สายตาของฉาวซิงและคนอื่น ๆ ต่างก็จับจ้องไปที่เย่อู๋เทียนและเสิ่นรั่วชิง
สีหน้าของทุกคนบ่งบอกว่าไม่อยากจะเชื่อ
โดยเฉพาะเกาเยว่หรูและหยางเฟยเอ๋อร์ ไม่ว่าอย่างไรทั้งสองก็คิดไม่ถึงว่า เสิ่นรั่วชิง......
จะกลายเป็นน้องร่วมสาบานจองฝ่าบาทไปได้ !
ทันใดนั้นเกาเยว่หรูก็รู้สึกได้ว่า ตนเองคือตัวตลกคนหนึ่ง ที่ยังคิดจะเข้าไปทำลายครอบครัวของเสิ่นรั่วชิง ยังคิดที่จะหาโอกาสใช้กลยุทธ์สาวงามกับเย่อู๋เทียน !
ยังไม่ต้องพูดถึงเลยว่าเย่อู๋เทียนจะหลงกลอุบาย....
ต่อให้เย่อู๋เทียนหลงกล หากเสิ่นรั่วชิงรู้เรื่องนี้เข้า เกรงว่าเธอคงทำแค่แบะปาก ไม่ใช่แค่เธอจะหายไปจากโลกนี้ ต่อให้เป็นกลุ่มการค้าหลากหลายชาติพันธุ์ ล้วนต้องหายไปจากโลกนี้ด้วยเหตุผลนี้ทั้งสิ้น !
เมื่อคิดได้อย่างนี้ แววตาของ เกาเยว่หรูที่มองเสิ่นรั่วชิงก็เต็มไปด้วยความหวาดผวา
โชคดีที่......
เธอได้แต่คิดเรื่องนี้กับเย่อู๋เทียนเท่านั้น ยังไม่ได้มีการเคลื่อนไหวใด ๆ หากได้มีการเคลื่อนไหวไปแล้ว ผลลัพธ์คงจะยากที่จะนึกถึงได้ !
ล่วนหยางเฟยเอ๋อร์นั้น......
แน่นอนว่าคงต้องผิดหวัง แต่เธอนั้นไม่ได้เสียใจต่อการกระทำทั้งหมดในวันนี้
กลับกัน เธอคือผู้หญิงที่ได้ผ่านความตายมาแล้ว
ไม่ว่าอะไรเธอก็ไม่กลัว
หลังจากที่เสิ่นรั่วชิงตอบกลับชายวัยกลางคนไม่กี่ประโยคอย่างเกรงใจ ชายหนุ่มที่มีฐานะเป็นเลขาของฝ่าบาท ก็ค่อย ๆ เดินจากไป
เย่อู๋เทียนจับมือของเสิ่นรั่วชิง พูดกับเธอว่า “พวกเราไปกันเถอะ”
เสิ่นรั่วชิงพยักหน้าอย่างอ่อนโยน
ในที่สุดอ้ายเสี่ยวเตี๋ยก็ได้สติกลับคืนมา เมื่อเห็นเย่อู๋เทียนและเสิ่นรั่วชิงเดินออกจากร้านเสื้อผ้าสตรีไป จึงรีบตามคนทั้งสองออกไปด้วย
ใช้เวลาพักหนึ่งกว่าที่อารมณ์จะกลับมาอยู่ในสภาวะปกติ
ต่อให้ตอนนี้ทุบศีรษะของอ้ายเสี่ยวเตี๋ยจนแตก เธอก็ไม่มีทางเชื่อว่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดคือเรื่องจริง
เพื่อนสนิทของเธออย่างเสิ่นรั่วชิง เป็นน้องร่วมสาบานของฝ่าบาท !
และที่ทำให้เธอคิดเท่าไหร่ก็หาคำตอบไม่ได้ก็คือตัวตนของเย่อู๋เทียน !
เย่อู๋เทียนไม่ได้เป็นคนของตระกูลเย่ ตระกูลที่ไม่มีอะไรเลยในเมืองเจียงไห่หรอกหรือ ?
ทำไมถึงมีความสัมพันธ์กับฝ่าบาทได้ ?
อยากถาม
แต่ก็ไม่กล้า
ภายในร้านขายเสื้อผ้าเฟยฉือ ฉาวซิงและคนอื่นได้สติกลับมาแล้ว
หยางเฟยเอ๋อร์มองเย่อู๋เทียนและเสิ่นรั่วชิงเดินจากไปอย่างว่างเปล่า ในใจมีแต่ความสับสน
จากนี้ไปจะทำอย่างไรต่อดี ?
หยางเฟยเอ๋อร์ตอนนี้ไม่สนใจอะไรอีกแล้ว ไม่ว่าจะหน้าที่การงาน เงินทอง ล้วนไม่อยู่ในสายตาของเธอ เธอคิดอยากครอบครองแค่เย่อู๋เทียนเท่านั้น !
แต่ว่าดูแล้วหลังจากนี้.....
