หยุนถิงกับจวินหย่วนโยวและคนอื่นๆแต่งกายในชุดดำ อาศัยความมืดกำบังตัว ปีนข้ามกำแพงเข้าไปในตระกูลเวิน
“ทุกคนแยกย้ายกับไปทำหน้าที่” จวินหย่วนโยวกล่าวอย่างเย็นชา
“ขอรับ!” องครักษ์เงามังกรกับหลิงเฟิงและคนอื่นๆแยกย้ายกันไปทันที
ในขณะที่จวินหย่วนโยวติดตามหยุนถิง ทั้งสองคนหลบเลี่ยงการลาดตระเวน ตรงไปที่ลานหลังโดยตรง
“ท่านพี่ ก่อนหน้านี้ข้าแอบทำอะไรบางอย่างบนตัวของเวินเหลียงหยา เขาแค่ต้องดมกลิ่นไปหาก็พอ” หยุนถิงกล่าว
“ดีมาก” จวินหย่วนโยวกล่าวชม
หยุนถิงพาจวินหย่วนโยวเดินเข้าไปข้างในทันที มองเห็นบ่าวรับใช้ชายเดินผ่าน ทั้งสองคนมองสบตากันครู่หนึ่ง เข้าใจกันและกันทันที ตีสลบไปคนละหนึ่งคน จากนั้นก็ถอดเสื้อผ้าของบ่าวรับใช้ชายออกแล้วเปลี่ยนมัน
เดิมทีจวินหย่วนโยวยังรักสะอาด ไม่อยากจะใส่มัน แต่เพื่อให้ความร่วมมือกับถิงเอ๋อร์ สุดท้ายเขาก็ใส่มัน
ด้วยประการฉะนี้ ทั้งสองคนก็เดินไปทางลานหลังอย่างวางมาดเต๊ะท่า เช่นนี้คนที่ลาดตระเวนอยู่เห็นพวกเขาก็จะไม่ขัดขวาง
หยุนถิงดมกลิ่นก็หาลานของเวินเหลียงหยาเจอได้อย่างง่ายดายมาก เห็นแสงไฟในห้องสว่างไสวจากที่ไกลๆ ยังมีกลิ่นของอาหารอีกด้วย
ด้านในเรือน
เวินเหลียงหยากินอาหารบนโต๊ะอย่างเอร็ดอร่อย “ทำข้าหิวแทบตาย อาหารและเครื่องดื่มระหว่างทางมานี้อนาถเกินไปแล้ว โชคดีที่เจอคนพวกนั้นเข้า มิเช่นนั้นข้าไม่สามารถเอาชีวิตรอดกลับมาด้วยซ้ำ
ข้าบอกกับท่านพ่อว่าจะมอบม้าให้พวกเขาหนึ่งหมื่นตัว เจ้าไปดูสิว่าท่านพ่อให้คนส่งไปหรือยัง ข้าจะผิดคำพูดกับคนอื่นไม่ได้ มิเช่นนั้นข้าไม่มีหน้าไปพบกับผู้มีพระคุณ!”
“ขอรับ!” บ่าวรับใช้ชายรีบไปตรวจสอบทันที
หยุนถิงกับจวินหย่วนโยวที่อยู่ในที่ลับในลานรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย “ท่านพี่ หรือว่าเวินเหลียงหยาไม่ได้เป็นคนส่งมือสังหารพวกนั้นไป?”
คิ้วอันหล่อเหล่าของจวินหย่วนโยวขมวดขึ้นมาเล็กน้อย “ที่นี่คือถิ่นของตระกูลเวิน ตั้งแต่ที่เราเข้ามาที่นี่ ตระกูลเวินต้องรู้ทุกอย่างแน่นอน รวมไปถึงตัวตนของเราด้วย ถึงแม้ไม่ใช่เขาก็เป็นคนตระกูลเวินอยู่แล้ว”
“ที่พูดมาก็ถูก” หยุนถิงเห็นด้วย
หลังจากที่หยุนถิงกับจวินหย่วนโยวสำรวจลานทั้งหมดของตระกูลเวินอย่างชัดเจนแล้ว กำลังจะจากไป ก็เห็นตรงมุมหนึ่งมีชายวัยกลางคนในวัยสี่สิบเศษวิ่งไปทางลานหลังด้วยสีหน้าท่าทางตื่นตระหนก
จวินหย่วนโยวชำเลืองมองครู่หนึ่ง นึกถึงภาพเหมือนที่องครักษ์เงามังกรตรวจสอบเจอ “เขาน่าจะเป็นเวินหานเทียนเจ้าบ้านของตระกูลเวิน!”
