จอมนางข้ามพิภพ นิยาย บท 535

องค์หญิงซินฉิงมึนงงไปทั้งตัวเลย จ้องมองขาหมูที่มันเยิ้มในมือ ในสมองก็ว่างเปล่าไปหมด

ตั้งแต่ที่นางหน้าตาน่าเกลียดแล้ว สามปีมานี้คนอื่นปฏิบัติกับนางถ้าไม่ใช่ขยะแขยงกับรังเกียจ ก็จะคอยหลบหลีกไปให้ไกล ยังไม่เคยมีใครให้ของกับนางมาก่อนเลย

นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนมอบขาหมูให้กับนาง ถึงแม้ว่าองค์หญิงซินฉิงจะไม่เคยกินของมัน ๆ มาก่อน แต่วินาทีนี้ในใจนางก็ยังรู้สึกอบอุ่นขึ้นมา

“องค์หญิงของเราไม่เคย……” สาวใช้หยวนเอ๋อร์ยังพูดไม่ทันจบ ก็ถูกองค์หญิงซินฉิงพูดขัดขึ้นซะก่อน

“หยวนเอ๋อร์ห้ามเสียมารยาท ขอบใจท่านมาก!” องค์หญิงซินฉิงพูดขึ้น

“ไม่ต้องเกรงใจอะไรกับข้าหรอก ข้าชื่อรั่วจิ่ง ต่อไปท่านมีเรื่องอะไรก็มาบอกข้า ในจวนซื่อจื่อนี้นอกจากซื่อจื่อกับซื่อจื่อเฟยแล้ว คนอื่น ๆ ก็ต้องฟังข้าทั้งนั้น!” รั่วจิ่งพูดขึ้นมาอย่างได้ใจ

“รั่วจิ่งไอ้เจ้าเด็กชั่ว ไปขโมยขาหมูในครัวอีกแล้วใช่ไหม ไสหัวออกมาให้ข้าเดี๋ยวนี้นะ!” พ่อบ้านตะโกนเสียงดังออกมาอย่างโกรธเคือง

รั่วจิ่งตกใจจนสะดุ้ง แล้วมองไปที่องค์หญิงซินฉิงอย่างเขินอาย “ท่านรีบเอาขาหมูอันนี้ซ่อนเอาไว้!” พูดจบ ก็วิ่งหนีหายวับไปเลย

พ่อบ้านวิ่งตามมา ก็ไม่เห็นเงาของรั่วจิ่งแล้ว “ไอ้เด็กบ้านี่ กล้าหัดวิ่งหนีด้วยหรือ คอยดูซิว่าข้าจะฟ้องเรื่องนี้กับซื่อจื่อยังไง”

“พ่อบ้าน!” องค์หญิงซินฉิงเอาขาหมูยื่นไปให้

พ่อบ้านนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง แล้วรีบทำความเคารพขึ้นมา “บ่าวขอคารวะองค์หญิงสาม อันนี้คือ?”

“รั่วจิ่งเห็นว่าข้าหน้าตาน่าเกลียด ก็เลยให้อันนี้กับข้า แต่ข้าไม่ได้กิน แค่รับไว้เฉย ๆ ถ้าพ่อบ้านไม่รังเกียจ ก็คืนให้ท่านก็แล้วกัน!” องค์หญิงซินฉิงตอบกลับไป

“ไม่ต้องหรอกองค์หญิงสาม ในเมื่อรั่วจิ่งให้ไปแล้ว ท่านก็รับไว้เถอะ เดี๋ยวบ่าวให้คนทำใหม่ก็พอแล้ว!” พ่อบ้านเปิดปากพูดขึ้นมาอย่างนอบน้อม

“ขอถามหน่อยนะ พ่อบ้าน ขาหมูนี่มีอะไรเป็นพิเศษหรือ?”

