“เจ้ากล้าโยนถั่วใส่ข้า!” สวิ๋นเหม่ยเหรินตะคอกอย่างเดือดดาล
“เจ้าทำเกินไปแล้วนะ นางเป็นสวิ๋นเหม่ยเหรินที่ฝ่าบาททรงแต่งตั้ง เจ้ากล้าตบตีนางมิเท่ากับเป็นการท้าทายฝ่าบาทรึ!” หลิวกุ้ยเหรินยุแยงตะแคงรั่ว
“โยนทิ้งหมดแล้ว จะมาพล่ามให้มากความทำไม พวกเจ้าน่ะจะเข้ามาทีละคน หรือว่าเข้ามาพร้อมกัน!” วี่รั่วฉิงบอกอย่างไม่แยแส
ท่าทางจองหองไม่สนใจใครทำให้สวิ๋นเหม่ยเหรินระเบิดทันที พุ่งเข้าหาวี่รั่วฉิงอย่างบ้าคลั่ง
“อีสตรีน่าตายนัก ข้าจะฆ่าเจ้า!”
ส่วนหลิวกุ้ยเหรินกลับลอบโจมตีด้านหลัง อยากจะสั่งสอนวี่รั่วฉิงให้สาสม
ลูกไม้แค่นี้ก็กล้ามาเหิมเกริมต่อหน้านาง วี่รั่วฉิงพลันหลบไปด้านข้าง สองมือลงมือพร้อมกัน จี้จุดสวิ๋นเหม่ยเหรินและหลิวกุ้ยเหรินพร้อมกัน
สวิ๋นเหม่ยเหรินที่กำลังเดือดดาลอยู่พลันหัวเราะเสียงดัง ส่วนหลิวกุ้ยเหรินก็ร้องไห้ไม่หยุด ทั้งสองคนหัวเราะร้องไห้ประสานกันอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้ น้ำเสียงนั้นฟังเสียดแก้วหูนัก
สวิ๋นเหม่ยเหรินแค้นวี่รั่วฉิงยิ่งนัก โจมตีวี่รั่วฉิงอีกครั้ง แต่กลับโดนวี่รั่วฉิงเตะกระเด็นไปนอกประตู
พอหลิวกุ้ยเหรินเห็นดังนั้นก็ตกใจไม่กล้าลอบกัดอีก หนีออกไปอุตลุด
ในห้องพลันเงียบลง วี่รั่วฉิงปรบมือ “ฝีมือแค่นี้กล้ามาอวดดีต่อหน้าข้า มาครั้งหนึ่งข้าก็จะอัดไปครั้งหนึ่ง เสียดายถั่วถาดนี้จริงๆ!”
อูมามาออกมาจากด้านใน เมื่อครู่นางอกสั่นขวัญหายจริงๆ ไม่คิดว่าแม่นางอวี้ผู้นี้จะเก่งกล้าดุร้ายเพียงนี้
“แม่นาง ถึงท่านจะสะใจแล้ว แต่พวกนางต้องไปฟ้องฝ่าบาทแน่” อูมามาเป็นห่วง
“ฟ้องก็ฟ้องสิ ข้าไม่กลัวชางหลันเย่หรอก อย่างมากข้าก็ไป” วี่รั่วฉิงบอกอย่างท่าทางไม่กลัวอะไรทั้งนั้น
อูมามาส่ายหัวหน่ายใจ แม่นางคนนี้นิสัยไม่เลว เพียงแต่ดุไปหน่อยเท่านั้น
ส่วนสวิ๋นเหม่ยเหรินที่โดนซัดกระเด็นออกไปรีบไปฟ้องฮ่องเต้ชางหลันเย่ทันที เพียงแต่ชางหลันเย่กำลังคุยงานราชการกับเหล่าขุนนางอยู่ จู่ๆก็ได้ยินเสียงหัวเราะเสียงดังเข้ามา สีหน้าเริ่มไม่พอใจ
“เกิดอะไรขึ้น?”