“ท่านพี่ รีบตามไปเร็ว” หยุนถิงกล่าวด้วยเสียงที่ได้ยินกันแค่สองคนเท่านั้น
ทั้งสองคนรีบตามไปทันที เห็นเวินหานเทียนมุ่งหน้าไปที่ลานหลัง ผ่านภูเขาเทียมลูกหนึ่งกลับหายตัวไป หยุนถิงขมวดคิ้วขึ้นมา
“ระวังตัวด้วย” ขณะที่พูด จวินหย่วนโยวก็เดินนำหน้า ยื่นมือมาจับมือของหยุนถิงเอาไว้
ทั้งสองคนเดินเข้าไปในภูเขาเทียม ด้านในถึงกับเป็นเส้นทางลับเส้นหนึ่ง บนกำแพงมีคบเพลิงอยู่ คดเคี้ยวเข้าไปข้างในตลอดทาง
“ตามอยู่ด้านหลังข้า!” มือของจวินหย่วนโยวที่จับมือของหยุนถิงกระชับแน่นมากยิ่งขึ้น
“ตกลง!”
ทั้งสองคนเดินไปนานมาก ก็ได้ยินเสียงหนึ่งดังมา
“ตอนนี้คนของข้าได้เข้าไปในพระราชวังต้าเยียนแล้ว ขอเพียงสามารถควบคุมฮ่องเต้ต้าเยียนได้ ทั่วทั้งแคว้นต้าเยียนยังจะไม่เชื่อฟังคำสั่งของข้าหรอกหรือ ถึงเวลานั้นตระกูลเวินข้าจะต้องสามารถลบล้างความอัปยศได้อย่างแน่นอน การเก็บซ่อนความแข็งแกร่งในหลายสิบปีที่ผ่านนี้ ก็เพื่อการในครั้งนี้!” เสียงที่ดังและทรงพลังดังมา
“เจ้าบ้านกล่าวถูกแล้ว คนของเรามาส่งข่าว ฮองเฮา-------”
จู่ๆเสียงด้านในก็เบาลงกะทันหัน หยุนถิงกับจวินหย่วนโยวได้ยินถึงแค่ฮองเฮา ต่อจากนั้นกลับไม่ได้ยินแล้ว
หยุนถิงเห็นหน้าไม้พันจักรกลที่พวกเขาถืออยู่ สีหน้าไม่น่าดูเล็กน้อยทันที นางจำมันได้ในแว๊บแรกที่เห็น นั่นเป็นหน้าไม้พันจักรกลที่นางออกแบบ ทำไมถึงอยู่ในมือของคนตระกูลเวินได้?
“เจ้าบ้านเวินนึกว่าทำเช่นนี้ก็สามารถทำร้ายข้ากับซื่อจื่อเฟยได้แล้วหรือ?” จวินหย่วนโยวถามอย่างเย็นชาด้วยท่าทีสงบนิ่งเหมือนปกติ
เวินหานเทียนมองดูสองคนที่อยู่ตรงหน้า สีหน้าสงบนิ่งราบเรียบ ไม่มีความตื่นตระหนกและหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย ราวกับว่าตรงหน้าพวกเขาไม่ใช่องครักษ์ลับ แต่เป็นพวกแมลงและหนูเท่านั้น
ความกล้าเช่นนี้ กลับทำให้เวินหานเทียนชื่นชม
“จวินซื่อจื่ออย่าเข้าใจผิดไป ข้าย่อมไม่อยากเป็นศัตรูกับจวินซื่อจื่อและซื่อจื่อเฟยอยู่แล้ว ในเมื่อทั้งสองท่านมาที่ตระกูลเวินแล้ว ข้าต้องการจะทำข้อตกลงกับทั้งสองท่านเป็นเช่นไร?” เวินหานเทียนกล่าวจุดประสงค์ของตัวเองออกมา
“เจ้าต้องการให้ข้าทรยศฮ่องเต้ต้าเยียน!” จวินหย่วนโยวถามกลับ
ไม่ใช่คำถาม แต่เป็นการยืนยัน จากสัญญาณต่างๆของตระกูลเวินแสดงให้เห็นว่า สิ่งที่ตระกูลเวินต้องการก็คือบีบบังคับให้สละบัลลังก์ลอบปลงพระชนฮ่องเต้
