ผู้คุมในคุกพอได้ยินเสียงร้อง ก็พากันไม่สนใจ คิดว่าเฟิ่งจาวหยีแกล้งทำ
เฟิ่งจาวหยีร้องเรียกอยู่นานก็ไม่มีคนมา ยิ่งเดือดดาลหนักขึ้น ร้อนใจนัก “ท่านพ่อ น้องพี่อดทนไว้นะ ข้าจะเรียกคนมาช่วยเอง
ใครก็ได้ ใครก็ได้ ท่านพ่อกับน้องชายของข้าเกิดเรื่องแล้ว หากพวกเขาเป็นอะไรไป ฝ่าบาทต้องไม่ปล่อยพวกเจ้าไปแน่ ใครก็ได้รีบมาเร็ว!”
ผู้คุมด้านนอกพอได้ยิน ถึงได้รู้สึกผิดสังเกต รีบมาดู สุดท้ายเห็นเฟิ่งไท่เว่ยและเฟิ่งหยวนนอนน้ำลายฟูมปากอยู่บนพื้น นอนหายใจรวยริน ก็พากันตกใจยิ่งนัก
“ยังไม่รีบไปรายงานอีก เกิดเรื่องกับไท่เว่ยขึ้นมา พวกเจ้ายากจะรอดตัวไปได้ หรือว่าพวกเจ้าอยากถูกตัดหัวรึ!” เฟิ่งจาวหยีตะคอกดังอย่างเดือดดาล
“เจ้ารีบไปกราบทูลหลิ่วเฟยเหนียงเหนียงเร็ว ข้าจะไปเชิญหมอหลวง!” ผู้คุมสองคนวิ่งออกไปอย่างลนลาน
“ท่านพ่อ น้องพี่พวกท่านอดทนไว้นะ หมอหลวงใกล้จะมาแล้ว!” เฟิ่งจาวหยีปลอบ
“ข้าไม่ไหวแล้ว ไม่คิดเลยจริงๆว่า ไท่เว่ยอย่างข้าสุดท้ายจะต้องมาตายในคุก น่าขันนัก ลูกสาวพ่อ เจ้าต้องอยู่ต่อไปให้ดีนะ ล้างแค้นให้พ่อกับเฟิ่งหยวน เจ้าเป็นความหวังเดียวของตระกูลเฟิ่งแล้ว ต่อไปเจอเรื่องใดห้ามวู่วามเด็ดขาด---“ เฟิ่งไท่เว่ยกำชับ
“ท่านพ่อ ท่านไม่เป็นอะไรดอก หมอหลวงกำลังมาแล้ว ท่านจะไม่เป็นไรแน่นอน!”
“ท่านพ่อ พี่หญิง ข้าไม่อยากตาย ข้ายังใช้ชีวิตไม่พอเลย พี่หญิงช่วยข้า---“ เฟิ่งหยวนพูดอย่างอ่อนแรง อยากจะยื่นมือไปจับเฟิ่งจาวหยี หากเขายังไม่ทันได้แตะโดนเสื้อผ้าเฟิ่งจาวหยี ก็ขาดใจตาย
“เฟิ่งหยวน เฟิ่งหยวน---“ เฟิ่งจาวหยีเรียกเสียงดัง
พอเฟิ่งไท่เว่ยเห็นลูกชายขาดใจตาย ก็โกรธจัดจนขาดใจตายตามไป
“ไม่ ท่านพ่อ เฟิ่งหยวน พวกท่านจะเป็นอะไรไปไม่ได้นะ พวกท่านจากไปแล้ว เหลือข้าคนเดียวจะทำยังไง ท่านพ่อ ท่านฟื้นสิ เฟิ่งหยวนเจ้าลุกขึ้นมา พวกท่านลุกขึ้นมาสิ---“ เฟิ่งจาวหยีกอดศพบนพื้น ร้องไห้แทบขาดใจ
นางคิดไม่ถึงเลยว่า ท่านพ่อและน้องชายจะจากตนไปเช่นนี้ ต่อไปนางจะไม่มีพ่อและน้องชายอีกแล้ว
องค์หญิงใหญ่ที่อยู่ในคุกฝั่งตรงข้ามเห็นภาพนี้ มีสีหน้าเย็นเยียบและเย้ยหยัน “เมื่อครู่ใครเหิมเกริมต่อหน้าข้ากัน ตอนนี้มากอดศพสองศพ น่าขันนัก!”