เย่อู๋เทียนนั้นราวกับเทพมังกรที่ทะยานขึ้นสู่สรวงสวรรค์ ส่วนเธอนั้น กลับเป็นได้แค่ดอกไม้ที่ปลิวไสวไปตามสายลม
ฉาวซิงมองหยางเฟยเอ๋อร์ที่เต็มไปด้วยความคับแค้นใจ จึงถอนหายใจออกมาและพูดกับเธอว่า “เฟยเอ๋อร์ แม้ว่าพ่อจะไม่รู้ว่าตัวตนของเย่อู๋เทียนเป็นใคร แต่พ่อก็มองออก ว่าลูกกับเขาไม่คู่ควรกัน”
หยางเฟยเอ๋อร์น้ำตาไหลริน !
ฉาวซิงลองยกมือขึ้นไปวางไว้บนไหล่ของเธอ จากนั้นพูดขึ้นมาว่า “กลับบ้านกันเถอะ ไปสืบทอดมรดกของพ่อ ลูกยังเด็ก
ไม่แน่ว่าถ้าลูกพยายามต่อไป วันใดวันหนึ่งก็จะสามารถเป็นเพื่อนกับเย่อู๋เทียนได้ !”
หยางเฟยเอ๋อร์ฝืนยิ้มด้วยความเจ็บปวด “กลายเป็นเพื่อนกับเขา ? หลังจากวันนี้ไป กลัวว่าแค่หวังจะพบหน้าเขา ก็แทบเป็นไปไม่ได้แล้ว !”
ฉาวซิงไม่รู้ว่าจะปลอบใจหยางเฟยเอ๋อร์อย่างไรต่อแล้ว
ทันใดนั้นหยางเฟยเอ๋อร์ก็พูดขึ้นมาว่า “ทำไมพ่อถึงรีบทำพินัยกรรมนักล่ะ ?”
ฉาวซิงถอนหายใจ “ขึ้นไปคุยกันด้านบนเถอะ”
สองพ่อลูกขึ้นไปบนตึก จากนั้น ฉาวซิงก็ได้เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับโรคร้ายของเขาให้แก่หยางเฟยเอ๋อร์ฟัง
เมื่อหยางเฟยเอ๋อร์ได้ฟังจนจบ แววตาที่มองฉาวซิงก็เต็มไปด้วยความสงสารอย่างอดไม่ได้
บุคคลที่เป็นดั่งวีรบุรุษในยุคนี้ กลับต้องมาบอกลาโลกแต่เพียงเท่านี้
ฉาวซิงพูดด้วยความโศกเศร้าว่า “ความผิดผลาดที่เกิดขึ้นในตอนนั้น ที่พ่อทิ้งแม่ของลูกไป ตอนนี้มาลองคิดดู กลับรู้สึกเสียดายเหลือเกิน ในช่วงชีวิตคน ไม่ว่าจะเงินทอง อำนาจ หญิงงาม สุดท้าย ก็เหมือนเมฆที่ล่องลอย ในท้ายที่สุดก็ต้องกลายเป็นเศษดินไม่ใช่หรือ ? ความปรารถนาของพ่อในตอนนี้ ก็คืออยากให้ลูกให้อภัยพ่อ พ่อหวังจริง ๆ ว่าลูกจะมีความสุขได้ในทุก ๆ วัน !”
หยางเฟยเอ๋อร์เงียบลงไปสักพัก ก่อนจะพูดขึ้นว่า “หนูรู้จักคนที่สามารถช่วยชีวิตพ่อได้”
ฉาวซิงส่ายหน้า “สายไปแล้วล่ะ พระเจ้าก็ไม่อาจช่วย แม้แต่คนของหอร้อยยา พ่อก็เคยไปรับการรักษาแล้ว อีกฝ่ายเคยบอกเอาไว้ ว่าไม่มีหนทางรักษาอีกแล้ว !”
หยางเฟยเอ๋อร์พูดด้วยสายตาแน่วแน่ว่า “เย่อู๋เทียนรักษาพ่อได้ !”
แถมยังเป็นหยางเฟยเอ๋อที่โทรเข้ามาด้วย
เย่อู๋เทียนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จนในที่สุดจะกดรับสายไป โดยตั้งใจว่าจะพูดกับหยางเฟยเอ๋อร์ให้ชัดเจนว่าเรื่องของเขากับเธอไม่มีทางเป็นไปได้
แต่คิดไม่ถึงว่า เพียงแค่เพิ่งจะกดรับสายเท่านั้น หยางเฟยเอ๋อร์ก็พูดขึ้นว่า “เย่อู๋เทียน ฉันขอโทษ !”
ได้ยินดังนั้น เย่อู๋เทียนก็กลายเป็นว่าพูดอะไรไม่ออก เงียบลงอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะพูดออกมาอย่างเฉยเมยว่า “ไม่เป็นไร”
หยางเฟยเอ๋อร์พูดเบา ๆ ว่า “ฉันมีเรื่องอยากขอร้องให้นายช่วย”
เย่อู๋เทียนถาม “เรื่องอะไรงั้นหรือ ?”
