ส่วนหลงเอ้อเปลี่ยนไปสวมชุดสีดำ กลายเป็นองครักษ์ของเขา ทั้งสองคนเดินตามกันไปบนท้องถนน ดึงดูดสายตาของผู้คนนับไม่ถ้วนทันที โดยเฉพาะพวกหญิงสาวที่ยังไม่ได้ออกเรือน เมื่อได้เห็นคุณชายที่หล่อเหลาสง่างามขนาดนี้ แต่ละคนต่างก็เกิดอาการหลงใหลผู้ชายหน้าตาดีจนตาค้างกันเป็นแถว ๆ
หยุนถิงพึงพอใจกับผลที่ได้เป็นอย่างมาก ทั้งยังจงใจเล่นหูเล่นตาใส่ผู้หญิงเหล่านั้นด้วยท่าทางอ่อนโยนหาใดเปรียบ ก่อให้เกิดเสียงกรีดร้องด้วยความตื่นเต้นยินดีของพวกผู้หญิงดังไปทั่ว
หลงเอ้อที่อยู่ข้างหลังยังอดขมวดคิ้วไม่ได้ "ฮูหยิน พวกเราเก็บเนื้อเก็บตัวกันหน่อยดีหริอไม่ ถ้าให้ซื่อจื่อรู้เข้าล่ะก็ คงได้ตีขาสุนัขอย่างข้าจนหักไม่มีเหลือแน่"
“เจ้ารู้ไปอะไร ยิ่งทำตัวสูงศักดิ์เท่าไหร่ก็ยิ่งถูกคนสงสัยน้อยลงเท่านั้น ทำใจให้สบายเถอะ เจ้าดูสิ สาวน้อยวัยแรกแย้มตั้งมากมายต่างก็กำลังมองเจ้าอยู่ ถ้ามีใครที่เห็นแล้วเข้าตา ข้าจะไปช่วยเจรจาสู่ขอให้ เจ้าก็อายุไม่ใช่น้อย ๆ แล้วนะ ควรคิดเรื่องแต่งงานมีครอบครัวได้แล้ว" หยุนถิงพูดด้วยท่าทางภูมิอกภูมิใจ
หลงเอ้อตกใจจนผงะ "ฮูหยินโปรดไว้ชีวิตด้วย! ข้าไม่เคยคิดถึงเรื่องเช่นนี้มาก่อนเลย ข้าสาบานไว้ว่าจะขอติดตามซื่อจื่อไปตลอดชีวิต โปรดอย่าผลักข้าลงหลุมไฟแบบนั้นเลยขอรับ"
"มันจะเป็นหลุมไฟได้ยังไงเล่า? เจ้าไม่เห็นรึว่าข้ากับซื่อจื่อเข้ากันได้ดีจะตาย? " หยุนถิงย้อนถาม
“แต่ว่าก่อนหน้านี้ ท่านติดตามหลีอ๋องก็ไม่ใช่ว่าต้องอยู่ในสภาพตกนรกทั้งเป็นหรอกรึ? ” หลงเอ้อ อดพร่ำบ่นไม่ได้
"นั่นเป็นเพราะข้าตาบอดเองไม่ได้หรือไง?"
“ได้ขอรับ ๆ ฮูหยินพูดอะไรล้วนถูกต้องหมด พวกเรารีบกลับกันเถอะ ถ้าให้ซื่อจื่อรอนานจนร้อนใจคงได้ส่งคนออกมาตามหาแน่ ๆ หากสืบจนพบว่าท่านเข้าไปในจวนหลีอ๋อง คงได้รื้อทำลายจวนหลีอ๋องจนราบเป็นหน้ากลองแน่เลยขอรับ" หลงเอ้อพยายามเกลี้ยกล่อม
"พูดไปก็ถูกนะ ออกมาตั้งนานขนาดนี้แล้ว พวกเรารีบกลับกันเถอะ" หยุนถิงพาหลงเอ้อเดินกลับไป ระหว่างทางยังมอบตั๋วเงินจำนวนห้าหมื่นตำลึงให้เขาด้วย
“ฮูหยิน ข้าไม่ต้องการเงินหรอก ซื่อจื่อสั่งให้ข้าคอยติดตามท่าน การปกป้องท่านถือเป็นความรับผิดชอบของข้า”
"แบบนั้นจะไปได้ยังไงล่ะ นี่เป็นรางวัลของพวกเราสองคน ต้องแบ่งกันคนละครึ่ง ถือเสียว่าเป็นค่าที่เจ้ายอมให้ข้าเรียกว่าหลานชายก็แล้วกัน" หยุนถิงก้าวเดินฉับ ๆ ตรงไปข้างหน้า
มุมปากของหลงเอ้อถึงกับกระตุก "ฮูหยิน เราไม่พูดถึงเรื่องนี้แล้วได้หรือไม่?"