“ฝ่าบาท สวิ๋นเหม่ยเหรินพ่ะย่ะค่ะ เพียงแต่ไม่รู้ทำไมนางถึงหัวเราะไม่หยุด?” เจว๋เฟิงรีบรายงานทันที
ยังไม่รอให้ชางหลันเย่ถามอะไรอีก ก็ได้ยินเสียงร้องไห้ลอยมา เจว๋เฟิงรีบบอก “ฝ่าบาท หลิวกุ้ยเหรินพ่ะย่ะค่ะ”
“เกิดอะไรขึ้น?” ชางหลันเย่ถามหน้าตึง
“ทูลฝ่าบาท สวิ๋นเหม่ยเหรินและหลิวกุ้ยเหรินอยากสั่งสอนแม่นางวี่ สุดท้ายกลับโดนแม่นางวี่สั่งสอนกลับ” องครักษ์ลับรีบพูดเรื่องเมื่อครู่ออกมาทันที
สีหน้าชางหลันเย่ดำทะมึนทันที “หาเรื่องหึงหวงตบตีสมควรโดนสั่งสอน ให้พวกนางสองคนไสหัวกลับเรือนตนเองไปสำนึกผิดหนึ่งเดือน ไม่มีคำสั่งข้าห้ามออกมาเด็ดขาด!”
“พ่ะย่ะค่ะ!”
พอสวิ๋นเหม่ยเหรินได้ยินคำสั่งฝ่าบาทก็โกรธจนสลบไป หลิวกุ้ยเหรินเองก็โกรธนัก แต่จนปัญญา ได้แต่กลับไปสำนึกผิดอย่างจำใจ
ชางหลันเย่ไม่คิดเลยว่าฝีมือการต่อสู้ของวี่รั่วฉิงจะแข็งแกร่งขนาดนี้ สวิ๋นเหม่ยเหรินและหลิวกุ้ยเหรินเลื่องชื่อในวังหลังว่าเย่อหยิ่งจองหองนัก กลับมาสิ้นฤทธิ์ต่อหน้าวี่รั่วฉิง น่าสนใจนัก
เรื่องสวิ๋นเหม่ยเหรินและหลิวกุ้ยเหรินโดนสั่งสอนแพร่กระจายไปทั่ววังหลังทันที เหล่าสนมนางในตกตะลึงกันยิ่งนัก
ใครต่างก็ไม่คิดว่า สตรีที่ฝ่าบาททรงพากลับมานั้นจะเก่งกาจปานนี้ ประเด็นสำคัญที่สุดคือฝ่าบาทสั่งกักบริเวณสวิ๋นเหม่ยเหรินและหลิวกุ้ยเหริน คราวนี้เหล่าสนมต่างพากันเข้าใจทันทีว่า ห้ามไปหาเรื่องสตรีผู้มาใหม่ผู้นี้เด็ดขาด
จากนั้นก็มีสนมเริ่มมอบของขวัญ เพชรนิลจินดา ผ้าไหมผ้าแพร รวมถึงให้เครื่องประทินโฉม ขนมและอาหารเลิศรสให้กับวี่รั่วฉิง ----
วี่รั่วฉิงไม่รับไว้เลย นางให้อูมามาเอาไปทิ้งให้หมด
“แม่นาง ทิ้งหมดเลยไม่ดีกระมัง?” อูมามาถามอย่างกังวล
“ถ้าเกิดพวกเขาวางยาพิษในอาหารหรือของใช้เล่า ข้ามิต้องมากังวลแล้วกังวลอีกรึ!” วี่รั่วฉิงตอบ
สามวันต่อมา ทุกวันวี่รั่วฉิงจะไปต่อสู้ประมือกับหลินหลานเทียน ไปๆมาๆทั้งสองคนก็กลายเป็นสหายที่สนิทสนมคุยกันได้ทุกเรื่อง
ชางหลันเย่ได้ยินผลลัพธ์นี้ ก็พอใจมาก “เช่นนี้ ต่อไปวี่รั่วฉิงอยู่ในวังหลังคงไม่เบื่อแล้วล่ะ”
......................................
