หยุนถิงก็ยื่นแขนออกไปกอดจวินหย่วนโยวกับลูก ครอบครัวสี่คนกอดกันอย่างมีความสุข
“ท่านพ่อ ท่านแม่” จวินเสี่ยวเทียนเรียก
“ท่านพ่อ ท่านแม่!” จวินเสี่ยวเหยียนกล่าวตาม
เมื่อเห็นท่าทางที่มีความสุขของลูกทั้งสอง หัวใจของจวินหย่วนโยวก็อบอุ่น ดีใจ และตื่นเต้น
"พ่ออยู่นี่ เสี่ยวเทียน เสี่ยวเหยียนงามยิ่งนัก เสี่ยวเทียนเหมือนข้า เสี่ยวเหยียนเหมือนเจ้า ในอนาคตลูกชายและลูกสาวของพวกข้าต้องหน้าตาดียิ่งนัก" จวินหย่วนโยวพูดชมเชย
"แน่นอนอยู่แล้ว ท่านกับข้าหน้าตาดีขนาดนี้ ลูกที่คลอดออกมาก็คงไม่เลวไปถึงไหนแน่นอน" หยุนถิงกล่าวอย่างได้ใจ
"ถิงเอ๋อร์พูดถูก"
จวินหย่วนโยวดูแลเด็กทั้งสองและเล่น ส่วนหยุนถิงก็มองดูอยู่ข้างๆ
ฉากพ่อลูกสามคนที่มีความสุขเช่นนี้ ทำให้หยุนถิงพอใจยิ่งนัก
ตอนทานอาหารกลางคืน ฮูเอ๋อเลี่ยให้ผู้คนจัดโต๊ะเป็นแถวยาว ด้านบนนั้นวางอาหารเอกลักษณ์ของชนเผ่าไว้มากมาย แถมยังใช้หม้อใบใหญ่ใส่มาด้วย
โดยเฉพาะกลิ่นของแพะย่างและเนื้อย่าง ทำเอาท่านลั่วหิวยิ่งนัก
"ขอบคุณสามีของจี๋ญ่าที่ให้สิ่งของมากมายแก่พวกข้า ทุกคนยกแก้วชามขึ้นพร้อมกัน เพื่อแสดงความขอบคุณ" ฮูเอ๋อเลี่ยยกชามใบใหญ่ขึ้น
ขณะที่จวินหย่วนโยวกำลังจะยกมันขึ้นมา ท่านลั่วที่อยู่ข้างๆก็ห้ามไว้"เจ้าหนูจวินร่างกายของเจ้าดื่มสุราไม่ได้"
"ไม่เป็นไร แค่ชามเดียว" หาถิงเอ๋อร์กับลูกเจอข้าดีใจยิ่งนัก ขอบคุณทุกคนที่ดูแลภรรยาและลูกของข้า ข้าขอดื่มหมดชามแสดงความเคารพ" จวินหย่วนโยวยกขึ้นมาแล้วจะดื่ม
แต่หยุนถิงกลับรับชามนั้นมา"สุขภาพของสามีข้าไม่ค่อยดี และไม่เหมาะที่จะดื่มสุรา ชามนี้ข้าดื่มแทนเขา" พูดจบก็ยกหัวขึ้นดื่มจนหมด
ทันใดนั้นฮูเอ๋อเลี่ยจึงค่อยตระหนักได้ว่า และรีบขอโทษ"คุณชายขอโทษด้วย ข้าไม่รู้ว่าเจ้าดื่มสุราไม่ได้ ตรงนี้มีนมแพะต้มสด เสี่ยวเทียนกับเสี่ยวเหยียนชอบดื่มที่สุดแล้ว เจ้าดื่มอันนี้" จากนั้นก็ยื่นเหยือกนมแพะมาให้
จวินหย่วนโยวรับมา"ขอบคุณ"
“คุณชายเกรงใจเกินไปแล้ว ทุกคนรีบเริ่มกินกันเถอะ” ฮูเอ๋อเลี่ยพูดอย่างกล้าหาญตรงไปตรงมา
หยุนถิงเข็นจวินหย่วนโยวออกไป"ซื่อจื่อที่นี่ไม่ได้มีธรรมเนียมปฏิบัติเยอะแยะอะไรขนาดนั้น ท่านดื่มได้ก็ดื่ม ดื่มไม่ได้ก็ไม่ต้องดื่ม ไม่มีใครมาตำหนิท่าน ทุกคนต่างก็เรียบง่ายเป็นกันเองยิ่งนัก
"อืม"
"ลองกินแพะย่างนี้ดูเร็ว นี่เป็นอาหารที่ป้าซางชำนาญที่สุดแล้ว" หยุนถิงใช้ดาบสั้นกรีดเนื้อชินหนึ่งแล้วยื่นมา
จวินหย่วนโยวเอื้อมมือไปรับแล้วกินดูหนึ่งคำ"อืม รสชาติดีมากจริง!"
