เมื่อคืนพวกเขาได้รับจดหมายจากซื่อจื่อเฟย ให้พวกเขาไปที่จวนตระกูลฉิน เพื่อไปสู่ขอแทนจ้าวเคอ ดังนั้นในวันต่อมาพวกเขาทั้งสองจึงมาเลย
"แน่นอนอยู่แล้ว ใครกล้าไม่ให้หน้าซื่อจื่อและซื่อจื่อเฟยของพวกข้า" จวินหย่วนโยวที่ปลอมตัวตอบ
“ไม่รู้ว่าซื่อจื่อเฟยพวกเขาจะกลับมาเมื่อไหร่”
"คงใกล้แล้ว"
ด้านนี่ หยุนถิงและจวินหย่วนโยวที่กำลังเดินทางคนหนึ่งจามไปหนึ่งครั้ง จวินหย่วนโยวรีบหันมองมา "เป็นหวัดหรือเปล่า?"
"เปล่า คงเป็นเพราะมีคนคิดถึงพวกข้าแล้ว การจามหนึ่งครั้งคือกำลังคิดถึง" หยุนถิงตอบด้วยรอยยิ้ม
"คิดถึงเจ้ายังเป็นไปได้ คิดถึงข้า เจ้าคิดว่าใครที่มีใจกล้าเช่นนี้?" จวินหย่วนโยวถามกลับ
หยุนถิงรู้สึกขบขันกับเขา "ซื่อจื่อท่านทำหน้านิ่งทุกวัน จึงทำให้คนอื่นเกรงกลัวท่านมาเช่นนั้น ต่อไปยิ้มให้มากขึ้นหน่อย" ขณะที่พูด ก็เอื้อมมือไปจิ้มมุมปากของจวินหย่วนโยว
จวินหย่วนโยวยื่นมือออกไปจับมือของหยุนถิง และลูบนิ้วของนางเบาๆ "ในใต้หล้านี้ มีเจ้าเพียงผู้เดียวที่กล้าทำเช่นนี้"
"นั่นก็เป็นเพราะซื่อจื่อเอาใจข้า" หยุนถิงกล่าวอย่างได้ใจ
"ฮ่าฮ่า ข้าจะเอาใจเจ้าเยอะๆ เช่นนี้เจ้าถึงจะไม่ไปชอบผู้ชายคนอื่นๆ" มืออีกข้างหนึ่งของจวินหย่วนโยวไปลูบหัวของหยุนถิง
การลูบหัวนี้ทำเอาหยุนถิงรู้สึกซาบซึ้งยิ่งนัก และอดไม่ได้ที่จะบ่นในใจว่า ซื่อจื่อเย้ายวนใจคนเก่งเกินไปแล้ว
หลงเอ้อที่อยู่นอกรถม้าอดไม่ได้ที่จะอิจฉาเมื่อได้ยิน "หากข้าได้แต่งงานในอนาคต ข้าก็จะเอาใจภรรยาของข้าจนตายเช่นซื่อจื่อเลย!"
หลิงเฟิงกลอกตาใส่เขา "ตายก็ตายแล้ว จะเอาใจอย่างไร!"
“ไอ้โง่ น่าเบื่อยิ่งนัก ไม่แปลกใจเลยที่เจ้ายังโสด!” หลงเอ้อพูดอย่างดูถูก
“พูดอย่างกับว่าเจ้าไม่โสด!”
ทั้งสองเถียงกัน และรถม้าก็แล่นไปตลอดทาง ในตอนเที่ยงก็มาถึงเมืองเล็กๆ แห่งหนึ่ง เดิมทีจวินหย่วนโยวและคนอื่นๆ จะไปทานอาหารในร้านสุรา แต่จู่ๆหยุนถิงก็เห็นแผงขายก๋วยเตี๋ยวที่ข้างถนน
“ซื่อจื่อ ข้าอยากกินก๋วยเตี๋ยวหมูสับ!”
