หน้าประตูจวนตระกูลฟู่
รถม้าจอดเรียงเต็มไปหมด ขุนนางตระกูลใหญ่ทั้งหมดในเมืองหลวง คุณหนูคุณชาย ขุนนางคนสำคัญกับครอบครัวล้วนมารวมตัวกันอยู่ที่นี่ คนเข้ามากันชุดแล้วชุดเล่า
รถม้าหลีอ๋องก็จอดตรงหน้าประตู โม่ฉือหานกับโม่ฉือชิงลงมาจากรถม้า นับตั้งแต่โม่ฉือหานบอกว่าจะยกผลงานในการสืบสวนเรือกระแชงให้กับเขา โม่ฉือชิงก็ลืมความขัดแย้งที่ผ่านมา หลายวันนี้จึงสนิทกับหลีอ๋องมาตลอด
พวกเขาเพิ่งลงมาจากรถม้า เห็นรถม้าที่หรูหราหาที่เปรียบไม่ได้ขับมาจากฝั่งตรงข้าม ซึ่งก็คือรถม้าของจวนซื่อจื่อ
“โลกนี้มันกลมจริงๆ” โม่ฉือหานพูดขึ้นมาอย่างเย็นชา
รถม้าหยุดจอด
หลิงเฟิงลงมาจากรถม้า พร้อมพูดขึ้นว่า “ซื่อจื่อ พวกเรามาถึงจวนตระกูลฟู่แล้ว”
จวินหย่วนโยวหันไปมองหยุนถิงที่กำลังหลับอยู่อย่างเห็นใจ เขารู้ว่าหลายวันที่ผ่านมานี้ หยุนถิงทดลองยาสมุนไพรถอนพิษให้กับตนเอง นางคงเหนื่อยมากแล้ว
“ไม่รีบ ให้หยุนถิงนอนสักพัก เดี๋ยวรองานเลี้ยงเริ่มแล้วค่อยเข้าไปก็ได้” จวินหย่วนโยวพูดขึ้นมา
“ขอรับ” หลิงเฟิงยืนเฝ้าอยู่ด้านข้าง ไม่ให้ใครมารบกวน
ไม่ไกลออกไป โม่ฉือชิงเห็นรถม้าจวินหย่วนโยวจอดอยู่ กลับไม่มีคนลงมา จึงพูดขึ้นมาอย่างแปลกใจว่า “พี่รอง เจ้าว่าทำไมจวินหย่วนโยวถึงไม่ลงจากรถม้า”
“จะไปสนใจทำไม” โม่ฉือหานพูดขึ้นมา แล้วก็ยกเท้าก้าวเดินเข้าไป
โม่ฉือชิงเห็นแบบนี้ก็ยิ่งแปลกใจ แล้วเขาก็เดินเข้าไปถามอย่างหน้าตาเฉยว่า “จวินหย่วนโยว ทำไมเจ้าไม่ลงจากรถ หรือมีอะไรที่ไม่กล้าออกมาเจอใคร?”
“หลิงเฟิง ไล่เขาไป” จวินหย่วนโยวพูดขึ้นด้วยเสียงเย็นชา
“ขอรับ” หลิงเฟิงเดินไปขวางอยู่ด้านหน้าโม่ฉือชิง พร้อมพูดขึ้นว่า “องค์ชายสี่ เชิญ”
“เจ้าใช้ให้ข้าไป ข้ายิ่งไม่อยากไป ข้าจะดูว่าข้างในรถม้ามีอะไร?”
