“ไม่ใช่อยู่แล้ว ความเป็นความตายของเขาเกี่ยวอะไรกับข้าด้วย ข้าก็แค่รู้สึกว่ามันผิดปกติก็เลยพูดออกมาเท่านั้น อันที่จริงก็ไม่สมควรพูดหรอก ถ้าหากลูกในท้องของฟ่านเสี่ยรั่ว ไม่ใช่ของโม่ฉือหานจริงๆ เช่นนั้นเขาก็ช่วยเลี้ยงลูกชายให้คนอื่น
รอให้เขารู้ตอนที่แก่แล้วว่าลูกชายที่ตัวเองเลี้ยงดูมาหลายสิบปี ให้ความสำคัญเช่นนี้เป็นลูกของคนอื่น โม่ฉือหานจะไม่อกแตกตายหรอกหรือ แค่คิดก็สาแก่ใจแล้ว
ซื่อจื่อ ท่านว่าข้าร้ายเกินไปหรือไม่ ข้าก็แค่พูดไปเช่นนี้นี่แหละ บางทีข้าอาจจะแค่คิดมากไปเท่านั้น” หยุนถิงตอบ
“ถ้าหากเป็นเช่นนั้นจริงๆ นั่นก็เป็นเพราะโม่ฉือหานหาเรื่องใส่ตัวเอง สมน้ำหน้า” จวินหย่วนโยวตอบอย่างแข็งกร้าว “องค์หญิงใหญ่แห่งแคว้นเทียนจิ่วเข้าวังมาแล้ว ระยะนี้เจ้าต้องระวังตัวให้มากๆ ข้ากลัวว่านางจะลงมือกับเจ้าอย่างลับๆ!”
“ตกลง ข้าจะจำเอาไว้” หยุนถิงพยักหน้า
........................
แคว้นชางเยว่
ฮ่องเต้ออกมาส่งด้วยพระองค์เอง ชางหลันเย่พาเซียวซ่างซูและคนอื่นๆออกจากพระราชวัง มุ่งหน้าไปที่เมืองหวู่หนิง
ระหว่างทางเซียวซ่างซูสุภาพและให้เกียรติชางหลันเย่ตลอดทาง ประจบประแจงเอาใจอย่างมาก
และชางหลันเย่ก็ถ่อมตนและสุภาพมากเช่นกัน ทุกคนเข้ากันได้ดีตลอดทาง
วันนี้ ชางหลันเย่และคนอื่นๆผ่านที่พักเปลี่ยนม้าแห่งหนึ่ง ทุกคนเร่งเดินทางตลอดทั้งบ่าย ล้วนกระหายน้ำกันแล้ว จึงอยู่พักผ่อนที่นี่
เสี่ยวเอ้อกับผู้จัดการร้านกระตือรือร้นอย่างยิ่ง รีบยกชาสมุนไพรมาทันที
ชางหลันเย่กำลังจะดื่ม เจว๋เฟิงก็ขวางเขาเอาไว้ทันที “ไท่จื่อระวังด้วย!” ขณะที่กล่าวไป ก็หยิบเข็มเงินออกมาทดสอบพิษ
เมื่อเห็นว่าเข็มเงินนั่นไม่ได้เปลี่ยนสี เจว๋เฟิงถึงได้โล่งใจไปเปลาะหนึ่ง “ไท่จื่อ ดื่มได้แล้ว!”
“องครักษ์เจว๋เฟิงรอบคอบจริงๆ ไท่จื่อเชิญดื่มชา!” เซียวซ่างซูกล่าวด้วยความเคารพนบนอบ
“เซียวซ่างซูก็เชิญดื่มเถอะ” ชางหลันเย่กล่าวพร้อมกับยกชาสมุนไพรขึ้นและเงยหน้าดื่มลงไป
เซียวซ่างซูมองดูชางหลันเย่ดื่มลงไปจนหมด นัยน์ตามีความบรรลุผลแว๊บผ่านไปเล็กน้อย ยกน้ำชาขึ้นมาใช้แขนเสื้อบังเอาไว้ จิบเบาๆคำหนึ่งก็วางมันลง
“จู่ๆข้าก็รู้สึกไม่สบายท้อง อยากจะไปห้องน้ำ” เซียวซ่างซูเอ่ยปาก
“เช่นนั้นก็ไปเถอะ!”
