ตั้งแต่หน้าผาก ถึงปลายจมูก สุดท้ายไปหยุดที่ริมฝีปากบางอ่อนนุ่มของหยุนถิง แต่จวินหย่วนโยวทำเพียงแค่แตะแผ่วเบาก็ผละออก
เขารู้ว่าหยุนถิงเหนื่อยมาก ต้องการการพักผ่อน ดังนั้นจวินหย่วนโยวจึงมิได้รบกวนหยุนถิง สุดท้ายก็ไปจุมพิตที่คอนางอีก
หยุนถิงที่สะลึมสะลือรู้สึกคันคอขึ้น ขมวดคิ้วเล็กน้อย เอียงคอหนี จวินหย่วนโยวถึงยอมรามือ ดวงตามีแววพึงพอใจ
จากนั้นจวินหย่วนโยวก็ช่วยเช็ดตัวหยุนถิงให้สะอาดอย่างระมัดระวัง และอุ้มนางขึ้นจากถังน้ำ โดยใช้ผ้าห่มห่อไว้
หยุนถิงเลยตื่นขึ้น “ท่านพี่ ข้าหลับไปได้อย่างไรกันนี่?”
“เจ้าเหนื่อยมากน่ะ พักผ่อนให้สบายเถอะ ปกติตอนกลางคืนลูกสองคนชอบเตะผ้าห่ม เจ้าต้องคอยห่มให้พวกเขา เลยพักผ่อนไม่ดี ตอนนี้จะได้พักผ่อนให้เต็มที่เสียหน่อยไ จวินหย่วนโยวอุ้มหยุนถิงมุ่งตรงไปที่เตียงทันที
“ได้” หยุนถิงหลับตาอย่างวางใจ
จวินหย่วนโยวนั่งอยู่ข้างเตียงเฝ้านาง และช่วยนวดมือให้นางอย่างแผ่วเบา เขารู้ว่าทุกครั้งที่หยุนถิงทำการผ่าตัด จะต้องถือมีดผ่าตัดนานมาก ดังนั้นเลยช่วยผ่อนคลายให้นาง
อีกด้านหนึ่ง ตำหนักของฮองเฮา ฮองเฮามองดูเด็กน้อยที่นอนอยู่ข้างๆ ก็ตื้นตันจนน้ำตาไหล
ฮองเฮาได้ยินคำพูดของหมอหลวงหลิวทั้งหมด นางได้ยินหมอหลวงหลิวบอกว่าช่วยได้เพียงคนเดียว ก็โกรธจนสลบไป
ตอนนี้มาเห็นลูกน้อยตรงหน้า นางรู้สึกอัศจรรย์นัก นางซาบซึ้งในบุญคุณของหยุนถิงยิ่งนัก นางช่วยตนและลูกไว้
“นี่คือลูกของข้า หน้าตาน่าเกลียดน่าชังนัก คิ้วตาเหมือนฝ่าบาทมาก” ฮองเฮาดีใจน้ำตาไหลพราก
“เจ้าหนูเหมือนข้ามากจริงๆ ลำบากฮองเฮาแล้วนะ เจ้าอย่าร้องไห้สิ ไม่ดีกับดวงตานะ พักฟื้นให้ดี!” ฮ่องเต้บอกอย่างสงสาร
ฮองเฮาพยักหน้าเบาๆ “อืม ฝ่าบาทต้องขอบคุณหยุนถิงมากๆนะ นางช่วยข้าและลูกไว้!”
“ข้ารู้ดี เจ้าวางใจเถอะ”
เพราะฮองเฮาพึ่งคลอดเสร็จ ร่างกายยังอ่อนเพลียเหนื่อยล้าอยู่มาก แถมยังเป็นการผ่าท้องคลอด ไม่นานก็หลับไป
เด็กพลันร้องไห้จ้า ฮ่องเต้ตื่นเต้นยิ่งนัก “ไปเรียกแม่นมมาเร็ว มาให้นมซะ ห้ามรบกวนการพักผ่อนของฮองเฮาเด็ดขาด!”