คนอื่นๆต่างก็กินและดื่มกันใหญ่ ยากนักที่องครักษ์ลับจะได้มาในเผ่าสักครั้ง ในอดีตไปในเผ่าก็เพื่อไปทำภารกิจ จะไปมีอารมณ์ชิมของอร่อยได้อย่างไร ครั้งนี้เรียกได้ว่าได้กินอย่างอิ่มอกอิ่มใจเลย
ท่านลั่วถือเหยือกสุราไว้ กินไปด้วยดื่มไปด้วย สบายยิ่งนัก ทันใดนั้นก็รู้สึกว่าความเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางครึ่งเดือนนั้นไม่ได้เสียเปล่าเลย คุ้มค่ากับการกินนี้ยิ่งนัก
"แพะย่างทั้งตัวนี้อร่อยยิ่งนัก เหมือนกันที่ซื่อจื่อเฟยทำเลย” รั่วจิ่งกินไปด้วยพูดไปด้วย
“ ฝีมือการทำอาหารนี้ต้องเป็นซื่อจื่อเฟยสอนพวกเขาแน่” หลิงเฟิงก็กินอย่างเร็ว
รั่วจิ่งหยิบเนื้อแพะมาแล้วห่อด้วยผ้าเช็ดหน้า ทำเอาหลงยีขมวดคิ้ว"รั่วจิ่งเจ้าทำอะไร?"
"เอากลับไปให้หลันซานชิมดู นางคงไม่เคยกินได้กินมาก่อนแน่" รั่วจิ่งตอบ
“ไอ้โง่ รอเจ้าเอากลับไป เนื้อแพะก็เน่าแล้ว อีกอย่างซื่อจื่อเฟยกลับไปแล้ว แค่ทำธรรมดาๆก็มีอาหารอร่อยๆเต็มโต๊ะแล้ว ยังจำเป็นให้ต้องเจ้าเอากลับมาจากในเผ่าอีกหรือ” หลงซานโต้กลับ
รั่วจิ่งยิ้มอย่างเขินอาย"พูดถูก" จากนั้นเขาก็นำเนื้อแพะออกมาแล้วกินเอง
หยุนถิงรู้สึกขบขันรั่วจิ่งยิ่งนัก"รั่วจิ่งกับหลันซานเป็นอย่างไรบ้างแล้ว?"
