หลิ่วเฟยมองดูองค์หญิงใหญ่ที่โกรธจัด ก็รู้แล้วว่าโม่หลานทำให้นางหงุดหงิดโมโหมาก ปกติโม่หลานไม่รู้จักกาลเทศะจนเคยชิน ตอนนี้กลับทำให้คนรู้สึกสาแก่ใจจริงๆ
หลิ่วเฟยกลับมีสีหน้าเฉยเมย“ตอนนี้ฝ่าบาทยังไม่ได้สติ ก่อนที่จะหาตัวคนร้ายเจอใครก็ห้ามจากไป หวังว่าองค์หญิงใหญ่จะยกโทษให้ข้า
คนที่มาร่วมงานเลี้ยงมีมากเกินไป ห้องรับแขกล้วนเต็มแล้วจริงๆ หากองค์หญิงใหญ่ต้องการความสงบเงียบ ข้ากลับนึกถึงลานแห่งหนึ่ง เพียงแต่ว่าไม่มีคนอยู่เป็นเวลานานแล้ว ค่อนข้างรกร้างเล็กน้อย
“ขอเพียงไม่ต้องเห็นโม่หลานอีก ข้าอยู่ที่ไหนก็ได้ทั้งนั้น!” องค์หญิงใหญ่กล่าวด้วยความหงุดหงิดโมโห
“ตกลง ข้าจะให้คนไปเก็บกวาดเดี๋ยวนี้!”
ทางด้านนี้ เหมยเฟยดูแลฮ่องเต้มาทั้งคืน พูดคุยกับเขาทั้งคืน ฮ่องเต้ยังคงหมดสติอยู่ ไม่มีปฏิกิริยาใดๆเลย
นี่ทำให้เหมยเฟยกระวนกระวายใจแทบแย่ หมอหลวงหลิวมาจับชีพจรหลายต่อหลายครั้ง เขารักษาไม่ได้เลยด้วยซ้ำ ในเมื่อหมอยมบาลบอกให้รอ เช่นนั้นก็ได้แต่รอเท่านั้นแล้ว
และหยุนถิงตื่นขึ้นมาหลังจากที่นอนหลับไป เพียงแต่ว่าเอาแต่นอนเช่นนี้มันก็เหนื่อย นางฉวยโอกาสตอนที่ไม่มีคนสนใจดึงแขนเสื้อผ้าของจวินหย่วนโยวเบาๆ จากนั้นก็ใช้ริมฝีปากพูดโดยไม่มีเสียง
“กลับบ้าน!”
จวินหย่วนโยวเข้าใจในทันที อุ้มหยุนถิงขึ้นมาในแนวนอนก็จากไป
เหมยเฟยเห็นพวกเขาออกมา รู้สึกเป็นห่วงมาก“จวินซื่อจื่อ นี่เจ้าจะพาซื่อจื่อเฟยไปไหน?”
“กลับจวนซื่อจื่อ นางอยู่ที่นี่รู้สึกไม่อิสระ”
เหมยเฟยคิดแล้วก็รู้สึกว่ามันถูกต้อง อย่างไรเสียที่นี่ก็เป็นตำหนักด้านข้างของฮ่องเต้ เมื่อคืนสถานการณ์ฉุกเฉิน ฝ่าบาทเอ่ยปาก แต่หยุนถิงจะอยู่ที่นี่ตลอดไม่ได้เช่นกัน
“ดูแลซื่อจื่อเฟยให้ดี ข้าไม่สามารถปลีกตัวได้ ไม่ส่งแล้ว!” เหมยเฟยกล่าวด้วยความเป็นห่วง
“ตกลง!” จวินหย่วนโยวอุ้มคนเดินออกไป
คนทั้งพระราชวังล้วนไม่มีใครกล้าขัดขวางจวินซื่อจื่อ หลิ่วเฟยได้ยินว่าจวินหย่วนโยวพาหยุนถิงกลับไปแล้ว ก็ไม่ได้ว่าอะไร เพียงแต่ให้คนนำยาบำรุงกำลังและสมุนไพรล้ำค่าไปให้
และด้านนอกพระราชวังในคืนนี้กลับพลิกฟ้าพลิกแผ่นดิน โม่เหลิ่งเหยียนนำกองทหารหลวง หมิงจิ่วซางแอบนำบรรดาพี่น้องของหอดวงจันทร์อย่างลับๆ ทั้งสองกลุ่มร่วมมือกัน กำจัดฐานลับของแคว้นเทียนจิ่วทั้งหมดที่อยู่ในเมืองหลวงของแคว้นต้าเยียนในเวลาคืนเดียว