“ขอรับ!” เซียวซ่างซูลุกขึ้นก็จากไป
สีหน้าของเจว๋เฟิงเคร่งขรึมทันที มองไปทางชางหลันเย่ “ซื่อจื่อ ตาแก่คนนี้ต้องรู้ว่ามีซุ่มโจมตีแน่นอน ตอนนี้ควรทำอย่างไรดี?”
“ใช้แผนซ้อนแผน!” ชางหลันเย่กล่าวอย่างเย็นชาประโยคหนึ่ง จากนั้นก็นอนคว่ำลงไป
เจว๋เฟิงเห็นดังนั้น ก็ส่งสายตาให้กับทุกคน จากนั้นทุกคนก็ล้มลง
เมื่อผู้จัดการและบ่าวรับใช้ชายของที่พักเปลี่ยนม้าเห็น ก็ได้ใจอย่างมาก ยังจงใจเดินเข้ามาเรียกไท่จื่อสองคำ เห็นชางหลันเย่ไม่มีปฏิกิริยา ผู้จัดการก็ส่งสัญญาณมือให้กับคนที่ดักซุ่มอยู่ในที่ลับ คนพวกนั้นก็วิ่งออกมาทันที
“เป็นถึงไท่จื่อก็แค่นี้เอง พี่น้องทั้งหลายฆ่าให้หมด อย่าให้เหลือแม้แต่คนเดียว!” คนที่เป็นผู้นำออกคำสั่งอย่างเย็นชา
“ขอรับ!” ผู้ใต้บังคับบัญชาถือกระบี่วิ่งเข้ามาทันที
แต่พวกเขายังไม่ทันได้แตะบรรดาทหารพวกนั้น จู่ๆบรรดาทหารทั้งหมดที่นอนคว่ำอยู่ก็ลุกขึ้นมา กระบี่ยาวที่อยู่ในมือแทงไปทางคนที่ลอบโจมตีพวกนั้นอย่างแรง
คนที่ลอบโจมตีคิดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นเช่นนี้ ทุกคนล้วนไม่ทันได้ระวัง แค่ชั่วพริบตาเดียวก็ตายไปเกือบครึ่ง
“แย่แล้ว มีกับดัก ชางหลันเย่ทำไมพวกเจ้าถึงไม่เป็นไร นี่มันเป็นไปได้อย่างไร?” คนที่เป็นผู้นำตกตะลึงอย่างยิ่ง
“ทุกคนจับเป็น จะต้องถามหาผู้อยู่เบื้องหลังออกมาให้ได้!” เจว๋เฟิงกล่าวอย่างเย็นชา
บรรดาทหารมีความมั่นใจขึ้นมาทันที ต่อสู้กับคนที่ลอบโจมตีพวกนั้น
และทางด้านนี้ เซียวซ่างซูที่เข้าห้องน้ำอยู่ฟังเสียงการต่อสู้และเสียงกรีดร้องด้านหน้า ใบหน้าเต็มไปด้วยความได้ใจ
เขากระโดดข้ามกำแพงด้านหลังห้องน้ำจากไปโดยตรง เพราะรูปร่างอ้วนท้วน ในเวลาปกติก็ไม่ค่อยได้ออกกำลังเท่าไหร่ คนทั้งคนของเซียวซ่างซูร่วงลงมาจากบนกำแพง
“แม่เอ้ยในที่สุดข้าก็หนีรอดจากสายตาของไท่จื่อได้สักที ถุย ไท่จื่อบ้าบออะไรกัน ล่วงเกินหยางเฟย ดูสิว่าเจ้ายังจะได้ใจอะไรอีก ผ่านวันนี้ไปแล้ว แคว้นชางเยว่ก็จะไม่มีไท่จื่ออย่างเจ้าอีก ตายที่แคว้นต้าเยียนตั้งแต่แรกดีแค่ไหน จะต้องสร้างเรื่องพวกนี้ขึ้นมาให้ได้ ทำให้ข้าต้องรับความลำบากไปกับเจ้าด้วย น่าชิงชังนัก!” เซียวซ่างซูบ่นพร้อมกับลุกขึ้นมาจากพื้น เดินจากไปอย่างวางมาด
เพียงแต่ว่าเขายังเดินไปไม่ถึงสิบเมตร คนชุดดำสองคนก็ปรากฏตัวขึ้นมา กระบี่ยาวที่อยู่ในมือพาดอยู่บนคอของเขา