คนอื่นๆ ที่อยู่ข้างๆต่างก็อิจฉายิ่งนัก ความสัมพันธ์ของจี๋ญ่ากับสามีนางดียิ่งนัก สามีของนางก็ดีมากเลย ยังป้อนข้าวให้จี๋ญ่าด้วย ว่าแล้วสามีของคนอื่นดีกว่า
เมื่อฮูเอ๋อเลี่ยเห็นเช่นนี้ ก็รู้สึกดีใจแทนจี๋ญ่า
เมื่อสองปีก่อน การปรากฏตัวอย่างกะทันหันของจี๋ญ่านั้น ได้ช่วยฮูเอ๋อเลี่ยเอาไว้ ฮูเอ๋อเลี่ยซาบซึ้งยิ่งนัก เห็นจี๋ญ่าเป็นผู้มีพระคุณ ครอบครัว น้องสาว
เห็นนางท้องโตแถมอยู่ตัวคนเดียวก็รู้สึกสงสารยิ่งนัก ดังนั้นฮูเอ๋อเลี่ยจึงดูแลจี๋ญ่าดีอย่างพิเศษ แถมยังอยากช่วยนางครอบครัวของนาง เพียงแต่ว่านางจำไม่ได้จึงไม่มีวิธีหา
แต่ตอนนี้เห็นสามีนางดีกับนางเช่นนี้ ฮูเอ๋อเลี่ยก็วางใจแล้ว
อาหารมื้อหนึ่งหยุนถิงไม่ได้ใช้ตะเกียบเลย ล้วนเป็นจวินหย่วนโยวป้อนนางกิน
หลังจากกินและดื่มจนอิ่มแล้ว หยุนถิงเห็นว่าลูกทั้งสองกำลังเล่นอย่างสนุกสนาน จึงไม่ได้รบกวน เข็นจวินหย่วนโยวแล้วไปทุ่งหญ้าในข้างๆแล้วดูดาว
"ท่านพี่ ดาวในชนเผ่านั้นสวยมาก พวกข้าไปดูกัน!" หยุนถิงกล่าว
"อืม!" จวินหย่วนโยวเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า
ท้องฟ้าเหนือเผ่านั้นมืดมาก เหมือนผ้าสีดำหนา ๆ แต่งแต้มด้วยจุดแสง ดาวที่ท้องฟ้าอยู่เต็มบนท้องฟ้านั้นสว่างไสวและส่องแสงระยิบระยับ ทำเอาคนดูรู้สึกผ่อนคลายยิ่งนัก
จวินหย่วนโยวไม่ได้ดูท้องฟ้ายามค่ำคืนมาเป็นเวลาสองปีแล้ว ก่อนหน้านี้หยุนถิงหายตัวไป เขาเหมือนกับคนไร้วิญญาณ วันๆเอาแต่คิดถึงและเป็นห่วงหยุนถิง จะไปมีอารมณ์ดูดาวได้อย่างไร
ขณะนี้เมื่อเห็นดาวที่สว่างไสวเช่นนี้ จวินหย่วนโยวก็รู้สึกตื่นเต้นยิ่งนักเขาเอื้อมมือไปดึงถิงเอ๋อร์เข้าอ้อมแขน ให้นางนั่งบนตักของตัวเอง
“อ๊ายย ซื่อจื่อไม่ได้ ขาของท่าน------” หยุนถิงพูดอย่างกังวล
"ไม่เป็นไร หากน้ำหนักแค่นี้ของเจ้าก็ยังแบกรับไม่ไหว ยังจะเป็นสามีของเจ้าได้อย่างไร" จวินหย่วนโยวพูดพร้อมกอดหยุนถิง"ถิงเอ๋อร์ ข้าคิดถึงเจ้ามาก"
เมื่อได้ยินประโยคนี้ หยุนถิงก็รู้สึกสะเทือนใจและปลื้มใจเป็นอย่างมาก สบกับตาที่มืดทึบของจวินหย่วนโยว "ท่านพี่ ข้าก็คิดถึงท่านเหมือนกัน"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ
อัพต่อด้วยจ้า...
รอตอนต่อจ้า...
แต่ละบทที่่อ่านแล้ว ควรมีสีหรือเครื่องหมายที่แตกต่างกัน ผู้อ่านจะได้ทราบว่าเรืื่องนี้อ่านไปถึงบทไหนแล้ว...
รำคานโฆษณาที่เลื่อนเข้ามา เข้าใจได้ว่าต้องหารายได้ แต่ควรนำไปวางไว้ด้านล่างสุด ไม่ด้านซ้ายก็ด้านขวา จะได้ไม่เสียอารมณ์ในการอ่าน ปกติโฆษณาที่อยู่ระหว่างหน้าก็ใหญ่และมากอยู่แล้ว...
ขอร้องทงทีมงานช่วยอัพเดทจนจบด้วยนะคะ😭😭😭😭😭...
เรื่องนี้ทางทีมงานจะอัพเดทต่อมั้ยค่ะ😭...
รอตอนใหม่อยู่นะคะ😭🙏🏻...
เมื่อไหร่จะอัพเพิ่มค่ะหายไปเป็นเดือนแล้วนะ...
รอค่ะ ตามเรื่องนี้มานานมาก อัพตอนต่อจาก 1070 ให้หน่อยค่ะ...
สนุกมากค่ะ รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะรบกวนลงต่อให้จบด้วยค่ะ กำลังสนุก...