จอมนางข้ามพิภพ นิยาย บท 592

เสวี่ยเชียนโฉวสีหน้าเย็นชาทันที ดวงตาดำขลับมีแววอำมหิตทะมึน “เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”

“เรียนเจ้าอุทยาน ข้าน้อยมิทราบเลย จู่ๆก็ไฟไหม้ขึ้นมา ข้าน้อยก็รีบมารายงานทันทีเลย!” องครักษ์เองก็มีสีหน้างุนงง

อุทยานตระกูลเสวี่ยสร้างอยู่กลางทางขึ้นเขา รอบด้านรายล้อมไปด้วยน้ำ ในเรือนยิ่งจัดวางกลไกที่เรียกน้ำเข้ามาได้ คนของเรือนเองก็ระมัดระวังมาก ไม่เคยมีไฟไหม้หลายปีมาแล้ว

คิ้วงามเย็นชาของเสวี่ยเชียนโฉวเลิกขึ้นน้อยๆ “เมื่อครู่เจ้าบอกว่านังหนูนั่นถอดเสื้อผ้าคนรับใช้รึ?”

องครักษ์ลับพยักหน้าหงึกๆ “ใช่ขอรับ นังหนูนั่นหน้าตาไม่เลวเลย ตามหลักแล้วไม่ควรจะตะกละตะกลามปานนี้ หาคนรับใช้มากระทำ---“

“เจ้าโง่ ยังไม่รีบไปจับตาดูนังหนูนั่นอีก ข้าจะดูสิว่านางจะก่อเรื่องอะไรได้อีก!” เสวี่ยเชียนโฉวออกคำสั่งอย่างเย็นชา

องครักษ์ลับตะลึง “ความหมายของเจ้าอุทยานคือ นังหนูนั่นวางเพลิง?”

“ไม่อย่างนั้นเล่า!” เสวี่ยเชียนโฉวแค่นเสียงเย็น

องครักษ์เห็นหน้าดำทะมึนของเจ้าอุทยาน ก็ตกใจและพากันออกไปจับตาดูคนทันที

องครักษ์อดทอดถอนใจไม่ได้ นังหนูนี่ช่างใจกล้ามากจริงๆ กล้าวางเพลิงในอุทยานตระกูลเสวี่ย นางเป็นคนแรกเลย

เสวี่ยเชียนโฉวดวงตาแดงก่ำ ดูอำมหิตยิ่งนัก เส้นเลือดที่ขมับปูดโปน

นังหนูน่าตายนี่ช่างใจกล้าบังอาจนัก แต่คิดๆไปก็จริง กล้าขายเขาเข้าหอนางโลม นางยังมีอะไรไม่กล้าอีกกัน

เสวี่ยเชียนโฉวบาดเจ็บสาหัสสลบไสล เดิมยังซาบซึ้งที่หยุนหลีช่วยตนไว้ สุดท้ายพอเขาตื่นมา กลับพบว่านอนอยู่บนเตียงที่มีม่านไหมสีแดง บนร่างยังมีสตรีอวบอ้วนนั่งคร่อมอยู่ ใบหน้าอัปลักษณ์นัก เนื้อตัวท้วมอ้วน กำลังกระชากเสื้อผ้าเขาอย่างทุลักทุเล และยังเรียกเขาว่า ที่รัก----

เสวี่ยเชียนโฉวโกรธจนแทบสลบตาเหลือกกลับลงไป เจ้าอุทยานแห่งอุทยานตระกูลเสวี่ยเช่นเขากลับมาโดนสตรีอวบอ้วนผู้หนึ่งข่มขืน หากเรื่องนี้แพร่ออกไป เขาต้องกลายเป็นเรื่องตลกขบขันไปทั่วทั้งสี่แคว้นแน่

ตอนนั้นเสวี่ยเชียนโฉวเดือดดาลนัก ต่อให้บาดเจ็บสาหัส ก็ยังใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดซัดสตรีอวบอ้วนผู้นั้นกระเด็นไปทันที

โชคดีที่เจ๋ออวี่ซึ่งเป็นลูกน้องมาทันเวลา ช่วยเขาออกไปได้ ก่อนไปเสวี่ยเชียนโฉวยังให้เจ๋ออวี่จับแม่เล้ามาสอบสวน ถึงรู้ว่าหยุนหลีเอาตนมาขายแลกกับเงินหนึ่งหมื่นตำลึง

นี่เป็นเรื่องอัปยศที่สุดในชีวิตของเสวี่ยเชียนโฉว เขาเคียดแค้นสตรีอวบอ้วนผู้นั้นนัก และยิ่งแค้นหยุนหลี

นางกล้าเอาตนมาขายในสถานที่เช่นนี้ และยังขายไปหนึ่งหมื่นตำลึง เสวี่ยเชียนโฉวแค้นจนกัดฟันกรอด พอกลับมาถึงอุทยานก็รีบให้คนไปจับตัวหยุนหลีมาทันที

นังหนูน่าตายนี่ ดูสิว่าเขาจะจัดการกับนางยังไง

อีกด้าน องครักษ์ลับเหาะไปบนกำแพงหลายครั้ง หาไปกว่าครึ่งเรือน ในที่สุดก็พบหยุนหลี ตอนนี้นางมิได้แต่งกายอย่างคนรับใช้แล้ว แต่กลับใส่ชุดบุรุษ อย่าพูดไป นางแต่งกายเป็นชายแล้วดูหล่อเหลานัก ดูสบายตากว่าชุดคนรับใช้นั่นมากแล้ว

