“เสด็จพี่ไม่ใช่ข้า เป็นหยุนถิงผู้หญิงอัปลักษณ์คนนี้ นางบอกว่าข้าไม่คู่ควรที่จะร่วมทำธุรกิจกับนาง นางทำการค้าในงานเลี้ยงครบรอบวันเกิดของท่านป้า” โม่ฉือชิงรีบพูดอธิบาย
เมื่อพูดประโยคนี้ออกมา สีหน้าฮ่องเต้ยิ่งย่ำแย่ พร้อมพูดขึ้นว่า “วันนี้เป็นงานเลี้ยงครบรอบวันเกิดของฮูหยินเฒ่าฟู่ พวกเจ้ากับคุยธุรกิจกัน ไม่รู้จักมารยาทเช่นนี้ ควรรับโทษสถานใด?”
“งี่เง่า” หยุนถิงพูดพึมพำ พร้อมรีบลุกขึ้นมา
“เจ้าคือหยุนถิง?” ฮูหยินเฒ่าฟู่มองดูหยุนถิง
ทั่วทั้งใบหน้าดำคล้ำ เห็นลักษณะใบหน้าไม่ชัดเจน รูปร่างผอม อ่อนแอ มีเพียงดวงตาดั่งหงส์คู่นั้นที่ฉายแววสดใส เหมือนดวงดาวนับพันดวง
มองเห็นดวงตาของนางคู่นั้น ฮูหยินเฒ่าฟู่อึ้งไปชั่วขณะ พร้อมพูดขึ้นว่า “เหมือน เหมือนมาก”
“ฮูหยินเฒ่า ท่านว่าข้าเหมือนใคร?” หยุนถิงถามขึ้น
“เหมือนแม่ของเจ้ามาก” ฮูหยินเฒ่าฟู่พูดตอบ
“อ้อ ฮูหยินเฒ่ารู้จักแม่ของข้าหรือ?”
“ใช่ แม่ของเจ้าเป็นผู้หญิงที่งดงามยอดเยี่ยมคนหนึ่ง ฉลาดหลักแหลม ใจกว้างมีน้ำใจ มีความรู้กว้างขวาง มีความสามารถรอบด้าน รูปลักษณ์ก็เป็นอันดับหนึ่ง แต่เสียดายหญิงงามอาภัพ” ฮูหยินเฒ่าฟู่พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเสียดาย
หยุนถิงมองดูฮูหยินเฒ่าฟู่เสียใจ จึงพูดขึ้นอย่างค่อนข้างแปลกใจว่า “ขอบคุณที่ฮูหยินเฒ่ายังคิดถึงแม่ของข้า หากแม่ของข้ารู้ คงจะซาบซึ้งขอบคุณฮูหยินเฒ่า”
“แต่ว่านังหนู ทำไมใบหน้าของเจ้าถึงดำขนาดนี้ ซึ่งนี่ไม่เหมือนแม่ของเจ้าเลย?” ฮูหยินเฒ่าฟู่ถามขึ้นมาอย่างแปลกใจ
ดวงตาหยุนถิงฉายแววแดง พร้อมพูดขึ้นอย่างน่าสงสารว่า “แม่ของข้างดงามขนาดนั้น ใบหน้าของข้าดำเหมือนอย่างถ่าน ช่างน่าขายหน้าแทนแม่ของข้ายิ่งนัก ตอนที่ข้ายังเด็กเกิดเหตุสุดวิสัย ใบหน้าจึงกลายเป็นดำ ข้าเองก็กำลังหาวิธีรักษา แต่ว่ายังหาไม่เจอ เพราะเหตุนี้ ข้าจึงกลายเป็นตัวตลกของคนทั้งเมืองหลวง บอกว่าข้าเป็นหญิงอัปลักษณ์อันดับหนึ่งของแคว้นต้าเยียน โชคดีที่ซื่อจื่อไม่รังเกียจ ปฏิบัติต่อข้าอย่างสุภาพ"
ในขณะที่แสดงความน่าสงสาร ก็ไม่ลืมที่จะโอ้อวดถึงความรักใคร่
คนอื่นได้ยินประโยคนี้ ทันใดนั้นต่างก็วิพากษ์วิจารณ์กันขึ้นมา โดยเฉพาะเมื่อกี้ไม่ได้ยินหยุนถิงกระซิบบอกฉินลั่วพวกนั้น ล้วนรังเกียจเหยียดหยาม
“แสร้งเก่งจริงๆ เริ่มขายความน่าสงสารเรียกร้องความเห็นใจ?” หนึ่งในผู้หญิงคนหนึ่งพูดขึ้นมา
“รักษาตนเองยังไม่ได้ กลับยังไปช่วยซูชิงโยว หยุนถิงคนนี้โง่หรือเปล่า?”