“ฮ่าๆ สมกับที่เป็นจวินซื่อจื่อ มีสติปัญญาจริงๆ ข้าต้องการร่วมมือกับจวินซื่อจื่อและซื่อจื่อเฟย ร่วมกันโค่นล้มฮ่องเต้ต้าเยียน ไม่ทราบว่าทั้งสองท่านคิดเห็นอย่างไร?” นัยน์ตาที่ลึกล้ำของเวินหานเทียนมีความโหดเหี้ยมแว๊บผ่านไป มองทางจวินหย่วนโยวกับหยุนถิงอย่างเย็นชา
คู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งเช่นนี้ หากไม่สามารถเก็บไว้ใช้งานเองได้ ย่อมไม่สามารถเก็บปัญหาเอาไว้ในอนาคตได้
“หากเราร่วมมือกับเจ้า จะมีผลประโยชน์อะไร?” จู่ๆหยุนถิงก็เอ่ยปากถามขึ้นมา
เวินหานเทียนขมวดคิ้ว ฝ่าบาทปฏิบัติต่อตระกูลหยุนอย่างดี ยิ่งแต่งตั้งหยุนถิงเป็นองค์หญิงด้วยพระองค์เอง ซื่อจื่อเฟยแปรพักตร์รวดเร็วขนาดนี้ ทำให้เขาตกตะลึงเล็กน้อย
“ฝ่าบาทปฏิบัติต่อซื่อจื่อเฟยอย่างดี ซื่อจื่อเฟยจะร่วมมือกับข้าจริงหรือ?”
“ฝ่าบาทปฏิบัติต่อข้าดีจริงๆ แต่ว่านั่นเป็นเพราะข้าช่วยแก้ปัญหายากๆให้ฝ่าบาท ใช้ประโยชน์ซึ่งกันและกันเท่านั้น ตอนนี้ข้ากับท่านพี่ตกอยู่ในอันตราย ต่อหน้าความเป็นความตายเราย่อมต้องเลือกรักษาชีวิตเป็นธรรมดา รีบพูดผลประโยชน์ออกมา” หยุนถิงเร่งเร้า
“สมกับที่เป็นซื่อจื่อเฟย ตรงไปตรงมาดี ข้าสามารถสัญญาว่าขอเพียงสังหารฮ่องเต้ชั่วได้ ยินดีช่วยให้จวินซื่อจื่อขึ้นเป็นฮ่องเต้ และตระกูลเวินข้าขอแค่กลายเป็นผู้นำแปดตระกูลหลัก ตระกูลอันดับหนึ่งแห่งแคว้นต้าเยียน ลบล้างความอัปยศ!” เวินหานเทียนกล่าวเงื่อนไขออกมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ
อัพต่อด้วยจ้า...
รอตอนต่อจ้า...
แต่ละบทที่่อ่านแล้ว ควรมีสีหรือเครื่องหมายที่แตกต่างกัน ผู้อ่านจะได้ทราบว่าเรืื่องนี้อ่านไปถึงบทไหนแล้ว...
รำคานโฆษณาที่เลื่อนเข้ามา เข้าใจได้ว่าต้องหารายได้ แต่ควรนำไปวางไว้ด้านล่างสุด ไม่ด้านซ้ายก็ด้านขวา จะได้ไม่เสียอารมณ์ในการอ่าน ปกติโฆษณาที่อยู่ระหว่างหน้าก็ใหญ่และมากอยู่แล้ว...
ขอร้องทงทีมงานช่วยอัพเดทจนจบด้วยนะคะ😭😭😭😭😭...
เรื่องนี้ทางทีมงานจะอัพเดทต่อมั้ยค่ะ😭...
รอตอนใหม่อยู่นะคะ😭🙏🏻...
เมื่อไหร่จะอัพเพิ่มค่ะหายไปเป็นเดือนแล้วนะ...
รอค่ะ ตามเรื่องนี้มานานมาก อัพตอนต่อจาก 1070 ให้หน่อยค่ะ...
สนุกมากค่ะ รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะรบกวนลงต่อให้จบด้วยค่ะ กำลังสนุก...