“ทูลองค์หญิงสาม นี่คือของที่ซื่อจื่อเฟยของเราชอบกินที่สุด เป็นสูตรลับที่โก่วตั่งวิเคราะห์มาตั้งครึ่งเดือน ซึ่งรสชาติอร่อยมาก ทั้งสี่แคว้นหาเจ้าที่สองไม่ได้แล้ว ดังนั้นซื่อจื่อจึงสั่งให้เตรียมไว้เสมอ ถ้าเกิดซื่อจื่อเฟยอยากกินขึ้นมาจะได้ยกไปให้ได้ทุกเมื่อ ถึงแม้ช่วงนี้ซื่อจื่อเฟยจะไม่ค่อยกินเท่าไหร่ และกลายเป็นลาภปากของพวกเราไป แต่ก็ต้องเตรียมไว้เสมอ แล้วอันเมื่อกี้ก็เป็นอันสุดท้ายแล้ว ถ้าจะทำใหม่ก็ต้องใช้เวลาหลายชั่วยามเลย” พ่อบ้านตอบกลับมา

องค์หญิงซินฉิงรู้สึกอิจฉาเป็นอย่างมาก “จวินซื่อจื่อรักซื่อจื่อเฟยขนาดนี้ ช่างทำให้คนรู้สึกอิจฉาจริง ๆ”

“เชิญองค์หญิงตามสบาย บ่าวต้องขอตัวก่อนแล้ว” พ่อบ้านรีบผละตัวไปทำงานต่อ

องค์หญิงสามกลับมาที่ห้องของตัวเอง จ้องมองขาหมูไป ในเมื่อจวินหย่วนโยวบอกให้เตรียมไว้ให้หยุนถิง คาดว่ารสชาติจะต้องดีมากแน่ ๆ องค์หญิงซินฉิงจึงอดไม่ได้จนต้องกินไปคำหนึ่ง

รสชาตินี้ มันดีมากจริง ๆ

“เจ้าลองชิมดูซิ รสชาติดีมากเลย” องค์หญิงซินฉิงฉีกออกมาชิ้นหนึ่งแล้วยื่นมาให้หยวนเอ๋อร์

“ไม่ต้องหรอกองค์หญิง บ่าวจะไปกินชิ้นเดียวกันกับท่านได้ยังไง”

“นี่มันชิ้นสุดท้ายของจวนซื่อจื่อแล้วนะ และที่สำคัญยังเป็นของที่หยุนถิงชอบกินที่สุดด้วย เจ้าจะไม่ลองชิมจริง ๆ หรือ?” องค์หญิงซินฉิงตั้งใจถามขึ้นมา

หยวนเอ๋อร์ลังเลไม่แน่ใจไปครู่หนึ่ง คาดว่าชีวิตนี้คงจะมีแค่ครั้งนี้ครั้งเดียวแล้ว ขนาดซื่อจื่อเฟยยังชอบกินเลย จะต้องรสชาติดีมากแน่ ๆ

“องค์หญิง งั้นบ่าวขอลองชิมหน่อยนะเจ้าคะ” หยวนเอ๋อร์พูดแล้วก็ยื่นมือมารับไป พอกินไปคำหนึ่ง ก็เบิกตากว้างขึ้นมาทันที และรู้สึกซาบซึ้งเป็นอย่างมาก

“องค์หญิง นี่มันช่างอร่อยเกินไปแล้วมั้ง”

“ข้าพูดถูกใช่ไหมล่ะ” แล้วองค์หญิงซินฉิงฉีกก็ออกมาอีกชิ้น สองนายบ่าวกินกันอย่างเอร็ดอร่อยไป แล้วก็กินขาหมูชิ้นใหญ่ไปทั้งอย่างนี้

