“ในเมื่อเป็นศัตรู เจ้าช่วยข้าจัดการซวนอ๋อง ข้าย่อมดีใจอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าครั้งนี้เป็นคำสั่งของเจ้าบ้านตระกูลหรัน ข้าแค่ปฏิบัติตามคำสั่งเท่านั้น!” โม่เหลิ่งเหยียนจงใจกล่าวอย่างเย็นชา
“ท่านลุงหรัน จะเป็นเขาได้อย่างไร?” สีหน้าของเวินฉิงเคร่งขรึมขึ้นมา
“เหตุใดจะไม่ได้ ตระกูลเวินเก็บซ่อนความแข็งแกร่งเอาไว้หลายปีขนาดนี้ ตอนนี้หวนกลับมามีอำนาจอีกแสดงให้เห็นว่ามีอำนาจแข็งแกร่ง หากให้พวกเจ้าบรรลุผลสำเร็จ ต่อไปตระกูลหรันจะไม่สูญเสียอำนาจหรอกหรือ?” โม่เหลิ่งเหยียนถามกลับ
หยุนถิงที่ปลอมตัวเป็นบ่าวรับใช้ชายอยู่ด้านข้าง ยังอดที่จะยกนิ้วโป้งให้กับโม่เหลิ่งเหยียนในใจไม่ได้
ฝีปากของซวนอ๋องช่างยอดเยี่ยมจริงๆ ถึงกับหลอกเก่งได้ขนาดนี้
“ดังนั้น เจ้าอยากจะเป็นศัตรูกับตระกูลเวินของข้า?” สีหน้าของเวินฉิงเย็นยะเยือกสุดขีด กระบี่ยาวที่อยู่ในมือแทงเข้ามากะทันหัน
โม่เหลิ่งเหยียนหลบออกไปทันที ทั้งสองคนต่อสู้กันในชั่วพริบตา
ทุกกระบวนท่าของเวินฉิงหมายเอาชีวิต ใช้แรงกำลังทั้งหมดที่มี แต่นางไม่สามารถทำอะไรโม่เหลิ่งเหยียนได้เลยด้วยซ้ำ ตรงกันข้ามกลับถูกตบหนึ่งฝ่ามือ อวัยวะภายในของคนทั้งคนเจ็บปวดอย่างรุนแรง ราวกับถูกตบจนแหลกสลาย กระอักเลือดออกมาทันที
“คุณหนูใหญ่!” จู่ๆคนชุดดำกลุ่มหนึ่งก็ปรากฏกายขึ้นมา ยิงธนูไปทางโม่เหลิ่งเหยียนสามดอกติดต่อกัน
“ปกป้องซวนอ๋อง!” หยุนถิงตะโกนเสียงดัง ทุกคนต่อสู้กันขึ้นมาหมด
คนชุดดำคนหนึ่งอาศัยตอนที่ทุกคนไม่ทันสังเกต โปรยผงยาสีขาวหนึ่งกำมือเข้ามา โม่เหลิ่งเหยียนใช้มือปิดตาเอาไว้โดยสัญชาตญาณ
“คุณหนูใหญ่ ไปกันเถอะ!” คนชุดดำพาตัวเวินฉิงจากไป
เพียงแต่ว่าพวกเขายังไปกันได้ไม่ไกล จู่ๆคนชุดดำก็ถูกธนูยิงเข้าที่แผ่นหลัง
“คุณหนูใหญ่รีบไปเร็ว เร็วเข้า!” คนชุดดำผลักเวินฉิงออกไป หันหลังไปขวางธนูด้านหลังแทนนาง
เวินฉิงมองดูคนชุดดำที่อยู่ด้านข้างครู่หนึ่ง อดทนต่อความเจ็บปวดหันหลังหนีออกไป
และคนชุดดำเหล่านั้นถูกปิดปากในเวลาแค่ชั่วพริบตาเดียว โม่เหลิ่งเหยียนมองไปทิศทางที่เวินฉิงหนีไป สีหน้าเย็นยะเยือกไม่มีความอบอุ่นใดๆแม้แต่น้อย
พวกเขาจงใจปล่อยเวินฉิงไปนั่นแหละ ที่แสดงละครในวันนี้ ก็เพื่อจะโยนคำผิดให้กับหรันจู๋ซี กล้าคิดร้ายมาถึงตัวเอง ย่อมอภัยให้ง่ายๆไม่ได้อยู่แล้ว
“ท่านพี่ ส่งคนไปตรวจสอบหรันจู๋ซี ถึงกับแอบอ้างตัวเป็นคนเผ่ามารดาของข้า คอยดูว่าข้าจะจัดการเขาอย่างไร!” หยุนถิงกล่าวอย่างเย็นชา
“ตกลง” จวินหย่วนโยวให้หลงยีไปตรวจสอบทันที
“ซวนอ๋องวันนี้โชคดีที่มีท่านอยู่ หลอกถามตัวตนของเขาออกมาได้” หยุนถิงกล่าวขอบคุณ
“กับข้าจะเกรงใจทำไม ต้องขอบคุณเสี่ยวเหยียน นางเป็นคนเตือนสติข้า” โม่เหลิ่งเหยียนตอบ
“อ๋อ?”