"อืม" จวินหย่วนโยวประคองหยุนถิงอย่างระมัดระวัง
เมื่อชายชราเห็นแขกมา ก็ดีใจยิ่งนัก "เชิญนั่ง ข้าทำก๋วยเตี๋ยวหมูสับนี้มาหลายสิบปีแล้ว รับประกันได้ว่าดั้งเดิมแน่นอน!"
"อืม"
ดังนั้นหยุนถิงและคนอื่นๆ จึงนั่งลง มีเพียงโต๊ะสี่เท่านั้น ต่างก็นั่งเต็มไปหมด และคนอื่นๆ ก็ยืนกิน
เมื่อชายชราเห็นมีคนมาเยอะเช่นนี้ ก็ดีใจมาก คู่สามีภรรยาก็รีบยุ่งขึ้นมาในทันทีเลย เหล่าองครักษ์ลับก็ถือชามของตัวเองไว้แล้วช่วย
ขณะที่หยุนถิงกำลังจะหยิบตะเกียบขึ้นมากิน จวินหย่วนโยวก็รับตะเกียบของนางมา "ข้าป้อนเจ้า!"
“ไม่ต้องแล้วซื่อจื่อ ข้ายังไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น ก๋วยเตี๋ยวแบบนี้กินเองถึงจะอร่อย” หยุนถิงหยิบตะเกียบ หยิบน้ำส้มสายชูที่อยู่ข้างๆ แล้วเทลงไปอย่างเยอะ
ทำเอาจวินหย่วนโยวอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว "จำเป็นต้องเปรี้ยวขนาดนี้เลยหรือ?"
หยุนถิงมองดูท่าทางของเขา ก็อดไม่ได้ที่จะแกล้งเขา "ใช่นะสิ หลังจากตั้งครรภ์ก็ล้วนชอบกินของเปรี้ยว คนโบราณบอกไว้ว่าเปรี้ยวเป็นผู้ชาย เผ็ดเป็นผู้หญิง เมื่อก่อนนะท่านมักจะหึงเป็นประจำ ตอนนี้ท่านกินเป็นเพื่อนข้าเถอะ”
จวินหย่วนโยวมองดูก๋วยเตี๋ยวที่หยุนถิงคีบมา รู้ว่านังหนูนี้จงใจ แต่จวินหย่วนโยวก็ยังอ้าปากแล้วกินไปคำหนึ่ง
"แค่ก------" กลิ่นน้ำส้มสายชูเข้าจมูเต็มๆ จวินหย่วนโยวไออย่างแรง ฟันมีเปรี้ยวจีดเลย
องครักษ์เงามังกรและองครักษ์ลับคนอื่นๆเมื่อเห็นฉากนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะแบะปาก ซื่อจื่อเพื่อเอาใจซื่อจื่อเฟยก็สู้เกินไปหรือเปล่า
หยุนถิงรีบเอื้อมมือไปช่วยจวินหย่วนโยวตบหลัง "ซื่อจื่อท่านกินไม่ได้ก็ปฏิเสธสิ อันที่จริงข้าก็แค่อยากแกล้งท่านหน่อย ใครบอกให้ท่านปกติเผด็จการเกินไป และชอบหึงหวงยิ่งนัก"
คนอื่นๆ ต่างก็มองมาทางนี้ เจ้าหนูนี้กินได้เยอะจริงๆเลย เกรงว่าในอนาคตจะเลี้ยงไม่ไหว
ม่อเซิงมองทุกคนด้วยความเขินอาย ทำตัวไม่ถูกเล็กน้อย และไม่กล้ากินต่อ
“หากขังพวกเจ้าไว้ในห้องห้องหนึ่งไว้เป็นเวลานานกว่าสิบกว่าปี โดยไม่ให้ของกิน พวกเจ้าคงกินเยอะกว่าเขาอีก ม่อเซิงกินเยอะๆหน่อย กินชดเชยของที่ไม่ได้กินมาหลายปีนี้คืนมาให้หมด รักษาร่างกายให้แข็งแรงถึงจะช่วยข้าทำงานได้!” หยุนถิงกล่าว
“อืม!” ม่อเซิงพยักหน้าอย่างหนักแน่น ยกชามขึ้นมาและกินต่อไป
หลงซื่อรู้สึกละอายใจ และไม่ได้พูดอะไรอีก และไม่ลืมที่จะนำก๋วยเตี๋ยวของตัวเองแบ่งให้ม่อเซิง
หยุนถิงดูแล้วดีใจยิ่งนัก และรู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างยิ่ง
...............