“ใครจะไปรู้ล่ะ ใบหน้าของนางดำตั้งแต่เล็กจนโต คงไม่ง่ายที่จะรักษา แต่หากสามารถรักษาได้คงรักษาหายนานแล้ว”
“ไม่แน่ว่าการที่นางรักษาซูชิงโยวให้หายได้เพราะจวินซื่อจื่อช่วยเหลือ ข้าไม่เคยได้ยินว่าหยุนถิงมีฝีมือทางการแพทย์”
ฟังเสียงผู้คนวิพากษ์วิจารณ์กัน สีหน้าฮูหยินเฒ่าฟู่เรียบเฉย พิจารณาดูปฏิกิริยาของหยุนถิง
เห็นนางไม่หยิ่งไม่ร้อนใจและก็ไม่โกรธ ใจเย็นและสงบ ทำให้ฮูหยินเฒ่าฟู่ค่อนข้างคิดไม่ถึง
“เมื่อกี้ได้ยินเจ้าสีบอกว่าเจ้าทำการค้าในงานเลี้ยงครบรอบวันเกิดของข้า มีเรื่องนี้จริงหรือ?” ฮูหยินเฒ่าฟู่พูดขึ้นด้วยสีหน้าเย็นชา
“เรียนฮูหยินเฒ่า ไม่มีเรื่องแบบนี้ เมื่อกี้ทุกคนเห็นว่าข้ารักษาใบหน้าของคุณหนูซูหายดีแล้ว ก็เลยคิดถึงการพนันที่ฮือฮาในเมืองหลวงของข้า ล้วนเป็นเรื่องล้อเล่น”
คุณหนูฉินถามข้า ข้าก็แค่บอกเกี่ยวกับความรู้ในการดูแลผิวพรรณของผู้หญิงให้แก่นาง ไม่ว่าจะเป็นครีมหรือหน้ากากพอกหน้าล้วนแบ่งเป็นหลายชนิด ล้วนเป็นการดูแลผิวพรรณที่สำคัญมาก
ในฐานะที่เป็นผู้หญิง นางจะไม่สวยก็ได้ แต่จะต้องมีลักษณะท่าทีที่ดี หากไม่มีลักษณะท่าทีที่ดี ก็ต้องมีผิวพรรณที่ดี อย่างน้อยก็ต้องมีดีอย่างหนึ่ง ไม่มีผู้ชายคนไหนทนมองหญิงแก่หน้าเหลือง
ดังนั้นผู้หญิงจึงต้องรู้จักดูแลตนเอง รักและทะนุถนอมตนเอง หากเสียดายที่จะใช้จ่ายเงิน ก็จำเป็นต้องยอมให้กับเมียน้อย แบบนั้นจะน่าสงสารแค่ไหน องค์ชายสี่เห็นว่าเป็นโอกาสของธุรกิจ อยากร่วมลงทุนกับข้าเพื่อขายหน้ากากพอกหน้า ข้าไม่ได้รับปาก เขาจึงพูดใส่ร้ายข้า
องค์ชายสี่ขี่น้อยใจจริงๆ หลีอ๋องก็บอกแล้วเจ้าไม่คู่ควรที่จะร่วมทำธุรกิจกับข้า ทำไมถึงยังฟ้องฮ่องเต้ไทเฮา กับฮูหยินเฒ่า ยังเป็นผู้ชายอยู่หรือเปล่า” หยุนถิงพูดขึ้น
“วันนี้เป็นวันครบรอบวันเกิดของท่านป้า พวกเจ้าแต่ละคนคิดจะก่อกบฏหรือ? หลีอ๋องกับจวินหย่วนโยวลงโทษงดรับเบี้ยเลี้ยงสามเดือน เพื่อเป็นแบบอย่าง” ฮ่องเต้พูดขึ้นอย่างเย็นชา
โม่ฉือหานไม่พอใจ แต่ก็ต้องพูดตอบว่า “ข้าน้อมรับคำสั่ง”
“ข้าก็น้อมรับคำสั่ง” จวินหย่วนโยวพูดตอบอย่างเรียบเฉย