น้ำเสียงเสียดแก้วหูนัก
เฟิ่งจาวหยีที่กำลังเสียใจหนักหันขวับไปถลึงตามองอย่างเดือดดาล “เจ้าใช่หรือไม่ เจ้าให้คนมาฆ่าพ่อและน้องชายของข้า ต้องเป็นเจ้าแน่ หญิงอสรพิษเช่นเจ้า ข้าจะไม่ปล่อยเจ้าไว้แน่!”
“สมองเจ้าโดนลาถีบแล้วกระมัง ข้ารึจะฆ่าพ่อกับน้องชายเจ้า เจ้าคิดออกมาได้นะ ข้าได้ผลดีอะไร ขันทีน้อยเมื่อครู่นั่นบอกว่าแม่เจ้าให้เขามาส่งข้าว ถ้ามีคนวางยาพิษก็คือแม่เจ้าทำ!” องค์หญิงใหญ่บอกอย่างไม่แยแส
“เหลวไหล ท่านแม่ข้าไม่มีทางวางยาพิษแน่!” เฟิ่งจาวหยีปฏิเสธโดยไม่คิดเลยสักนิด พลางเหล่มองอาหารเหล่านั้น แล้วก็ตะลึงไป
อาหารพวกนั้นเป็นอาหารที่เฟิ่งไท่เว่ยและเฟิ่งหยวนชอบกินที่สุด หากมิใช่คนใกล้ชิด จะรู้ความชอบของพวกเขาได้อย่างไร
แต่ท่านแม่ไม่มีเหตุผลที่จะทำเช่นนี้นี่นา ไม่มีทางเป็นท่านแม่แน่ๆ
ใช่ ขันทีน้อยเมื่อครู่ ต้องเป็นมัน ขอเพียงจับตัวมันได้ก็จะสืบจนรู้ความได้แน่
หลิ่วเฟยนำหมอหลวงกับองครักษ์โขยงหนึ่งเร่งรุดมา พอเห็นเฟิ่งไท่เว่ยและเฟิ่งหยวนที่ขาดใจตายอยู่ที่พื้น หลิ่วเฟยสีหน้าเคร่งเครียดนัก “หมอหลวง รีบไปดูเร็ว!”
“พ่ะย่ะค่ะ!” หมอหลวงที่ตามมารีบรุดเข้าไป พวกเขาเอามืแตะชีพจรที่คอของเฟิ่งไท่เว่ยและเฟิ่งหยวน จากนั้นก็มีสีหน้าเคร่งเครียด
“เหนียงเหนียง เฟิ่งไท่เว่ยกับคุณชายใหญ่เฟิ่งชีพจรไม่เต้นแล้ว พวกเขาตายแล้ว!”
หลิ่วเฟยมองไป “บัดนี้ฝ่าบาทยังสลบอยู่ องค์หญิงใหญ่คงต้องอยู่สักระยะแล้วล่ะ!”