แคว้นต้าเยียน
พริบตาเดียวก็มาถึงวันเกิดของจวินหย่วนโยว เพราะเมื่อก่อนจวินหย่วนโยวไม่เคยฉลองวันเกิดเลย ดังนั้นเลยไม่ได้บอกใคร
ยิ่งไปกว่านั้นเทียบกับพวกที่มามอบของขวัญ จวินหย่วนโยวชอบอยู่กับหยุนถิงเท่านั้น
แต่เช้า หยุนถิงก็พาจวินหย่วนโยวและลูกทั้งสองไปนอกชานเมืองฝั่งตะวันออก จวินหย่วนโยวเห็นพื้นที่โล่งแต่ไกล และมีคนสิบกว่าคนยืนรออยู่ที่นั่น แถมยังมีของทรงกลมใหญ่มากแขวนอยู่กลางอากาศ ดูแปลกตานัก
“ถิงเอ๋อร์ หรือว่านี่เป็นของขวัญวันเกิดที่เจ้าให้ข้า?” จวินหย่วนโยวถาม
“ท่านแม่ นั่นคืออะไรรึ?” จวินเสี่ยวเทียนถามอย่างสงสัย
จวินเสี่ยวเหยียนเองก็ไม่เคยเห็นสิ่งนี้มาก่อนเช่นกัน รีบวิ่งเท้าเหยาะๆเข้าไปดูทันที
“สิ่งนี้เรียกว่า บอลลูน สามารถเหาะบนฟ้าได้ วันนี้แม่จะพาพวกเจ้าไปดูท้องฟ้าของแคว้นต้าเยียน ฉลองวันเกิดที่ไม่เหมือนเดิมให้พ่อเจ้า” หยุนถิงตอบ
“ซื่อจื่อเฟย ทุกอย่างเตรียมพร้อมแล้ว” หลงเอ้อร์เข้ามาบอก
“ได้” หยุนถิงจูงมือจวินเสี่ยวเทียนและจวินเสี่ยวเหยียนเดินเข้าไป
ทั้งหมดขึ้นไปบนบอลลูน จากนั้นหยุนถิงดึงเชือกลง ลูกบอลลูนค่อยๆลอยขึ้น “ท่านพี่ ท่านอยากให้สี่คนพ่อแม่ลูกเราอยู่กันตามลำพังมิใช่รึ คราวนี้พวกเราเหาะขึ้นฟ้า ไม่มีใครมารบกวนพวกเราอีกแน่”
นี่เป็นครั้งแรกที่จวินหย่วนโยวเห็นของสิ่งนี้ พอเห็นตนเองยิ่งเหาะสูงขึ้นเรื่อยๆ และเห็นทิวทัศน์พื้นด้านล่างทั้งหมด เขารู้สึกสบายและตื่นเต้นยิ่งนัก พลางยื่นมือไปดึงหยุนถิงเข้าอ้อมกอด “ถิงเอ๋อร์เข้าใจข้าที่สุดจริงๆด้วย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ
อัพต่อด้วยจ้า...
รอตอนต่อจ้า...
แต่ละบทที่่อ่านแล้ว ควรมีสีหรือเครื่องหมายที่แตกต่างกัน ผู้อ่านจะได้ทราบว่าเรืื่องนี้อ่านไปถึงบทไหนแล้ว...
รำคานโฆษณาที่เลื่อนเข้ามา เข้าใจได้ว่าต้องหารายได้ แต่ควรนำไปวางไว้ด้านล่างสุด ไม่ด้านซ้ายก็ด้านขวา จะได้ไม่เสียอารมณ์ในการอ่าน ปกติโฆษณาที่อยู่ระหว่างหน้าก็ใหญ่และมากอยู่แล้ว...
ขอร้องทงทีมงานช่วยอัพเดทจนจบด้วยนะคะ😭😭😭😭😭...
เรื่องนี้ทางทีมงานจะอัพเดทต่อมั้ยค่ะ😭...
รอตอนใหม่อยู่นะคะ😭🙏🏻...
เมื่อไหร่จะอัพเพิ่มค่ะหายไปเป็นเดือนแล้วนะ...
รอค่ะ ตามเรื่องนี้มานานมาก อัพตอนต่อจาก 1070 ให้หน่อยค่ะ...
สนุกมากค่ะ รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะรบกวนลงต่อให้จบด้วยค่ะ กำลังสนุก...