“เซียวซ่างซูกำลังจะไปไหนหรือ?” หนึ่งในนั้นถามขึ้นมาอย่างเย็นชา
เซียวซ่างซูตกใจจนสีหน้าซีดขาว เขารู้แผนการของหยางเฟยดังนั้นถึงได้หนีออกมาก่อนล่วงหน้า
“ผู้กล้าไว้ชีวิตด้วย คนกันเองทั้งนั้น อย่าได้เข้าใจผิดกันเด็ดขาด ไท่จื่ออยู่ที่โรงน้ำชาข้างหน้า เขาดื่มชาสมุนไพรที่วางยาพิษลงไปแล้ว พวกเจ้าไปตอนนี้เวลากำลังดี” เซียวซ่างซูทรยศไท่จื่อโดยตรง
“พวกเราไม่ได้หาไท่จื่อ หาเจ้าต่างหาก!” หนึ่งในคนชุดดำเอ่ยปากขึ้นมา
“หรือว่าหยางเฟยให้พวกเจ้ามารับข้ากลับไป หยางเฟยช่างเกรงใจจริงๆ คิดเพื่อข้าเช่นนี้------” คำพูดของเซียวซ่างซูยังไม่ทันได้พูดจบ กระบี่ของหนึ่งในคนชุดดำก็แทงไปที่ไหล่ของเซียวซ่างซู
“อ๊าก! บัดซบ พวกเจ้าถึงกับแทงข้า ข้าเป็นคนของหยางเฟยเชียวนะ!” เซียวซ่างซูเจ็บจนแยกเขี้ยวยิงฟัน เจ็บปวดจนไม่อยากจะมีชีวิตอยู่ต่อ
“เหนียงเหนียงบอกแล้วว่า เจ้ารู้มากเกินไปแล้ว ไท่จื่อถูกลอบสังหารแต่เจ้ากลับมีชีวิตรอด ยากที่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้คนสงสัย ดังนั้นเหนียงเหนียงตัดสินใจส่งเจ้าไปลงนรก ให้เจ้าอยู่เป็นเพื่อนกับไท่จื่อ!” คนชุดดำกล่าวพร้อมกับดึงกระบี่ยาวออกมา และแทงเข้าไปอีกครั้ง
ทีนี้เซียวซ่างซูตกตะลึงไปอย่างสิ้นเชิง “เหนียงเหนียงถึงกับจะฆ่าข้า นางพูดจากลับกลอกเช่นนี้ได้อย่างไร นางรับปากแล้วแท้ๆว่าถ้าข้ากำจัดไท่จื่อไปได้จะให้ตำแหน่งราชการในระดับสูงเงินเดือนมากๆแก่ข้า------”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ
อัพต่อด้วยจ้า...
รอตอนต่อจ้า...
แต่ละบทที่่อ่านแล้ว ควรมีสีหรือเครื่องหมายที่แตกต่างกัน ผู้อ่านจะได้ทราบว่าเรืื่องนี้อ่านไปถึงบทไหนแล้ว...
รำคานโฆษณาที่เลื่อนเข้ามา เข้าใจได้ว่าต้องหารายได้ แต่ควรนำไปวางไว้ด้านล่างสุด ไม่ด้านซ้ายก็ด้านขวา จะได้ไม่เสียอารมณ์ในการอ่าน ปกติโฆษณาที่อยู่ระหว่างหน้าก็ใหญ่และมากอยู่แล้ว...
ขอร้องทงทีมงานช่วยอัพเดทจนจบด้วยนะคะ😭😭😭😭😭...
เรื่องนี้ทางทีมงานจะอัพเดทต่อมั้ยค่ะ😭...
รอตอนใหม่อยู่นะคะ😭🙏🏻...
เมื่อไหร่จะอัพเพิ่มค่ะหายไปเป็นเดือนแล้วนะ...
รอค่ะ ตามเรื่องนี้มานานมาก อัพตอนต่อจาก 1070 ให้หน่อยค่ะ...
สนุกมากค่ะ รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะรบกวนลงต่อให้จบด้วยค่ะ กำลังสนุก...