ฮองเฮาที่สะลึมสะลืออยู่ได้ยินคำนี้ ก็ยิ้มมุมปากแล้วหลับอย่างเป็นสุข
กว่าหยุนถิงจะตื่น ก็ฟ้ามืดแล้ว นางรีบไปดูอาการฮองเฮาทันที
ฮองเฮาพึ่งตื่น พอเห็นหยุนถิงก็ตาแดงเรื่อ “หยุนถิง ขอบคุณเจ้ามากที่ช่วยข้าและลูกไว้ ต่อไปชีวิตนี้ของข้าเป็นของเจ้าแล้ว ขอเพียงเจ้าต้องการ ข้าจะไม่รีรอเลย”
“เหนียงเหนียงเกรงใจไปแล้ว” หยุนถิงช่วยตรวจร่างกายให้นาง หมอหลวงหลิวคอยช่วยดูน้ำเกลืออยู่ข้างๆตามคำสั่งของหยุนถิงตลอด บัดนี้เหลือขวดสุดท้ายแล้ว
“ลำบากหมอหลวงหลิวแล้ว” หยุนถิงบอก
“ซื่อจื่อเฟยเกรงใจไปแล้ว กระหม่อมเป็นกบในกะลาเอง ฝีมือการแพทย์ของซื่อจื่อเฟยนั้นกระหม่อมไม่อาจเทียบชั้นได้จริงๆ” หลิวเทียนไท่บอกอย่างเลื่อมใส
“หลิวเทียนไท่ถ่อมตนไปแล้ว ท่านไปพักผ่อนเถอะ”
“พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมทูลลา!”
หยุนถิงสั่งความรายละเอียดที่ต้องใส่ใจกับมามารับใช้ฮองเฮาอีก จากนั้นอยู่พูดคุยกับฮองเฮาครู่หนึ่ง
ฮองเฮาเห็นรอยแดงที่คอหยุนถิง “เจ้ากับจวินซื่อจื่อรักใคร่ต่อกันจริงๆนะ คิดจะมีลูกเพิ่มหรือไม่เล่า?”
หยุนถิงยิ้มบอก “เมื่อหลายวันก่อนระดูมาช้า ข้าก็นึกว่าท้องแล้ว สองวันนี้จับชีพจรตนเองพบว่าไม่มี ไม่รีบร้อนหรอก รอเสี่ยวเทียนกับเสี่ยวเหยียนโตขึ้นหน่อยก็ดี แบบนี้พวกเขาพอรู้เรื่องหน่อย จะได้ทะเลาะกันน้อยหน่อย”
คนอื่นก็พากันส่ายหน้ารัวๆ แสดงว่าไม่มีเหมือนกัน
“ฝ่าบาททรงเป็นบุรุษ ขอเพียงเป็นชายแท้ย่อมมีความต้องการสิ ต่อให้ฝ่าบาทไม่ชอบของธรรมดาดาษดื่นอย่างพวกเรา แต่สาวงามอย่างฉินเฟยกับหลานเฟย ฝ่าบาทยังไม่เรียกเข้าถวายงานเลย มันไม่ปกติแล้วนะ”
ถึงจะรู้ว่าการซุบซิบเรื่องฝ่าบาทมันไม่ดี แต่พวกนางก็สงสัยนักว่า ฝ่าบาททรงเป็นอะไรกันแน่ เหตุใดคัดเลือกสนมมาหลายเดือนแล้วแต่กลับไม่เรียกผู้ใดถวายงานเลย มันทำให้คนอดสงสัยไม่ได้จริงๆ
“พวกเจ้าสังเกตเห็นหรือไม่ว่า ขุนนางหญิงรั่วชูข้างกายฝ่าบาทน่ะ นางเป็นขุนนางหญิงข้างกายฝ่าบาท ฝ่าบาทไปที่ไหนก็พานางไปด้วยเสมอ หรือว่าฝ่าบาททรงโปรดอย่างนาง?” สาวงามคนหนึ่งถามเสียงเบา