โม่ฉือหานไปตรวจค้นที่แปรพระราชฐาน ค้นหาทั่วทั้งแปรพระราชฐาน ไม่ปล่อยให้พลาดแม้แต่มุมเดียว แต่กลับหาพิษที่พูดถึงนั่นไม่เจอ
ความจริงในใจของโม่ฉือหานก็รู้ดีว่า องค์หญิงใหญ่แคว้นเทียนจิ่วเจ้าเล่ห์และอำมหิตที่สุด เป็นไปได้อย่างมากว่านางเป็นคนวางยาพิษ แต่หาหลักฐานไม่พบไม่สามารถตัดสินโทษของนางได้โดยตรง อย่างไรเสียเขาก็ไม่เคยเห็นยาเจ็ดวิญญาณมาก่อนเช่นกัน
จู่ๆห้องด้านข้างก็มีเสียงสิ่งของบางอย่างตกลงบนพื้นดังมา นัยน์ตาสีดำของโม่ฉือหานหรี่ลงเล็กน้อย นำกำลังมาเข้ามาทันที
แต่แล้วก็เห็นขวดเครื่องเคลือบขนาดเล็กวางอยู่บนพื้น ขวดยังคงหมุนอยู่ แสดงให้เห็นว่าเมื่อครู่มีคนจงใจทิ้งเอาไว้
องครักษ์นายหนึ่งรีบนำเข้ามาทันที“ท่านอ๋อง!”
โม่ฉือหานรับมา เปิดฝาออก และดมกลิ่นนั่น จากนั้นก็พลิกขวดคว่ำลงมา มองดูยาเม็ดสองเม็ดที่อยู่ข้างใน
ถึงแม้เขาจะไม่มีความรู้ด้านทักษะการแพทย์ และไม่เคยเห็นยาเจ็ดวิญญาณมาก่อน แต่เวลานี้เขามั่นใจอย่างยิ่งว่าสิ่งที่บรรจุอยู่ในขวดนี้คือยาเจ็ดวิญญาณ
คนที่รู้จักยานี้ ก็มีเพียงหยุนถิงคนเดียวเท่านั้นแล้ว
แต่หยุนถิงหมดสติอยู่ไม่ใช่หรือ โม่ฉือหานไม่เข้าใจ แต่กลับกำขวดเครื่องเคลือบที่อยู่ในมือเอาไว้แน่น
โม่ฉือหานรีบนำขวดเครื่องเคลือบนั่นกลับพระราชวังทันที มอบให้กับหมอหลวงหลิวด้วยตัวเอง หมอหลวงหลิวก็ไม่เคยเห็นยาเจ็ดวิญญาณมาก่อนเช่นกัน แต่ว่าดูจากสีแล้วมันคล้ายมากจริงๆ
โม่เหลิ่งเหยียนเสร็จธุระแล้วก็เข้าวัง ฟังโม่ฉือหานเล่าความเป็นมาของเหตุการณ์ ก็เดาออกแล้วว่าหยุนถิงให้คนส่งเข้าไป
“ไม่ว่ายานี่จะเป็นยาเจ็ดวิญญาณหรือไม่ ในเมื่อค้นได้จากแปรพระราชฐานขององค์หญิงใหญ่ ก็เพียงพอที่จะแสดงถึงความน่าสงสัยของนาง ข้าจะไปพบองค์หญิงใหญ่ด้วยตัวเอง!” โม่เหลิ่งเหยียนออกคำสั่งอย่างแสดงอำนาจ
“ตกลง!” โม่หลานตอบตกลงอย่างง่ายดาย
องค์หญิงใหญ่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง ดวงตาคู่สวยชำเลืองไปทางโม่ฉือชิงอย่างเฉียบคมและไม่แยแส“วิธีการยั่วยุใช้ไม่ได้กับข้า ตราพยัคฆ์เกี่ยวพันถึงกองทัพของแคว้นเทียนจิ่วข้า ข้าไม่มีทางให้เจ้าเด็ดขาด”
“หมายความว่า องค์หญิงใหญ่อยากกลับคำพูด พูดเหมือนกับผายลม?” โม่หลานถามกลับ
สีหน้าที่เดิมทีก็ไม่น่าดูขององค์หญิงใหญ่ เย็นยะเยือกราวกับน้ำแข็งในชั่วพริบตา“ผู้หญิงหยาบคายอย่างเจ้า ไร้การศึกษาเช่นนี้ ช่างน่าขายหน้าจริงๆ หลัวหรูจี๋ตบปากนางเดี๋ยวนี้!”