โม่เหลิ่งเหยียนถึงได้เล่าเรื่องที่เสี่ยวเหยียนบอกว่าหรันจู๋ซีแกล้งหมดสติออกมา หยุนถิงรู้สึกประหลาดใจมาก นังหนูน้อยคนนี้ดูคนเป็นแล้ว
“กลับไปต้องให้รางวัลเสี่ยวเหยียนแล้ว”
จวนเจ้าเมืองในเวลานี้ จวินเสี่ยวเหยียนกับจวินเสี่ยวเทียนอาศัยตอนที่ทุกคนนอนหลับแล้ว แอบลุกขึ้นมาและตรงไปที่โรงครัว
“พี่ชาย นั่นก็คือยาที่ท่านแม่ให้คนชั่วคนนั้น” จวินเสี่ยวเหยียนกระซิบ
“ในเมื่อเจ้าบอกว่าเขาจงใจแกล้งหมดสติ เช่นนั้นเราจะปล่อยเขาไปไม่ได้” ขณะที่พูด จวินเสี่ยวเทียนก็นำยาพิษป้องกันตัวทั้งหมดที่เอามาจากท่านแม่โรยไปบนยาสมุนไพรพวกนั้น
“เจ้าหนูน้อยคายน้ำลายของเจ้าลงไปบนนั้น ให้คนชั่วคนนั้นกินน้ำลายของเจ้า” จวินเสี่ยวเหยียนปล่อยหนอนกู่ออกมา ให้มันคลานอยู่บนสมุนไพรหลายรอบถึงได้เก็บกลับมา
เด็กน้อยสองคนก็กลับไปที่ลานของตัวเองอย่างระมัดระวัง พวกเขาไม่รู้ว่าการกระทำของตัวเองถูกองครักษ์เงามังกรและองครักษ์ลับของหอดวงจันทร์ที่หมอบอยู่บนกำแพงเห็นหมดแล้ว
“เจ้าหนูน้อยสองคนนี้เหมือนจวินซื่อจื่อ หรือว่าซื่อจื่อเฟย หน้าเนื้อใจเสือจริงๆ” องครักษ์ลับคนหนึ่งกล่าวหยอกล้อ
“ลูกไม้ย่อมหล่นไม่ไกลต้น ข้าว่าพวกเขาไม่เลวเลย”
“ข้าก็เห็นด้วยเช่นกัน คืนนี้คนผู้นั้นถึงกับไม่เคลื่อนไหว ดูท่ายังฉลาดอยู่บ้าง เราต้องจับตาดูให้ดี” องครักษ์ลับของหอดวงจันทร์ตั้งสติขึ้นมา
มองดูหยุนถิงยกยาน้ำเข้ามาอีก หรันจู๋ซีก็หน้ามืดหมดสติไปโดยตรง
หยุนถิงก็ไม่ได้สนใจ วางยาน้ำลงก็หันหลังจากไป ความจริงครั้งนี้นางยกน้ำตาลทรายแดงมา เพียงแต่นึกไม่ถึงว่าเจ้าหมอนี่จะขี้ขลาดเช่นนี้
..........................
