จอมนางข้ามพิภพ นิยาย บท 88

ข้าจะคอยดู หยุนถิงมีความสามารถอะไร ถึงสามารถทำให้จวินหย่วนโยวสนใจขนาดนี้ พอดีเลยที่จะได้ใช้ฟู่อี้เฉินหยั่งเชิงดูความสามารถของหยุนถิง

เดิมทุกคนคิดว่าหยุนถิงถูกทำร้ายพ่ายแพ้ยับเยิน สุดท้ายกลับเห็นหยุนถิงมีฝีมือคล่องแคล่วปราดเปรียว การเคลื่อนไหวแปลกประหลาดซับซ้อน หลบหลีกได้ภายในพริบตาเดียว ฟู่อี้เฉินไม่ได้เปรียบเลย

“ข้าดูไม่ผิดใช่ไหม หยุนถิงเก่งถึงขนาดนี้เลยหรือ นางมีฝีมือการต่อสู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมข้าไม่รู้?” ฉินลั่วพูดขึ้นมาอย่างตกใจ

“ใช่ไหม หยุนถิงเป็นคนทำอะไรไม่เป็นเลยใครๆก็รู้ จู่ๆทำไมถึงเก่งขนาดนี้ นางเป็นตัวปลอมหรือเปล่า?”

“เจ้าโง่หรือเปล่า นางมาพร้อมกับจวินซื่อจื่อ หากหยุนถิงเป็นตัวปลอม จวินซื่อจื่อจะดูไม่ออกหรือ?”

“หากที่ผ่านมาหยุนถิงแสร้ง ตั้งใจทำอะไรไม่เป็นเพื่อหลอกลวงทุกคน ความจริงแล้วปกปิดความสามารถของตนเอง หากเป็นแบบนี้ จะน่ากลัวอย่างมาก”

ทุกคนต่างวิพากษ์วิจารณ์ ทุกคนต่างเบิกตาโตมองดูทั้งสองคนต่อสู้กัน

“อ้าก” ฟู่อี้เฉินร้องดังขึ้นมา ใบหน้าถูกหยุนถิงต่อยหนึ่งที พร้อมพูดขึ้นว่า “แย่จริงๆ ผู้หญิงอัปลักษณ์ เจ้าไม่รู้หรือว่าไม่ควรต่อยหน้าคนอื่น?”

“เจ้าปากเสีย ข้าต้องสั่งสอน” หยุนถิงพูดขึ้น

“ชั่วร้าย ข้าขอสู้ตายกับเจ้า” ครั้งนี้ฟู่อี้เฉินไม่กล้าประมาท ใช้แรงทั้งหมดที่มี

หยุนถิงไม่ตื่นเต้นเลยสักนิด หลบหลีกได้อย่างง่ายดาย พร้อมสั่งสอนเขาต่อ

เสียงร้องของฟู่อี้เฉินดังขึ้นอยู่หลายครั้ง กลับไม่เห็นหยุนถิงได้รับบาดเจ็บเลย จวินหย่วนโยวที่เป็นกังวลค่อยผ่อนคลายลง

เขาไม่รู้เลยว่า นางจะมีฝีมือขนาดนี้

แม้แต่หลิงเฟิงยังชื่นชม หากเป็นเขา เกรงว่าคงจับตัวฮูหยินไม่ได้ง่ายๆ

สายตาโม่ฉือหานก็ฉายแววประหลาดใจ หรือว่าที่ผ่านมานางแสร้งมาตลอด แต่ทำไมนางจะต้องทำเช่นนั้น

เวลานี้ โม่ฉือหานรู้สึกไม่เข้าใจหยุนถิงขึ้นมาทันที

หยุนถิงเห็นว่าต่อสู้พอประมาณแล้ว จึงพลิกมือจับตัวฟู่อี้เฉินไว้ ปิ่นปักผมในมือจ่อตรงคอของเขา พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้ายอมแพ้ไหม?”

“ไม่เด็ดขาด เจ้าลอบทำร้าย เอาชนะด้วยวิธีที่ไม่เหมาะสม?” ฟู่อี้เฉินไม่พอใจ

“ลอบทำร้ายแล้วยังไง หากอยู่ในสนามรบ ศัตรูจะให้โอกาสเจ้าได้หายใจไหม? หากสามารถเอาชนะเจ้าได้ ต่อให้ต้องใช้เล่ห์กลแล้วยังไง” หยุนถิงหัวเราะเย้ย

เยือกเย็น ดุร้าย เด็ดขาด

ฟู่อี้เฉินหันไปมองหยุนถิงที่ควบคุมตนเองไว้อย่างตกตะลึง สีหน้าของนางเยือกเย็นดุร้าย แววตาเฉียบคม เหมือนดาบนับพันทิ่มแทงใจคน ทำให้รู้สึกหวาดกลัว ทำให้รู้สึกสั่นสะท้าน ทำให้รู้สึกสะพรึงกลัวขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว

ผ่านมาหลายปี ไม่เคยเห็นผู้หญิงคนไหนมีสายตาน่าสะพรึงกลัวขนาดนี้ ฟู่อี้เฉินตกใจแทบแย่ สายตาแบบนี้ เขาเคยเห็นบนตัวจวินหย่วนโยวเท่านั้น

ฮูหยินเฒ่าฟู่ก็มองเห็นภาพนี้ ใบหน้าค่อยเผยรอยยิ้มชื่นชม

นี่ถือเป็นลักษณะเหมือนแม่ของนางในตอนนั้น เด็กคนนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ

ฮ่องเต้ก็คาดไม่ถึง หยุนถิงสามารถพูดจาแบบนี้ออกมาได้ด้วย ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจ และก็เกิดความสงสัยขึ้นมาอยู่บ้าง

ฝีมือฟู่อี้เฉินไม่ด้อย กลับถูกหยุนถิงเอาชนะได้ โดยเฉพาะกระบวนท่าของนางเมื่อกี้ แม้แต่ฮ่องเต้ก็ไม่เคยเห็น หรือว่าที่ผ่านมานางแสร้งจริงๆ จวินหย่วนโยวแต่งงานกับนางเป็นความบังเอิญ หรือมีแผนอยู่ก่อนแล้ว?

