จอมนางข้ามพิภพ นิยาย บท 744

ชางหลันเย่เดินขึ้นไปทีละก้าว ทุกการโขกศีรษะคำนับล้วนแต่ตั้งใจยิ่งนัก นี่เป็นเวลาที่เขาพิสูจน์ตนเองต่อหน้าชาวโลก และยิ่งเป็นการเชิดชูเกียรติให้เสด็จแม่ด้วย

ทั้งที่รู้ว่าเบื้องหน้าเป็นกับดักของชางเยว่หมิง แต่ชางหลันเย่ยังคงมุ่งมั่น สีหน้าเรียบเฉย เดินขึ้นไปทีละก้าว

ผ่านไปราวครึ่งชั่วยาม ในที่สุดชางหลันเย่ก็เดินไปถึงขั้นบนสุดของขั้นบันได ยังเหลือบันไดขั้นสุดท้าย ชางหลันเย่กำลังจะคุกเข่าลง ก็มีธนูมากมายยิงมาที่ชางหลันเย่

ชางหลันเย่หลบทันที แต่ขั้นบนสุดของขั้นบันไดไม่มีอะไรเลย ไม่มีที่ให้หลบเลย เขาไม่ทันระวังโดนไปหนึ่งดอก

“มีนัก---“ ขุนนางคนหนึ่งที่บันไดด้านล่างยังไม่ทันร้องออกมา ก็โดนชางเยว่หมิงซัดฝ่ามือใส่จนสลบไป

“ทำลายขวัญกำลังใจทหาร พวกเจ้าหลายคนยืนเฝ้าที่นี่ จะให้องครักษ์หลวงและกองทัพหลวงเข้ามาไม่ได้เด็ดขาด ไม่เช่นนั้นจะทำลายความโชคดีของแคว้นชางเยว่ คนอื่นตามข้าเข้าไปช่วยไท่จื่อ!” ชางเยว่หมิงแค่นเสียงเย็น

“พ่ะย่ะค่ะ!” ในหมู่ขุนนางที่เหลืออยู่ มีสองคนเป็นคนสนิทของชางเยว่หมิง พวกเขาเข้าร่วมแผนการลอบฆ่าครั้งนี้ ย่อมต้องกันทุกคนไว้ที่นี่อยู่แล้ว

ส่วนขุนนางคนอื่น ตามชางเยว่หมิงขึ้นไปช่วยคน ชิงเติงไต้ซือเองก็พาศิษย์วัดพุ่งขึ้นไปเช่นกัน

บนขั้นบันได เลือดสดไหลจากไหล่ชางหลันเย่ที่โดนธนูไปหนึ่งดอก เจ็บจนเขาขมวดคิ้ว รอบด้านไม่มีที่ให้หลบเลย เขาได้แต่เข้าไปในห้องโถงบรรพชน จากนั้นก็ปิดประตูลง

คนชุดดำหลายสิบคนพรวดเข้ามา มือถือกระบี่ยาวพุ่งเข้าไปในห้องโถงบรรพชน มีเสียงต่อสู้ดังออกมา ดุเดือดมาก

รอจนพวกชางเยว่หมิงวิ่งขึ้นขั้นบันไดมา ทุกอย่างก็เงียบสงบลง

บนพื้นมีธนูตกอยู่มากมาย และยังมีรอยเลือด ชางเยว่หมิงยิ้มมุมปากอย่างพอใจ

ดูท่าชางหลันเย่จะบาดเจ็บไม่น้อย

ชางเยว่หมิงรีบเปิดประตูห้องโถงบรรพชนทันที บนพื้นมีคนชุดดำล้มอยู่หลายคน เท่าที่ดูหมดลมหายใจแล้ว ส่วนชางหลันเย่นั่งพิงโต๊ะข้างๆหายใจรวยริน ร่างกายเต็มไปด้วยเลือด

“ไท่จื่อ ท่านเป็นอย่างไรบ้าง ใครก็ได้ ไปตามหมอหลวงมา เร็ว!” ชิงเติงไต้ซือพุ่งเข้ามาอย่างเป็นห่วง พยุงชางหลันเย่ให้ลุกขึ้น

แต่ชางเยว่หมิงกับขุนนางหลายคนที่ตามมากลับไม่ขยับตัวเลยสักนิด ได้แต่ยืนมองดูชางหลันเย่ที่บาดเจ็บสาหัสด้วยแววตาเย็นชา

“ชางหลันเย่ เจ้าคงไม่คิดว่าจะมีวันนี้กระมัง!” ชางเยว่หมิงแค่นเสียงหยัน

ชางหลันเย่สีหน้าซีดเผือด คิ้วขมวดมุ่น “เจ้าพูดเช่นนี้หมายความว่ากระไร หรือว่านักฆ่าพวกนั้นเจ้าเป็นคนส่งมารึ?”

