าประทับใจ เศร้าสลดยิ่งนัก
โม่ฉือหานมองอย่างสงสัย "เท่าที่ข้ารู้ หยุนถิงไม่ได้ปฏิบัติไม่ดีต่อเจ้า นางยังให้เจ้าฝึกฝนที่จวนซื่อจื่อด้วยหรือ?"
คุณชายหกคุกเข่าลง "หลีอ๋องท่านไม่รู้ความยากลำบากของข้า นางฝึกฝนข้าที่ไหนกัน ก็แค่ถือโอกาสในการฝึกฝนมาทุกข์ทรมานข้าด้วยวิธีต่างๆ ท่านดูบาดแผลบนแขนของข้าสิ" จากนั้นก็พับแขนเสื้อขึ้น
โม่ฉือหานมองดูคราบเลือด รอยฟกช้ำบนแขนของเขา และรอยแผลที่ยังไม่หายดี ก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว "หยุนถิงปฏิบัติกับเจ้าเยี่ยงนี้จริงหรือ?"
“ใช่ ไม่งั้นข้าจะรนหาที่ตายทำไม พี่ใหญ่ของข้าเป็นผู้หญิงที่ดุดัน หยิ่งยโส ไร้เหตุผล และเผด็จการยิ่งนัก ขอให้เป็นสิ่งที่ขัดตานางก็จะทรมานเอาอย่างแรง
ข้ารู้ว่าท่านอ๋องมีฐานะและอำนาจใหญ่ ไม่ขาดสิ่งใด แต่ข้ายังเป็นเพียงเด็กคนหนึ่ง ไม่สามารถให้อะไรที่ดีแก่ท่านอ๋องได้โปรดท่านอ๋องอย่าได้รังเกียจไก่ย่างนี้เลย แม้ว่ามันจะไร้ค่า แต่ก็เป็นสิ่งที่จับมาและย่างด้วยมือข้าเอง
หากสู้สงครามอย่าผลักข้าไปอยู่แถวหน้าก็พอ ถึงตอนนั้นข้าแค่หาที่ซ่อนตัวเองก็พอแล้ว ท่านอ๋องก็เพียงแค่แสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นก็พอแล้ว พ่อข้ายังหวังพึ่งให้ข้าเลี้ยงดูเขาในยามแก่เฒ่าและทำพิธีฝังศพให้เขา! " คุณชายหกร้องไห้อย่างเสียใจ และพูดอย่างน่าสังเวช
เมื่อเห็นว่าเจ้าหนูนี้ร้องไห้ยังน่าสงสารแถมบนตัวยังมีบาดแผลด้วย โม่ฉือหานก็รู้สึกน่าเชื่อขึ้นเล็กน้อย "เอาล่ะ เห็นแก่หน้าของหยุนเฉิงเซี่ยง ข้าจะไม่ปล่อยให้เจ้าตายอย่างแน่นอน ไก่ย่างวางไว้เถอะ"
เพราะความสัมพันธ์ระหว่างหยุนถิงและคุณชายหกในก่อนหน้านี้นั้นก็ไม่ดีจริงๆ และไม่มีใครจะไปรนหาที่ตาย นับประสาอะไรกับเด็กคนหนึ่ง ดังนั้นโม่ฉือหานก็ไม่ได้คิดอะไรมาก
“ขอบคุณท่านอ๋อง ท่านต้องรีบกินไก่ย่างนี้ในขณะที่ยังร้อนอยู่ นี่เป็นฝีมือด้านการทำอาหารที่ข้าแอบเรียนรู้มาจากพี่ใหญ่ รสชาติดีราวกับหอใต้หล้า” คุณชายหกวิ่งไปอย่างมีความสุข
เดิมทีโม่ฉือหานที่ยังไม่อยากกินนั้น จู่ๆ ก็ได้ยินว่าเรียนรู้ฝีมือด้านการทำอาหารมาจากหยุนถิง สุดท้ายก็นำไก่ย่างมาและกินไปสองสามคำ
เพราะเขายังไม่เคยได้กินไก่ย่างที่หยุนถิงย่างเลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ
อัพต่อด้วยจ้า...
รอตอนต่อจ้า...
แต่ละบทที่่อ่านแล้ว ควรมีสีหรือเครื่องหมายที่แตกต่างกัน ผู้อ่านจะได้ทราบว่าเรืื่องนี้อ่านไปถึงบทไหนแล้ว...
รำคานโฆษณาที่เลื่อนเข้ามา เข้าใจได้ว่าต้องหารายได้ แต่ควรนำไปวางไว้ด้านล่างสุด ไม่ด้านซ้ายก็ด้านขวา จะได้ไม่เสียอารมณ์ในการอ่าน ปกติโฆษณาที่อยู่ระหว่างหน้าก็ใหญ่และมากอยู่แล้ว...
ขอร้องทงทีมงานช่วยอัพเดทจนจบด้วยนะคะ😭😭😭😭😭...
เรื่องนี้ทางทีมงานจะอัพเดทต่อมั้ยค่ะ😭...
รอตอนใหม่อยู่นะคะ😭🙏🏻...
เมื่อไหร่จะอัพเพิ่มค่ะหายไปเป็นเดือนแล้วนะ...
รอค่ะ ตามเรื่องนี้มานานมาก อัพตอนต่อจาก 1070 ให้หน่อยค่ะ...
สนุกมากค่ะ รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะรบกวนลงต่อให้จบด้วยค่ะ กำลังสนุก...