หยางเฟยเอ๋อร์พูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือเล็กน้อย “พ่อของฉันร่างกายกำลังแย่ นาย....จะช่วยรักษาเขาให้หน่อยได้รึเปล่า ?”
เย่อู๋เทียนตอบ “ตอนที่อยู่ในร้านเมื่อครู่ฉันดูออกแล้วล่ะ เขาไม่ได้เป็นอะไรมาก ฉันจะส่งคนไปช่วยดูพ่อของเธอให้”
หยางเฟยเอ๋อร์พูดด้วยความผิดหวังว่า “นายจะไปดูด้วยตัวเองไม่ได้หรือ ? คนอื่น....ฉันไม่ค่อยไว้ใจ”
เย่อู๋เทียนเงียบลงสักพัก ก่อนจะพูดขึ้นว่า “ก็ได้ คืนนี้แล้วกัน ฉันจะหาเวลาไปดูให้”
หยางเฟยเอ๋อร์ได้ยินก็ดีใจ รีบพูดออกมาทันทีว่า “พ่อฉันกลับไปเจียงหนานแล้ว หวังว่านายจะไปได้นะ”
เย่อู๋เทียนฝืนยิ้ม “นี่ก็ไม่ได้มีเรื่องอื่นแล้วใช่หรือเปล่า ? คราวหลังอย่าทำให้ฉันต้องอยู่ในสถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออกอย่างวันนี้อีก !”
หยางเฟยเอ๋อร์พูดด้วยสีหน้าบิดเบี้ยวว่า “จะเป็นไปได้ยังไง ! ฉันไม่ได้โง่ขนาดนั้นสักหน่อย ! ได้ เอาอย่างนี้ก่อนก็ได้ อีกสองวันเจอกัน !”
พูดจบเธอก็กดวางสายไป
แต่ที่ไม่คาดคิดก็คือ เย่อู๋เทียนเพิ่งจะวางสายไป ด้านหลังก็มีเสียงของอ้ายเสี่ยวเตี๋ยที่กำลังพูดคุยกับเสิ่นรั่วชิงดังขึ้นมา
“ฉันนึกไว้อยู่แล้วว่าเรื่องของเขากับหยางเฟยเอ๋อร์คงไม่ง่ายอย่างนั้นหรอก ! ผู้ชายมันก็เหมือนกันหมด ไม่รู้จักพอ ! ฉันบอกเธอเลยนะเสิ่นรั่วชิง ไม่ว่าเธอจะเก่งขนาดไหน เธอก็ยังคงเป็นเพื่อนสนิทของฉัน หากแค่หัวใจของชายคนเดียวยังคว้าไว้ไม่ได้ เธอต้องโดนฉันดูถูกแน่ !”
“ฉันไม่ได้ว่าเธอหรอกนะ แต่ท่าทางแบบนี้ รูปร่างแบบนี้ ยังไม่สามารถทำให้เย่อู๋เทียนอยู่ในโอวาทของเธอได้อีกหรือไง ? ถ้าฉันเป็นเธอนะ ฉันจะยอมให้เขามีโอกาสไปอยู่กับหญิงสาวรูปงามคนอื่นหรือ ?”
“ฉันบอกเธอให้นะ พอถึงคืนนี้ เธอจะต้องหน้าไม่อาย ทำให้ตัวเองเป็นเครื่องคั้นน้ำ ! บีบคั้นเขาให้ตาย ! อ่อ ชุดนอนเมื่อกี้ก็สวยดีนะ แต่กลับไม่ซื้อซะได้ เธอไม่รู้หรือว่าจะกุมหัวใจชายหนุ่มได้ยังไงน่ะ !”
ได้ยินดังนั้น เย่อู๋เทียนก็รู้สึกได้ถึงสัญชาตญาณอันรุนแรง
เพื่อนของเสิ่นรั่วชิงคนนี้.....
ปกติแล้วเป็นพวกชอบซุบซิบเรื่องชาวบ้านนี่นา !
ไม่ทันได้คาดคิด เย่อู๋เทียนที่เพิ่งจะมีความคิดอย่างหนึ่งผุดขึ้นมา เสิ่นรั่วชิงก็พูดกับอ้ายเสี่ยวเตี๋ยแล้วว่า
“เธอไม่เคยมีแฟนด้วยซ้ำ จะเข้าใจผู้ชายได้ยังไง ? ชุดนอนเมื่อกี้ลายดอกไม้เยอะเกินไป เขาต้องไม่ชอบแน่ ๆ เขาน่ะ....ชอบถุงน่อง ! เธอช่วยฉันเลือกหน่อยสิ ดูสิว่าชุดสูทแบบไหนใส่เข้ากับถุงน่องแล้วสวย ! กลับบ้านไป ฉันจะใส่ให้เขาดู !”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบอหังการ
เรื่องนี้อะไรก็ดีหมด เสียอย่างเดียวคือไม่เข้าใจว่าทำไมเหมือนพยายามจะยัดเยียดพระเอกให้มีเมียมากกว่า1? พระเอกเก่งมีเมียคนเดียวไม่ได้?...