ในขณะที่โม่ฉือชิงจะกระโจนเข้าไป กลับถูกหลิงเฟิงสะกดจุดไว้ ขยับไม่ได้ทั้งร่างกาย และก็พูดไม่ออก ถลึงมองดูหลิงเฟิงอย่างโกรธจัด แทบอยากที่จะหั่นหลิงเฟิงเป็นพันหมื่นชิ้น
หลิงเฟิงก็ไม่สนใจ ลากเขาโยนกลับไปในรถม้าจวนหลีอ๋อง แล้วก็ไม่สนใจเขา
รถขับรถม้าเห็นแบบนี้ ก็ตกใจกระโดดหนีไป เพราะคนที่ลงมือทำร้ายองค์ชายสี่คือองครักษ์ซื่อจื่อ เขาไม่กล้ามีเรื่องด้วย
รถม้าทยอยเดินทางมา คนเข้าออกไปมา จนหน้าประตูจวนตระกูลฟู่ไม่มีรถม้ามาจอด หลิงเฟิงเห็นว่าองครักษ์ที่เฝ้าหน้าประตูก็เข้าไปกันแล้ว คิดว่างานเลี้ยงคงเริ่มแล้ว
“ซื่อจื่อ งานเลี้ยงน่าจะเริ่มแล้ว” เสียงหลิงเฟิงดังขึ้นเตือน
ภายในรถม้า หยุนถิงก็ได้ยินเสียง ทำยาถอนพิษในมิติให้เสร็จ ให้มันกลั่นเองอัตโนมัติ แล้วก็ออกมาจากในมิติ
“ซื่อจื่อ เราเข้าไปกันเถอะ” หยุนถิงลืมตาพร้อมพูดขึ้น
“ดี” จวินหย่วนโยวลุกขึ้นจูงมือหยุนถิงเดินลงมา ทั้งสองคนเดินตรงไปยังประตูใหญ่จวนตระกูลฟู่
หลิงเฟิงรีบเดินตามไป ในงานแบบนี้ เขาไม่กล้าอยู่ห่างซื่อจื่อแม้เพียงครึ่งก้าว
รอเมื่อพวกเขาเข้าไปแล้ว สวนดอกไม้ที่ค่อนข้างกว้างใหญ่เต็มไปด้วยผู้คน ตรงที่นั่งตำแหน่งสูงสองที่นั่งว่างเปล่า ทางซ้ายคือพวกขุนนางในราชสำนัก ทางขวาคือหลีอ๋ององค์ชายองค์หญิง ด้านหลังพวกเขาก็คือสมาชิกในครอบครัว คุณหนู คุณชาย มีมากกว่าร้อยคน คึกคักยิ่งนัก
“ซื่อจื่อ ฮูหยิน เชิญด้านนี้” พ่อบ้านทำความเคารพอย่างนอบน้อม
“ดี” จวินหย่วนโยวจูงมือหยุนถิงไปนั่งตรงที่นั่งของตนเอง
“ชิงโยวใบหน้าของเจ้าหายดีแล้ว น่าอิจฉาเจ้าจริงๆ” ผู้หญิงสวมชุดสีแดงคนหนึ่งเดินมาพูดขึ้น
“ใช่ชิงโยว ผิวพรรณดีมากเลยจิงๆ ให้ครีมบำรุงอะไรหรือ?” ผู้หญิงสวมชุดสีเหลืองก็ถามขึ้นมา
ซูชิงโยวมองดูพวกนางทั้งสองแวบหนึ่ง คนหนึ่งคือหลอซู่ซู่ลูกสาวหมอหลวง อีกคนหนึ่งคือหลานฉินหว่านลูกสาวรองเจ้ากรมฝ่ายการทหาร สองคนนี้เคยเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของนาง
แต่เพราะใบหน้าของตนเสียโฉม จึงห่างเหินไป นับจากที่เกิดเรื่องกับซูชิงโยว พวกนางสองคนก็ไม่เคยติดต่อนางอีก กระทั่งตอนที่นางถูกเหยียดหยามในหอซ่างอี พวกนางก็ทำเป็นมองไม่เห็น ไม่อยากมีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับตน
ตอนนี้เห็นใบหน้าของนางหายดีแล้ว พวกเขาก็มาถามว่านางใช้ยาอะไร ใช้ครีมบำรุงหน้าอะไร ช่างเป็นเพื่อนพี่น้องจอมปลอมจริงๆ
ซูชิงโยวเหลือบมองดูหลอซู่ซู่กับหลานฉินหว่านแวบหนึ่ง พร้อมพูดขึ้นอย่างเรียบเฉยว่า “โชคดีที่คุณหนูหยุนมีฝีมือทางการแพทย์ เป็นเพราะมือวิเศษของนางที่ทำให้ใบหน้าของข้ากลับมามีชีวิตชีวา”
“นางให้เจ้าใช้ยาอะไร?” หลอซู่ซู่ถามขึ้นอย่างร้อนใจ
หลานฉินหว่านยิ่งขมวดคิ้ว พร้อมพูดขึ้นว่า “หยุนถิงรักษาเจ้าหายจริงๆหรือ เป็นไปได้ยังไง นางทำอะไรไม่เป็นเลยไม่ใช่หรือ?”