หลัวหรูจี๋ที่ยืนอยู่ด้านข้างตลอดกลืนน้ำลายโดยสัญชาตญาณ เขาเกรงกลัวความสามารถที่น่ากลัวของโม่หลาน แต่ก็ไม่กล้าขัดคำสั่งขององค์หญิงใหญ่ ได้แต่แสร้งทำเป็นเดินเข้าไปอย่างใจเย็น
ทันทีที่โม่ฉือชิงเห็นดังนั้น ก็ขวางอยู่ตรงหน้าของโม่หลานโดยสัญชาตญาณ“ไม่ต้องกลัว มีข้าอยู่!”
มุมปากของโม่หลานกระตุกขึ้นมา ไก่อ่อนอย่างเขายังคิดจะปกป้องตัวเอง น่าขำ แต่ว่าโม่หลานก็ไม่ได้พลักโม่ฉือชิงออก นางก็อยากเห็นเหมือนกันว่าโม่ฉือชิงจะ “ปกป้อง” ตัวเองอย่างไร
“เฉินอ๋อง โปรดหลีกไป!” หลัวหรูจี๋กล่าวอย่างมืดมน
“หากข้าไม่หลีกล่ะ?” ใบหน้าของโม่ฉือชิงตึงเครียด จริงจังอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
นี่เป็นครั้งแรกที่โม่หลานเห็นโม่ฉือชิงจริงจังเช่นนี้ แตกต่างจากเขาที่เอ้อระเหยลอยชาย ดูถูกเหยียดหยามชาวโลก ราวกับคนละกัน
จู่ๆนางก็รู้สึกว่า โม่ฉือชิงที่เป็นเช่นนี้ค่อนข้างหล่อเหลาเล็กน้อย
“จี้อวี๋!” องค์หญิงใหญ่ออกคำสั่งอย่างโกรธแค้น
จี้อวี๋เดินเข้ามาทันที โม่ฉือชิงตกใจแทบแย่ทันที หลัวหรูจี๋เป็นราชครูไม่มีวรยุทธ เขายังสามารถเอ็ดตะโรอย่างโอหัง แต่ความสามารถของจี้อวี๋กับโม่หลานสู้สีกัน โม่ฉือชิงขี้ขลาดในทันที
เห็นเพียงโม่ฉือชิงรีบซ่อนตัวไปด้านหลังของโม่หลาน ยังไม่ลืมจับแขนเสื้อของโม่หลาน“โม่หลาน พวกเขารังแกข้า!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ
อัพต่อด้วยจ้า...
รอตอนต่อจ้า...
แต่ละบทที่่อ่านแล้ว ควรมีสีหรือเครื่องหมายที่แตกต่างกัน ผู้อ่านจะได้ทราบว่าเรืื่องนี้อ่านไปถึงบทไหนแล้ว...
รำคานโฆษณาที่เลื่อนเข้ามา เข้าใจได้ว่าต้องหารายได้ แต่ควรนำไปวางไว้ด้านล่างสุด ไม่ด้านซ้ายก็ด้านขวา จะได้ไม่เสียอารมณ์ในการอ่าน ปกติโฆษณาที่อยู่ระหว่างหน้าก็ใหญ่และมากอยู่แล้ว...
ขอร้องทงทีมงานช่วยอัพเดทจนจบด้วยนะคะ😭😭😭😭😭...
เรื่องนี้ทางทีมงานจะอัพเดทต่อมั้ยค่ะ😭...
รอตอนใหม่อยู่นะคะ😭🙏🏻...
เมื่อไหร่จะอัพเพิ่มค่ะหายไปเป็นเดือนแล้วนะ...
รอค่ะ ตามเรื่องนี้มานานมาก อัพตอนต่อจาก 1070 ให้หน่อยค่ะ...
สนุกมากค่ะ รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะรบกวนลงต่อให้จบด้วยค่ะ กำลังสนุก...