“ยังสลบอีก หากฮ่องเต้แคว้นต้าเยียนสลบไม่ฟื้น ข้ามิต้องโดนขังไม่ชั่วชีวิตรึ น่าตายนัก!” องค์หญิงใหญ่บอกอย่างกัดเขี้ยวเคี้ยวฟัน
“ตามหลักแล้ว เป็นเช่นนี้ ดังนั้นองค์หญิงใหญ่หวังให้ฝ่าบาททรงฟื้นเร็วขึ้นดีกว่านะ!” หลิ่วเฟยจะก้าวออกไป
“น่าตายนัก! หยุนถิงล่ะ นางเป็นอย่างใดบ้าง?” องค์หญิงใหญ่ถามออกมา
“ซื่อจื่อเฟยฟื้นนานแล้ว แข็งแรงดีมาก น่ากลัวว่าจะดีดพิณจิบชากินขนมอยู่ที่จวนซื่อจื่อกระมัง!” หลิ่วเฟยตอบ
เฟิ่งจาวหยีชะงักค้าง “เป็นไปได้อย่างไรกัน นางจะฟื้นขึ้นมาได้อย่างไร!”
“เหตุใดจะเป็นไปไม่ได้ เฟิ่งจาวหยีวางยาพิษซื่อจื่อเฟยจริงงั้นรึ?” สายตาเย็นเยียบของหลิ่วเฟยมองมา
เฟิ่งจาวหยีถึงรู้ตัวว่าเผยพิรุธออกไป รีบพูดว่า “หม่อมฉันแค่เห็นนางกระอักเลือดอย่างหนักในงานเลี้ยง เลยคิดว่านางคงต้องสลบไสลสักระยะ จู่ๆได้ยินว่านางฟื้นแล้ว เลยรู้สึกเหลือเชื่อ”
หลิ่วเฟยยิ้มเย็น “เรื่องไม่น่าเชื่อมีมากนัก เฟิ่งจาวหยี แทนที่จะเป็นห่วงคนอื่น สู้คิดดีกว่าว่าระยะนี้ทำให้ใครไม่พอใจ!” ทิ้งไว้เท่านั้น หลิ่วเฟยเดินออกไปทันที
สีหน้าเฟิ่งจาวหยีไม่น่าดูขั้นสุด ดวงตางามจ้องมององค์หญิงใหญ่ ไม่ยอมปล่อยสีหน้านางไปแม้เพียงน้อย “องค์หญิงใหญ่ เป็นเจ้าใช่หรือไม่?”
“ปัญญาอ่อน เจ้าดูไม่ออกรึว่านางจงใจยุแยงให้แตกคอ” องค์หญิงใหญ่มองมาอย่างเย้ยหยัน
“ทางที่ดีอย่าให้เป็นเจ้า มิเช่นนั้นต่อให้ข้าตายเป็นผีก็ไม่มีทางปล่อยเจ้าแน่!” เฟิ่งจาวหยีบอกอย่างกัดเขี้ยวเคี้ยวฟัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ
อัพต่อด้วยจ้า...
รอตอนต่อจ้า...
แต่ละบทที่่อ่านแล้ว ควรมีสีหรือเครื่องหมายที่แตกต่างกัน ผู้อ่านจะได้ทราบว่าเรืื่องนี้อ่านไปถึงบทไหนแล้ว...
รำคานโฆษณาที่เลื่อนเข้ามา เข้าใจได้ว่าต้องหารายได้ แต่ควรนำไปวางไว้ด้านล่างสุด ไม่ด้านซ้ายก็ด้านขวา จะได้ไม่เสียอารมณ์ในการอ่าน ปกติโฆษณาที่อยู่ระหว่างหน้าก็ใหญ่และมากอยู่แล้ว...
ขอร้องทงทีมงานช่วยอัพเดทจนจบด้วยนะคะ😭😭😭😭😭...
เรื่องนี้ทางทีมงานจะอัพเดทต่อมั้ยค่ะ😭...
รอตอนใหม่อยู่นะคะ😭🙏🏻...
เมื่อไหร่จะอัพเพิ่มค่ะหายไปเป็นเดือนแล้วนะ...
รอค่ะ ตามเรื่องนี้มานานมาก อัพตอนต่อจาก 1070 ให้หน่อยค่ะ...
สนุกมากค่ะ รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะรบกวนลงต่อให้จบด้วยค่ะ กำลังสนุก...