“นั่นเป็นเพราะคนอื่นเข้าใจคุณหนูหยุนผิดไป ใบหน้าของข้าเป็นหลักฐานที่ดีที่สุด” ซูชิงโยวพูดตอบอย่างเรียบเฉย พร้อมเดินผ่านพวกนางตรงไปหาหยุนถิง แล้วทำความเคารพพูดขอบคุณว่า
“คุณหนูหยุน ขอบคุณที่เจ้ารักษาใบหน้าของข้าหาย ขอบคุณอย่างสุดซึ้ง ต่อไปจะให้ข้าซูชิงโยวทำอะไรก็ได้ วันหลังข้าไปขอบคุณถึงจวน” เสียงพูดของซูชิงโยวไม่ดังไม่เบาจนเกินไป ทุกคนล้วนได้ยิน
หยุนถิงรู้ว่านางกำลังช่วยพูดกอบกู้ชื่อเสียงตนเอง จึงพูดขึ้นว่า “เกรงใจอะไร เรื่องเล็กน้อยเท่านั้น”
“คุณหนูหยุนถ่อมตนเกินไปแล้ว ต่อไปหากมีอะไรที่ซูชิงโยวสามารถช่วยได้ก็ขอให้บอก บ้านตระกูลซูเราพร้อมลุยน้ำลุยไฟ” ซูชิงโยวพูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง ซาบซึ้งในน้ำใจหยุนถิงจริงๆ
หากไม่ใช่เพราะนาง วันนี้นางก็คงไม่ได้มายืนอยู่ในงานนี้ ยิ่งไม่ทำให้คนพวกนี้เสียหน้า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ
อัพต่อด้วยจ้า...
รอตอนต่อจ้า...
แต่ละบทที่่อ่านแล้ว ควรมีสีหรือเครื่องหมายที่แตกต่างกัน ผู้อ่านจะได้ทราบว่าเรืื่องนี้อ่านไปถึงบทไหนแล้ว...
รำคานโฆษณาที่เลื่อนเข้ามา เข้าใจได้ว่าต้องหารายได้ แต่ควรนำไปวางไว้ด้านล่างสุด ไม่ด้านซ้ายก็ด้านขวา จะได้ไม่เสียอารมณ์ในการอ่าน ปกติโฆษณาที่อยู่ระหว่างหน้าก็ใหญ่และมากอยู่แล้ว...
ขอร้องทงทีมงานช่วยอัพเดทจนจบด้วยนะคะ😭😭😭😭😭...
เรื่องนี้ทางทีมงานจะอัพเดทต่อมั้ยค่ะ😭...
รอตอนใหม่อยู่นะคะ😭🙏🏻...
เมื่อไหร่จะอัพเพิ่มค่ะหายไปเป็นเดือนแล้วนะ...
รอค่ะ ตามเรื่องนี้มานานมาก อัพตอนต่อจาก 1070 ให้หน่อยค่ะ...
สนุกมากค่ะ รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะรบกวนลงต่อให้จบด้วยค่ะ กำลังสนุก...