“ใช่ ข้าส่งมาเอง”

ชางหลันเย่ตกตะลึง ชิงเติงไต้ซือยิ่งทำหน้ามึน “องค์ชายรอง เหตุใดท่านต้องส่งคนมาลอบฆ่าไท่จื่อด้วย ท่านทำร้ายพี่น้องเช่นนี้ หากฝ่าบาทรู้เข้า จะต้องไม่ละเว้นท่านแน่!”

ชางเยว่หมิงซัดฝ่ามือใส่จนชิงเติงไต้ซือลอยกระเด็นไป “ไสหัวไปเจ้าหัวโล้น ข้าทนเจ้ามานานแล้ว เจ้ารับผิดชอบห้องโถงบรรพชนมิใช่รึ ข้าบอกกล่าวเจ้าหลายครั้งให้เจ้าทูลเสด็จพ่อให้ข้ามาจัดพิธีขอพร เจ้ากลับไม่ยอมมาตลอด วันนี้ข้าจะฆ่าเจ้าด้วย!”

ชิงเติงไต้ซือโดนซัดลอยกระเด็นไปหลายเมตร ไปชนกับเสาเข้า ล้มลงพื้นอย่างแรง กระอักเลือดออกมาคำหนึ่ง ขยับตัวไม่ได้เลย

“แต่โบราณมาลำดับอาวุโสก่อนหลัง มีไท่จื่ออยู่วันหนึ่ง กฎของบรรพบุรุษก็ไม่อาจเพิกเฉยได้!” ชิงเติงไต้ซือทนความเจ็บปวดพูดออกมา

“ช่างปะไรกับกฎของบรรพบุรุษของเจ้าน่ะ สิ่งเหล่านี้ควรเป็นของข้า เจ้าก็แค่ตัวประกันคนหนึ่ง ไปอยู่แคว้นต้าเยียนสิบปี มีสิทธิ์อะไรมาแข่งกับข้า

ยังไม่รอชางเยว่หมิงพูดจบ ก็มีทหารมากมายปรากฏตัวขึ้นด้านนอกห้องโถงบรรพชน พอเห็นชุดเกราะบนร่างพวกเขาแล้ว ชางเยว่หมิงอึ้งกิมกี่ไปเลย

“พวกเขาคือ?”

“พวกเขาคือกองทัพเลือดเหล็กของข้า!” น้ำเสียงเย็นเยียบเดือดดาลดังขึ้นมาจากด้านใน มีขันทีสองคนพยุงฮ่องเต้เดินออกมา

วินาทีที่เห็นฮ่องเต้ ชางเยว่หมิงอยากตายฉับพลัน เขาอึ้งกิมกี่ไปเลย “เสด็จพ่อ เหตุใดท่าน?”

ฮ่องเต้เดือดดาลนัก เดินเข้ามาอย่างพยุงร่างอ่อนแอนั้น เขาตบหน้าชางเยว่หมิงฉาดใหญ่ด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มี

“เพี๊ยะ!” เสียงดังสนั่น สะท้อนไปทั่วห้องโถงบรรพชน

“เจ้าลูกทรพี กล้าทำร้ายพี่น้อง วางแผนลอบฆ่าไท่จื่อ ไม่สนใจดวงชะตาของแคว้นชางเยว่ กระทำการลอบฆ่าต่อหน้าป้ายวิญญาณบรรพชน ทำไมข้าจึงมีลูกชายสารเลวเช่นเจ้าได้ แค่กแค่ก!”

ชางเยว่หมิงตกใจตัวสั่น คุกเข่าลงพื้นทันที “เสด็จพ่อ ลูกผิดไปแล้ว ลูกเพียงแค่หน้ามืดตามัวไปชั่ววูบ ขอเสด็จพ่อยกโทษให้ลูกสักครั้งเถอะ ต่อไปลูกไม่กล้าอีกแล้ว!”

ชางเยว่หมิงรีบอ้อนวอนขอร้องทันที พลางเอื้อมมือคว้าจับชายชุดของฮ่องเต้ ทำตัวน่าสงสาร

แต่กลับโดนฮ่องเต้เตะกระเด็น “ไสหัวไป เจ้าลูกทรพียิ่งกว่าเดรัจฉานเสียอีก จิตใจชั่วร้ายอำมหิตเพียงนี้ กล้าให้ร้ายไท่จื่อ หากมิใช่ข้าได้ยินเองกับหู ก็คิดไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะกล้าทำเรื่องเลวระยำเสียยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉานเช่นนี้ออกมาได้”

“เสด็จพ่อโปรดอย่ากริ้วเลย ลูกสำนึกผิดแล้ว พวกเขาน่ะแหละ พวกเขาปั่นหัวลูก ขอเสด็จพ่อตรวจสอบด้วย นักฆ่าเหล่านั้นพวกเขาก็เป็นคนหามา ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับลูกเลยนะ ลูกแค่ปากไวไปเท่านั้นเอง!” ชางเยว่หมิงรีบผลักความรับผิดชอบทันที

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