ฉินเฟยที่มาชมดอกไม้ในอุทยานหลวงได้ยินคำนี้เข้าพอดี สีหน้าเย็นชาลงทันที นางเป็นคนเย่อหยิ่งจองหอง วันแรกที่มาคัดเลือกสนมตนได้รับการแต่งตั้งจากฝ่าบาทให้เป็นฉินเฟย เดิมถือเป็นเกียรติสูงสุด แต่ไม่คิดเลยว่า ผ่านไปหลายเดือนแล้วฝ่าบาทมิเสด็จมาตำหนักตนเลยสักครั้ง นางไปเข้าเฝ้าฝ่าบาท ฝ่าบาทก็ทำเป็นไม่เห็น ตอนนี้มาได้ยินเหล่าสนมซุบซิบกันเช่นนี้ ฉินเฟยย่อมเดือดดาลอยู่แล้ว
“หุบปากเดี๋ยวนี้ ฝ่าบาทไม่มีทางชอบพอขุนนางหญิงหรอก”
สนมหลายคนตกใจแทบตาย พากันหุบปากรัวๆ
“ไอ้โหย นี่ฉินเฟยมิใช่รึ ฉินเฟยเดือดดาลเพียงนี้ หรือว่าไม่ได้รับการเติมเต็ม?” น้ำเสียงกระแนะกระแหนลอยมา หลินหลานเทียนยกผลไม้ถาดหนึ่งเดินไปกินไปเข้ามา
“เจ้ากล้าพูดจาสกปรกเลื่อนเปื้อนเช่นนี้ต่อหน้าทุกคน หน้าไม่อายเสียจริง” ฉินเฟยโกรธจัด
“มีอะไรต้องอายกัน เจ้าเข้าวังมาหลายเดือนแล้ว ฝ่าบาทไม่เคยมองเจ้าเลย ข้าแค่พูดตามความจริง ทุกคนล้วนอยากถวายงานฝ่าบาทด้วยกันทั้งนั้น พวกนางก็หน้าไม่อายด้วยรึ?” หลินหลานเทียนย้อนถาม
“หุบปาก ข้าไม่ลดตัวลงไปเปลืองน้ำลายกับสตรีกระด้างหยาบกร้านเช่นเจ้าหรอก” ฉินเฟยถลึงตาใส่อย่างเดือดดาล หมุนตัวจากไป
“ข้าขี้เกียจสนใจเจ้าด้วยซ้ำ เจ้าส่งน้ำแกงตุ๋นโสมไปให้ฝ่าบาทกี่ร้อยชาม พระองค์ก็ไม่สนใจเจ้าดอก” หลินหลานเทียนบอกอย่างมิแยแส
คำพูดเดียวทำเอาฉินเฟยเดือดปรี๊ด นางที่ก้าวเดินไปหลายก้าวโกรธจนหน้าซีด หมุนตัวกลับมาหาและตบหน้าหลินหลานเทียนอย่างเดือดดาลทะลุฟ้า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ
อัพต่อด้วยจ้า...
รอตอนต่อจ้า...
แต่ละบทที่่อ่านแล้ว ควรมีสีหรือเครื่องหมายที่แตกต่างกัน ผู้อ่านจะได้ทราบว่าเรืื่องนี้อ่านไปถึงบทไหนแล้ว...
รำคานโฆษณาที่เลื่อนเข้ามา เข้าใจได้ว่าต้องหารายได้ แต่ควรนำไปวางไว้ด้านล่างสุด ไม่ด้านซ้ายก็ด้านขวา จะได้ไม่เสียอารมณ์ในการอ่าน ปกติโฆษณาที่อยู่ระหว่างหน้าก็ใหญ่และมากอยู่แล้ว...
ขอร้องทงทีมงานช่วยอัพเดทจนจบด้วยนะคะ😭😭😭😭😭...
เรื่องนี้ทางทีมงานจะอัพเดทต่อมั้ยค่ะ😭...
รอตอนใหม่อยู่นะคะ😭🙏🏻...
เมื่อไหร่จะอัพเพิ่มค่ะหายไปเป็นเดือนแล้วนะ...
รอค่ะ ตามเรื่องนี้มานานมาก อัพตอนต่อจาก 1070 ให้หน่อยค่ะ...
สนุกมากค่ะ รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะรบกวนลงต่อให้จบด้วยค่ะ กำลังสนุก...