ถ้าให้องครักษ์เงามังกรคนอื่น ๆ รู้ว่าเขาถูกฮูหยินเรียกว่าหลานชายอยู่เป็นครึ่งค่อนวันล่ะก็ จะไม่ถูกหัวเราะเยาะจนฟันร่วงเลยรึ!
“ได้ ๆ ไม่พูดถึงแล้ว เรื่องนี้เป็นความลับระหว่างพวกเราสองคน”
เวลานี้หลงเอ้อค่อยถอนหายใจด้วยความโล่งอกได้สักที "ฮูหยิน ส่วนผสมยาในใบสั่งวันนี้ ฉี่เด็กนั่นถือว่าเป็นสิ่งจำเป็นจริง ๆ รึ?"
"ฮ่า ๆ แน่นอนว่าต้องเป็นเรื่องโกหกอยู่แล้วสิ ใครใช้ให้เมื่อก่อนหลีอ๋องทำตัวแบบนั้นกับข้าล่ะ? โบราณว่าไว้ วิญญูชนแก้แค้นสิบปียังไม่สาย ดังนั้นหลงเอ้อ เจ้าต้องจำไว้นะว่า ในตอนที่เจ้ายังไม่มีปัญญาจะแก้แค้น เจ้าต้องเรียนรู้ที่จะอดทน รอจนตัวเองแข็งแกร่งพอเมื่อไหร่ ค่อยทรมานเขาจนกว่าจะตาย” หยุนถิงกล่าวอย่างภาคภูมิใจ
“ฮูหยิน ท่านก็โหดร้ายไม่ใช่เล่น ๆ เลยนะขอรับ” หลงเอ้ออดบุ้ยปากไม่ได้ ถ้าให้หลีอ๋องรู้ว่าฉี่เด็กที่เขาดื่มเข้าไปเป็นนานสองนานนั่น เป็นแค่หนึ่งในวิธีแก้แค้นเขาของฮูหยินล่ะก็ น่ากลัวว่าเจ้าตัวคงได้โกรธจนปอดแทบระเบิดแน่
"ข้าก็แค่เป็นคนที่มีคุณต้องทดแทน มีแค้นต้องชำระก็เท่านั้นเอง" หยุนถิงพูดด้วยสีหน้าจริงจัง
“แล้วถ้าหลังจากนี้ห้าวัน ท่านยังต้องไปฝังเข็มให้หลีอ๋องอีกหรือไม่ขอรับ?”
“ได้เงินเขามาแล้ว ยังต้องไปสนใจเขาอีกทำไมล่ะ? กลับบ้านไปหาซื่อจื่อกันเถอะ ข้าคิดถึงเขาจะแย่แล้ว” หยุนถิงพูดพลาง ฝีเท้าก็ก้าวเดินเร็วขึ้น
ในฐานะองครักษ์เงามังกร หลงเอ้อคิดว่าตัวเขาเองเคยได้เห็นผู้คนมาแล้วมากมายนับไม่ถ้วน แต่ในขณะนี้ เขารู้สึกชื่นชมฮูหยินจนแทบจะลงไปกราบแบบเบญจางคประดิษฐ์อยู่แล้ว
เมื่อพวกเขาทั้งสองกลับมาถึงจวนจื่อซื่อ ก็เห็นจวินหย่วนโยวอยู่ในห้องโถงข้าง บนโต๊ะมีอาหารหรูหราละลานตาจัดวางเรียงราย ส่วนเขาก็กำลังกินข้าวอยู่
"ซื่อจื่อ อาหารเย็นคืนนี้หรูหราละลานตาขนาดนี้เชียว ทำไมเจ้าไม่รอข้าก่อนล่ะ?" หยุนถิงเดินเข้ามาแล้วนั่งลง
สีหน้าของจวินหย่วนโยวเย็นเฉียบ ไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมอง "ข้าคิดว่าเจ้าคงได้กินอิ่มท้องในจวนหลีอ๋องแล้วเสียอีก"
คำพูดเพียงประโยคเดียว ทำเอามือที่ถือตะเกียบอยู่ของหยุนถิงถึงกับแข็งค้าง "ซื่อจื่อ เจ้ารู้ได้ยังไงกันล่ะเนี่ย? เจ้าหลงเอ้อคนนี้นี่นะ อุตสาห์บอกให้เขาเก็บเป็นความลับแล้วแท้ ๆ ยังมีหน้าไปฟ้องเจ้าอีกรึ?"