แคว้นเป่ยลี่
ฮองเฮารั่วเฟิงซีกับเป่ยหมิงฉี่แต่งงานกันมาหลายเดือน ในที่สุดวันนี้ก็มีข่าวดีเสียที
หมอหลวงอู๋ที่มาจับชีพจรเต็มไปด้วยความยินดี “ยินดีด้วยเหนียงเหนียง ยินดีด้วย เหนียงเหนียงทรงพระครรภ์แล้ว นี่คือชีพจรการตั้งครรภ์ ตอนนี้หนึ่งเดือนกว่าแล้ว”
ฮองเฮารั่วเฟิงซีดีใจและตื่นเต้นมาก “เด็กๆ ตกรางวัล!”
นางกำนัลนำทองคำมายื่นให้แก่หมอหลวงอู๋หนึ่งแท่งทันที
“ขอบพระทัยเหนียงเหนียงพ่ะย่ะค่ะ!” หมอหลวงอู๋กล่าวด้วยความขอบคุณ รีบรับไว้ทันที
“เรื่องที่ข้าตั้งครรภ์ เจ้าอย่าเพิ่งพูดออกไป แม้แต่ฝ่าบาทก็ไม่ต้องพูด รอให้อายุครรภ์ของข้ามากแล้ว เด็กอยู่ตัวแล้วค่อยบอกฝ่าบาท!” รั่วเฟิงซีกล่าว
“พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมรับพระบัญชา” หมอหลวงอู๋ย่อมเข้าใจเจตนาของฮองเฮาอยู่แล้ว
“ทำไมถึงไม่บอกข้า?” เสียงที่สุขุมดังมาจากด้านนอกเรือน เป่ยหมิงฉี่ในชุดมังการ เดินเข้ามาอย่างสง่าผ่าเผยและน่าเกรงขาม
ฮองเฮารั่วเฟิงซีลุกขึ้นมาคำนับทันที “หม่อมฉันคำนับฝ่าบาท”
“ตั้งครรภ์เรื่องใหญ่แบบนี้จะไม่บอกข้าได้อย่างไรกัน หรือกลัวว่าข้าจะปกป้องเจ้าไม่ได้?” เป่ยหมิงฉี่กล่าวถามด้วยสีหน้าไม่พอใจเล็กน้อย
“ไม่ใช่อยู่แล้ว ฝ่าบาททรงปราดเปรื่องทรงอำนาจ ย่อมปกป้องหม่อมฉันได้อยู่แล้ว หม่อมฉันแค่รู้สึกอายุครรภ์น้อยเกินไป อยากรอให้อายุครรภ์มากหน่อยค่อยบอกฝ่าบาท” รั่วเฟิงซีอธิบาย
“เจ้าน่ะ แค่ดูแลร่างกายให้ดีก็พอ ให้ลูกเติบโตและคลอดอย่างปลอดภัย เรื่องอื่นๆมีข้าอยู่ ข้าจะไม่ให้ใครมาทำร้ายเจ้ากับลูกเด็ดขาด!” เป่ยหมิงฉี่ให้คำมั่น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ
อัพต่อด้วยจ้า...
รอตอนต่อจ้า...
แต่ละบทที่่อ่านแล้ว ควรมีสีหรือเครื่องหมายที่แตกต่างกัน ผู้อ่านจะได้ทราบว่าเรืื่องนี้อ่านไปถึงบทไหนแล้ว...
รำคานโฆษณาที่เลื่อนเข้ามา เข้าใจได้ว่าต้องหารายได้ แต่ควรนำไปวางไว้ด้านล่างสุด ไม่ด้านซ้ายก็ด้านขวา จะได้ไม่เสียอารมณ์ในการอ่าน ปกติโฆษณาที่อยู่ระหว่างหน้าก็ใหญ่และมากอยู่แล้ว...
ขอร้องทงทีมงานช่วยอัพเดทจนจบด้วยนะคะ😭😭😭😭😭...
เรื่องนี้ทางทีมงานจะอัพเดทต่อมั้ยค่ะ😭...
รอตอนใหม่อยู่นะคะ😭🙏🏻...
เมื่อไหร่จะอัพเพิ่มค่ะหายไปเป็นเดือนแล้วนะ...
รอค่ะ ตามเรื่องนี้มานานมาก อัพตอนต่อจาก 1070 ให้หน่อยค่ะ...
สนุกมากค่ะ รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะรบกวนลงต่อให้จบด้วยค่ะ กำลังสนุก...