ทางนี่ หลีอ๋องวิ่งไปมาในป่านับครั้งไม่ถ้วนในคืนเดียวกัน ในวันรุ่งขึ้นก็อ่อนแอยิ่งนัก เดิมทีเขาที่ขี่ม้าก็ต้องให้ลูกน้องไปซื้อรถม้าในเมืองที่ผ่านมา
โม่ฉือหานขอให้โม่หลานและคนอื่นๆ นั่งรถม้าโดยเฉพาะ แน่นอนว่าโม่หลานก็ต้องดีใจอยู่แล้ว รถม้านั่งสบายกว่าขี่ม้ามากเยอะมาก
แต่ทันทีที่พวกเขาทั้งสามเข้าไป ก็เห็นใบหน้าที่มืดครึ้มของโม่ฉือหาน
“หลีอ๋อง หากเจ้าไม่อยากให้พวกข้านั่งก็อย่าเชิญ พวกข้าเข้ามาก็ทำสีหน้าเช่นนี้ ทำให้ใครดูกันแน่?” โม่หลานพูดอย่างไม่พอใจ
“เรื่องในเมื่อคืนนี้ ข้าหวังว่าพวกเจ้าอย่าพูดออกไป แม้แต่คำเดียวก็ไม่ได้ เงื้อนไขพวกเจ้าว่ามา” โม่ฉือหานพูดตรงไปตรงมา
“หลีอ๋องมีเรื่องขอพวกข้าหรือ ข้าไม่เอาเงื่อนไขใดๆ เรื่องที่ขายหน้าของเจ้าเช่นนี้เกรงว่าคงมีเพียงหนึ่งในทั่วสี่แคว้น หากให้คนเหล่านั้นรู้ว่าเจ้าทำเรื่องเช่นนั้นออกมา ตอนนี้ข้าก็ยังนึกท่าทางที่พวกเขาหัวเราะเจ้าออกเลย” โม่หลานหัวเราะออกมาดังลั่น
สีหน้าของโม่ฉือหานมืดครึ้มลงกว่าเดิม "โม่หลาน เจ้าอย่ามากเกินไปนะ"
"ข้าไม่มากเกินไป ข้าไม่ขาดอะไรเลย เจ้าไม่มีเงื่อนไขอะไรที่ดึงดูดข้า"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ
อัพต่อด้วยจ้า...
รอตอนต่อจ้า...
แต่ละบทที่่อ่านแล้ว ควรมีสีหรือเครื่องหมายที่แตกต่างกัน ผู้อ่านจะได้ทราบว่าเรืื่องนี้อ่านไปถึงบทไหนแล้ว...
รำคานโฆษณาที่เลื่อนเข้ามา เข้าใจได้ว่าต้องหารายได้ แต่ควรนำไปวางไว้ด้านล่างสุด ไม่ด้านซ้ายก็ด้านขวา จะได้ไม่เสียอารมณ์ในการอ่าน ปกติโฆษณาที่อยู่ระหว่างหน้าก็ใหญ่และมากอยู่แล้ว...
ขอร้องทงทีมงานช่วยอัพเดทจนจบด้วยนะคะ😭😭😭😭😭...
เรื่องนี้ทางทีมงานจะอัพเดทต่อมั้ยค่ะ😭...
รอตอนใหม่อยู่นะคะ😭🙏🏻...
เมื่อไหร่จะอัพเพิ่มค่ะหายไปเป็นเดือนแล้วนะ...
รอค่ะ ตามเรื่องนี้มานานมาก อัพตอนต่อจาก 1070 ให้หน่อยค่ะ...
สนุกมากค่ะ รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะรบกวนลงต่อให้จบด้วยค่ะ กำลังสนุก...