……

แคว้นชางเยว่

“กวาดพื้น ตักน้ำ ทำกับข้าว เก็บกวาดห้อง……สรุปก็คือทำงานทุกอย่างในบ้าน ถ้ากล้าอู้งาน ข้าจะซ้อมเจ้าให้ตายแน่!” หญิงอ้วนเดินตรงไปที่เก้าอี้หินในสวน แล้วก็นั่งแคะเมล็ดทานตะวันไป

เซียวซ่างซูลากขาข้างหนึ่ง คลานกวาดพื้นไป ซึ่งเป็นเรื่องน่าสังเวชมาก

วินาทีนี้ เขารู้สึกเสียใจขึ้นมาแล้วจริง ๆ ทำไมตัวเองถึงไปร่วมมือกับหยางเฟยได้ แล้วมาช่วยนางกำจัดไท่จื่อ พอคิดถึงองค์ไท่จื่อที่ปฏิบัติต่อตัวเองอย่างเคารพนอบน้อมมาตลอดทาง เซียวซ่างซูก็รู้สึกโกรธเกลียดเป็นอย่างมาก

บาปกรรมที่ตัวเองก่อไว้ หนีไม่พ้นหรอก

ส่วนชางหลันเย่ที่ปลอมแปลงกายก็เดินทางตลอดทั้งคืนจนมาถึงเมืองหวู่หนิงแล้ว พอเข้าเมืองมาก็จามออกมาทีหนึ่ง

“ฝ่าบาท ท่านเป็นหวัดแล้วใช่หรือเปล่า จะพักผ่อนสักหน่อยไหมพ่ะย่ะค่ะ?” เจว๋เฟิงถามขึ้นมาอย่างห่วงใย

“ไม่ต้อง ไม่เป็นไร พวกเรารีบไปที่วัดหนิงอานกันเถอะ” ชางหลันเย่พูดขึ้นมา

หลายปีมานี้ถึงแม้ว่าเขาจะมีชีวิตเหมือนหมูเหมือนหมาอยู่ในแคว้นต้าเยียน แต่ถึงช่วงกลางคืนที่ไร้ผู้คนก็จะฝึกฝนร่างกาย ร่างกายจึงน่าจะไม่อ่อนแอเช่นนี้ แน่นอนว่าชางหลันเย่คิดไม่ถึงอยู่แล้ว ว่าเซียวซ่างซูจะคิดร้ายกับเขาได้

ก่อนหน้านี้หยุนถิงส่งจดหมายมา บอกชื่อหมู่บ้านลับหลายแห่งในแคว้นชางเยว่ให้กับชางหลันเย่รู้ ดังนั้นก่อนที่ชางหลันเย่จะจากมา จึงให้ลูกน้องเอาตัวเซียวซ่างซูไปทิ้งไว้ที่หมู่บ้านลับแห่งหนึ่ง และตอนนี้หญิงอ้วนที่ทรมานเซียวซ่างซูอยู่ ก็เป็นคนของหยุนถิงพอดี

ที่วัดหนิงอาน

เจว๋เฟิงไปเคาะประตู ตอนที่คนเฝ้าประตูได้ยินว่าองค์ไท่จื่อมาแล้ว ก็รีบให้พวกเขาเข้ามา แล้วก็พาพวกเขาไปพบไท่เฟยด้วยตัวเองเลย

ไท่เฟยที่นอนพักผ่อนไปแล้ว พอได้ยินว่าชางหลันเย่มา ก็รู้สึกซาบซึ้งเป็นอย่างมาก แล้วรีบลุกขึ้นมาจากเตียง จากนั้นก็เอาเสื้อคลุมตัวหนึ่งมาคลุมตัวไว้ แล้วก็เดินออกมาเลย

วินาทีที่เห็นหน้าชางหลันเย่ ไท่เฟยก็ตื่นเต้นจนขอบตาแดงก่ำ “เย่เอ๋อร์ คือเจ้าจริง ๆ ด้วย รีบเดินเข้ามาใกล้หน่อย หลายปีมานี้ทำให้เจ้าลำบากมากจริง ๆ!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