โม่ฉีเฟิงที่อยู่ด้านหลังก็ตกตะลึง และค่อนข้างประหลาดใจ

“พี่ชายใหญ่ เจ้าว่าหากข้าไปต่อสู้กับหยุนถิง ใครจะชนะ?” โม่หลานที่อยู่ด้านข้างพูดขึ้นมาอย่างสนุก

“ไอโย้ว กล้าไม่น้อยเลยทีเดียว ในเมื่อเจ้าไม่มีความสามารถอะไรเลย ข้าก็จะไม่รังแกเจ้า เดี๋ยวเจ้าแพ้แล้วจะหาว่าข้าได้ชัยชนะอย่างไม่คู่ควร เจ้าเลือกละกัน” ฟู่อี้เฉินพูดขึ้นอย่างใจกว้าง

“งั้นก็พิณกู่ฉิน หมากล้อม พู่กันจีน ภาพวาดจีน บทกวี เย็บปักถักร้อยเป็นไง?” หยุนถิงถามกลับ

ฟู่อี้เฉินสำลักน้ำลาย จนไอขึ้นมาพร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าโง่หรือ ข้าอุตส่าห์ให้โอกาสเจ้าเลือก เจ้ากลับเลือกสิ่งที่ตนเองไม่ถนัด?”

“ข้าเลือกอะไรนั้นเป็นอิสระของข้า ซื่อจื่อเป็นห่วงตนเองเถอะ” หยุนถิงพูดตอบ

“เชอะ เจ้าดนหาที่ตายเองนะ แพ้แล้วอย่าหาว่าข้าไม่ให้โอกาสเจ้า งั้นก็แข่งบทกลอน ให้เสด็จพี่เป็นคนเสนอหัวข้อ เราสองคนมาแต่งกลอน กลอนของใครไพเราะคนนั้นชนะ” ฟู่อี้เฉินพูดขึ้นอย่างได้ใจ

นี่เป็นสิ่งที่เขาถนัดที่สุด จะต้องทำให้ผู้หญิงอัปลักษณ์คนนี้พ่ายแพ้จนร้องห่มร้องไห้

คนอื่นยิ่งตกตะลึง หยุนถิงท่องกลอนยังไม่เป็น ยิ่งไม่ต้องพูดว่าแต่งกลอน รนหาที่ตายจริงๆ ทำไมไม่รู้จักเลือกสิ่งที่ตอนเองถนัด ก็ถูก นางไม่ถนัดอะไรเลย คราวนี้ได้หน้าแตกแน่

ฮ่องเต้พอใจกับข้อเสนอนี้มาก จึงพูดขึ้นว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นข้าเสนอหัวข้อ เดือนนี้เป็นเดือนห้า ฤดูใบไม้ผลิ พวกเจ้าเสนอบทกลอนที่เกี่ยวกับฤดูใบไม้ผลิละกัน”

“ข้าเริ่มก่อน พระอาทิตย์ขึ้นจากทะเลจีนตะวันออกในตอนเช้าตรู่ เมฆบนทะเลสว่างไสวด้วยแสงรุ่งอรุณกลายเป็นเมฆหลากสี จากแม่น้ำทางใต้ถึงแม่น้ำทางเหนือ เต็มไปด้วยดอกเหมยสีแดงต้นหลิวสีเขียว ดั่งฤดูใบไม้ผลิ อากาศอบอุ่นในฤดูใบไม้ผลิ กระตุ้นให้นกขมิ้นร้องเพลงบนกิ่งไม้ ภายใต้แสงแดดสาดส่อง สีของดอกหญ้าในน้ำค่อยๆ เปลี่ยนจากสีเขียวอ่อนเป็นสีเขียวเข้ม” ฟู่อี้เฉินพูดออกมาอย่างได้ใจ

ทุกคนต่างตกตะลึง ทุกคนต่างยอมรับว่าบทกวีของเขามีแนวคิดที่ดีเยี่ยม ดีมาก จากนั้นก็ยิ่งดูถูกหยุนถิง ต่างรอคอยที่จะหัวเราะสมน้ำหน้านาง

“ซื่อจื่อ เราช่วยฮูหยินหน่อยไหม?” หลิงเฟิงถามอย่างเป็นห่วง

“ไม่ต้อง นางรับมือได้” สีหน้าจวินหย่วนโยวเรียบเฉย เขาสังเกตหยุนถิงอยู่ตลอด หากนางทำไม่ได้ ก็คงไม่รับปาก แต่ว่านางจะแต่งกลอนออกมาเป็นอย่างไร?

ซูชิงโยวแสดงสีหน้าเป็นห่วง นางรู้เพียงว่าหยุนถิงมีฝีมือทางการแพทย์ ไม่รู้ว่านางจะสามารถแต่งกลอนได้ไหม ต่อให้นางอยากช่วยก็ช่วยไม่ได้ ยังไงฮ่องเต้กับไทเฮาก็อยู่ด้วย จะโกงก็หาวิธีไม่เจอ

โม่ชิวหยีพูดขึ้นอย่างได้ใจว่า “หยุนถิง เจ้ารีบยอมแพ้เถอะ ท่องกลอนยังไม่เป็น ยิ่งไม่ต้องพูดถึงแต่งกลอนเลย”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