“หลงเอ้อไม่ได้บอก แต่ข้าไม่วางใจเรื่องความปลอดภัยของเจ้า จึงส่งคนลอบตามไปคุ้มครองพวกเจ้าอย่างลับ ๆ” จวินหย่วนโยวอธิบายด้วยน้ำเสียงเย็นชา
เมื่อจวินหย่วนโยวได้ยินนางพูดแบบนี้ ก็คลายคิ้วที่ขมวดเป็นปมลง แต่ก็ไม่ได้สั่งให้หยุด
หากปล่อยให้เรื่องวันนี้ผ่านพ้นไปง่าย ๆ ครั้งหน้าถ้าแม่สาวแสบนี่เกิดทำอะไรไม่คิดถึงผลที่จะตามมา จนตกอยู่ในอันตรายเข้าจะทำอย่างไรล่ะ?
"จวินหย่วนโยว นี่หัวของเจ้าโดนประตูหนีบจนใช้การไม่ได้ไปแล้วรึ? คนทำผิดคือข้า ถ้าเจ้าจะลงโทษ ก็ควรลงโทษข้าถึงจะถูก" หยุนถิงพูดด้วยความโกรธจัด หันหลังแล้ววิ่งออกไปทันที
ในสวน หลงเอ้อสวมเพียงเสื้อตัวในชั้นเดียว บนเสื้อสีขาวตัวนั้นปรากฏรอยเลือดสองรอยเด่นหรา คนที่ถือแส้อยู่ก็คือหลิงเฟิง
เขาไม่กล้าขัดคำสั่งของซื่อจื่อ แต่เขาก็ทำใจเฆี่ยนหลงเอ้อไม่ได้ ดังนั้นจึงเฆี่ยนไปเพียงสองครั้ง
"หยุดนะ!" หยุนถิงรีบพุ่งเข้ามาทันที
หลิงเฟิงรีบทำความเคารพ "คารวะฮูหยิน"
“ฮูหยิน ข้าไม่เป็นไรขอรับ เรื่องวันนี้เป็นข้าที่คิดการณ์ไม่รอบคอบเอง ซื่อจื่อก็เป็นห่วงความปลอดภัยของท่านด้วย ข้าทนได้ขอรับ” หลงเอ้อรีบชิงเป็นฝ่ายเอ่ยปากก่อน
“ไม่ได้ เรื่องในวันนี้เพราะข้าเป็นต้นเหตุ หากจะลงโทษก็ควรลงโทษข้าด้วย” หยุนถิงเข้าไปยืนอยู่ตรงหน้าหลงเอ้อ
หลิงเฟิงย่อมไม่กล้าลงโทษหยุนถิงเป็นธรรมดา จึงรีบไปขอการตัดสินใจจากซื่อจื่อ
จวินหย่วนโยวได้ยินนางพูดแบบนี้ รูม่านตาสีดำสนิทนั้นก็หรี่ลงเล็กน้อย เขาคิดไม่ถึงว่าหยุนถิงจะทำเพื่อหลงเอ้อขนาดนี้ "ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ก็ถือว่าช่างมันเถอะ ครั้งนี้ยกเว้นให้ ครั้งต่อไปอย่าได้ทำอีก"
“ขอรับ ซื่อจื่อ” หลิงเฟิงออกไปทันที
พ่อบ้านรีบเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว "ซื่อจื่อ ท่านเป็นห่วงฮูหยินทำไมไม่บอกนางไปตรง ๆ ล่ะ? ทำแบบนี้นางจะเข้าใจท่านผิดได้นะ"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ
อัพต่อด้วยจ้า...
รอตอนต่อจ้า...
แต่ละบทที่่อ่านแล้ว ควรมีสีหรือเครื่องหมายที่แตกต่างกัน ผู้อ่านจะได้ทราบว่าเรืื่องนี้อ่านไปถึงบทไหนแล้ว...
รำคานโฆษณาที่เลื่อนเข้ามา เข้าใจได้ว่าต้องหารายได้ แต่ควรนำไปวางไว้ด้านล่างสุด ไม่ด้านซ้ายก็ด้านขวา จะได้ไม่เสียอารมณ์ในการอ่าน ปกติโฆษณาที่อยู่ระหว่างหน้าก็ใหญ่และมากอยู่แล้ว...
ขอร้องทงทีมงานช่วยอัพเดทจนจบด้วยนะคะ😭😭😭😭😭...
เรื่องนี้ทางทีมงานจะอัพเดทต่อมั้ยค่ะ😭...
รอตอนใหม่อยู่นะคะ😭🙏🏻...
เมื่อไหร่จะอัพเพิ่มค่ะหายไปเป็นเดือนแล้วนะ...
รอค่ะ ตามเรื่องนี้มานานมาก อัพตอนต่อจาก 1070 ให้หน่อยค่ะ...
สนุกมากค่ะ รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะรบกวนลงต่อให้จบด้วยค่ะ กำลังสนุก...