องครักษ์ลับส่ายหน้ารัวๆ ทำไมเขารู้สึกว่านังหนูนี่หล่อได้กันเล่า นางเป็นคนที่วางเพลิงอุทยานตระกูลเสวี่ยนะ

ตามหลักแล้ว นังหนูนี่สร้างความวุ่นวายแล้วไม่ใช่ว่าจะหนีรึ ทำไมยังอยู่ล่ะ เดี๋ยวก่อน เหตุใดนางไปทางนั้นเล่า นั่นเป็นเรือนของคุณหนูใหญ่นะ

นังหนูนี่หาเรื่องตายรึ

หยุนถิงพึ่งได้ยินคนรับใช้บอก คนที่รับมือลำบากที่สุดในจวนนี้ก็คือคุณหนูใหญ่ นางย่อมต้องไปดูสักหน่อยแล้ว

ในสวนดอกไม้ที่อยู่ห่างไปไม่ไกล สตรีชุดสีเหลืองห่าน ผมยาวสยายผู้หนึ่งกำลังสะบัดแส้ ฟาดลงไปที่ชายชุดสีฟ้าผู้หนึ่ง

ทั้งๆที่ชายผู้นั้นเจ็บปวดมาก จนหน้าซีดเผือด แต่กลับอดทนไว้ “หยาหย่า ข้ามิเป็นไร เจ้าฟาดต่อไปเถอะ ขอเพียงเจ้าพอใจก็พอ”

สตรีชุดเหลืองกลับไม่ใจอ่อนเลยสักนิด และไม่มีความสงสารเลยแม้แต่นิด แส้ในมือฟาดลงไปหนักขึ้น

องครักษ์ลับบนกำแพงเห็นหยุนหลีหลบไม่หยุด ถึงจะไม่มีอาวุธ แต่ก็สามารถหลบหลีกแส้ของคุณหนูใหญ่ได้อย่างง่ายดาย ก็อดเลื่อมใสฝีมือนังหนูนี่ไม่ได้

แต่ว่าเจ้าอุทยานสั่งว่าห้ามมิให้นังหนูนี่เป็นอะไรไปเด็ดขาด องครักษ์ลับไม่กล้าชักช้า รีบไปรายงานทันที

พอเสวี่ยเชียนโฉวได้ยินว่าหยุนหลีสู้กับรั่วหย่าขึ้นมา ก็ตกใจมาก ฝีมือในการก่อเรื่องของหยุนหลีผู้นี้ไม่น้อยเลยจริงๆ

รั่วหย่าเป็นลูกสาวคนเดียวของตระกูลเสวี่ย ได้รับความรักความโปรดปรานตั้งแต่เด็ก ย่อมเย่อหยิ่งเอาแต่ใจอยู่แล้ว วิชาแส้ของนางนั้นผู้อาวุโสใหญ่สั่งสอนมาเองกับมือ ยิ่งใช้ได้อย่างเชี่ยวชาญ

พอคิดว่าหยุนหลีไม่มีอาวุธ คิ้วเสวี่ยเชียนโฉวขมวดเล็กน้อย พุ่งออกไปทันที

เสวี่ยเชียนโฉวได้ยินเสียงหวีดร้องโหยหวนของสตรีแต่ไกล สีหน้าเสวี่ยเชียนโฉวยิ่งทะมึนมากขึ้น

ถึงการที่หยุนหลีขายตนไปหนึ่งหมื่นตำลึงจะทำเกินไปจริงๆ แต่อย่างไรนางก็เป็นน้องสาวของหยุนถิง ตอนนั้นในคุกหลวงหยุนถิงช่วยตนไว้ ต่อให้เสวี่ยเชียนโฉวจับตัวหยุนหลีกลับมา แต่ก็ไม่ได้คิดอยากเอาชีวิตนาง แค่ต้องการสั่งสอนนางเท่านั้น

ตอนนี้มาได้ยินเสียงร้องโหยหวน เสวี่ยเชียนโฉวพุ่งเท้าเข้าไปอย่างรวดเร็ว

แต่พอเห็นหน้าคนที่นอนกลิ้งเกลือกบนพื้นร้องโหยหวนชัด เขาก็ตกใจตะลึงไปเลย

เพราะว่าไม่ใช่หยุนหลี แต่เป็นเสวี่ยรั่วหย่าน้องสาวของเขา

ตอนนี้หยุนหลีกำลังสะบัดแส้ในมือ และฟาดลงไปที่เสวี่ยรั่วหย่าซึ่งนอนกลิ้งเกลือกบนพื้นอย่างไม่ยั้งมือ

“ข้าเกลีบดคนที่อาศัยอำนาจรังแกคนอ่อนแอกว่าที่สุด เจ้าฝึกยุทธ์น่ะได้ เป้ามีเยอะแยะไป ทำไมต้องใช้คนเป็นๆมาฝึกด้วย ต่อให้เขายินยอมเองก็ไม่ได้

เขาก็มีพ่อมีแม่เหมือนกัน และเป็นสมบัติล้ำค่าของพ่อแม่เขาเหมือนกัน เจ้าไม่มีสิทธิ์ไปทรมานคนอื่น วันนี้ข้าจะให้เจ้าจำให้ขึ้นใจว่า คนนั้นไม่มีสูงหรือต่ำ ทุกคนเท่าเทียมกัน!” หยุนหลีพูดอย่างโกรธจัด ใบหน้าตูมบึ้ง มันกลับทำให้เสวี่ยเชียนโฉวรู้สึกว่าน่ารักอย่างน่าประหลาด

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