“เอาล่ะ ก็แค่คนหนุ่มเค้าเถียงกัน เปลี่ยนโต๊ะใหม่ให้กับหลีอ๋องเสีย” ไทเฮาพูดกู้สถานการณ์
บ่าวใช้รีบมาเก็บกวาดทำความสะอาด แล้วก็เปลี่ยนโต๊ะใหม่กับจานชุดใหม่
ส่วนคนอื่นมอบของขวัญต่อไป ฮูหยินเฒ่าฟู่ดูอยู่อย่างดีใจ
หยุนถิงก็กลับมานั่งที่เดิม เอื้อมมือไปประคองจวินหย่วนโยวไว้ พร้อมทั้งจับดูชีพจรของเขา พร้อมพูดขึ้นว่า “ซื่อจื่อ เมื่อกี้เจ้าไม่จำเป็นต้องทำถึงขนาดนั้น"
“เจ้าเป็นผู้หญิงของข้า ข้าจะไม่ยอมให้ใครมาดูถูกเจ้า” จวินหย่วนโยวพูดขึ้นมาอยากเผด็จการ
หยุนถิงซาบซึ้งใจอย่างมาก พร้อมพูดขึ้นว่า “ซื่อจื่อ ขอบคุณที่เจ้าปกป้องข้าขนาดนี้”
“ไม่ต้องเกรงใจข้าขนาดนั้น”
เมื่อกี้จวินหย่วนโยวใช้กำลังภายในอย่างกะทันหัน ทำให้ลมหายใจค่อนข้างติดขัด สีหน้าของเขาค่อนข้างขาวซีด หยุนถิงเห็นแล้วรู้สึกปวดใจแล้วใช้จิตสำนึกเข้าไปในมิติ แล้วก็หยิบยาฉีดระงับลมปราณออกมา ซึ่งหลายวันมานี้นางตั้งใจคิดค้นเพื่อจวินหย่วนโยว
หยุนถิงฉวยโอกาสตอนที่ทุกคนกำลังดูของขวัญ คว้าหยิบจอกเหล้าบนโต๊ะมา จากนั้นก็ใช้อีกมือหนึ่งเอายาฉีดออกมาจากในแขนเสื้อ เทลงไปในแก้วเหล้า
ทั้งหมดนี้ถูกโม่ฉีเฟิงที่อยู่ด้านหลังไม่ไกลมองเห็น โม่ฉีเฟิงขมวดคิ้ว แต่ก็ไม่พูดอะไร
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ
อัพต่อด้วยจ้า...
รอตอนต่อจ้า...
แต่ละบทที่่อ่านแล้ว ควรมีสีหรือเครื่องหมายที่แตกต่างกัน ผู้อ่านจะได้ทราบว่าเรืื่องนี้อ่านไปถึงบทไหนแล้ว...
รำคานโฆษณาที่เลื่อนเข้ามา เข้าใจได้ว่าต้องหารายได้ แต่ควรนำไปวางไว้ด้านล่างสุด ไม่ด้านซ้ายก็ด้านขวา จะได้ไม่เสียอารมณ์ในการอ่าน ปกติโฆษณาที่อยู่ระหว่างหน้าก็ใหญ่และมากอยู่แล้ว...
ขอร้องทงทีมงานช่วยอัพเดทจนจบด้วยนะคะ😭😭😭😭😭...
เรื่องนี้ทางทีมงานจะอัพเดทต่อมั้ยค่ะ😭...
รอตอนใหม่อยู่นะคะ😭🙏🏻...
เมื่อไหร่จะอัพเพิ่มค่ะหายไปเป็นเดือนแล้วนะ...
รอค่ะ ตามเรื่องนี้มานานมาก อัพตอนต่อจาก 1070 ให้หน่อยค่ะ...
สนุกมากค่ะ รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะรบกวนลงต่อให้จบด้วยค่ะ กำลังสนุก...