จอมนักรบอหังการ นิยาย บท 148

พรวด!

หานฟางอวี้กระอักเลือดออกมาคำโต สีหน้าซีดเผือดขั้นสุด

ในตอนนี้เอง คำพูดเมื่อครู่ของเย่อู๋เทียนพึ่งออกมา "ตอนนี้คุณยังไม่คู่ควรฝึกเสียงหลายท่อนเมื่อกี้ที่ผมพึ่งท่องออกมา นั่นเป็นสูตรท่องของขั้นที่ห้าถึงขั้นที่แปดในวิชาชี่จักรพรรดิ!"

ที่น่าเสียดายก็คือ พูดช้าไป

หานฟางอวี้เพียงรู้สึกว่าลมปราณภายในของตนสับสนไปหมดแล้ว ลมปราณภายในร่างเขาโดนแรงสะท้อนอย่างรุนแรง!

ลมปราณหลายสายพร้อมใจกันเคลื่อนไหวราวกับงูสีเงินตัวเล็กที่ซ่อนตัวอยู่ในเส้นชีพจรบิดตัวพร้อมกันอย่างบ้าคลั่ง และยังพุ่งตรงเข้าหัวใจด้วย!

ร่างกายอายุเกือบเก้าสิบแล้วของหานฟางอวี้ มีหรือจะรับไหว?

ความเจ็บปวดแบบนี้ไม่ต่างกับความเจ็บปวดของการกดทับชีพจรเลย

พูดได้ว่า สมมติมีคนป่วยคนหนึ่งนอนอยู่บนเตียง นอนให้น้ำเกลืออยู่ พลันมีคนเข้ามาบิดตรงที่ปรับของขวดน้ำเกลือ ความรู้สึกนั้นคนที่ไม่เคยลองไม่มีทางคาดคิดออกมาได้แน่ เส้นเลือดปูดโปนฉับพลัน ได้รับการกระแทกด้วยแรงกดดันสูง จะทำให้คนรู้สึกเหมือนเส้นเลือดพร้อมจะระเบิดออกมาได้ทุกเมื่อ

และเทียบกับความรู้สึกที่ว่าแรงดันสูงโจมตีเส้นเลือดแบบนี้ แรงดันสูงโจมตีชีพจรก็คือกดทับชีพจร!

นี่มันแรงมากกว่าความเจ็บปวดแบบแรงหลายเท่านัก!

ที่สำคัญที่สุดคือ ตอนนี้หานฟางอวี้ไม่เพียงได้รับความเจ็บปวดแบบนี้แค่ชีพจรเดียว แต่เป็นชีพจรทั้งร่างได้รับความเจ็บปวดแบบนี้

หานฟางอวี้เจ็บปวดแทบร้องไห้แล้ว ดวงตาคู่นั้นเบิกโพลงราวกับระฆัง จ้องมองเย่อู๋เทียนเขม็ง เหมือนตายตาไม่หลับ!

ถ้าไม่ใช่เพราะคนที่ยืนอยู่เบื้องหน้าเป็นเย่อู๋เทียน เขาต้องด่ากราดแล้วแน่!

ทำไมไม่รีบบอก?

ทำไมไม่รีบบอก?

เย่อู๋เทียนไอ้เด็กบ้านี่ ทำไมไม่รีบบอก?

ถังจิ่วเชียนกับหานจื่อหยวนที่อยู่ด้วยเห็นภาพนี้เข้า ถึงจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ก็ตกตะลึงไม่น้อย!

หานฟางอวี้เมื่อกี้ยังดีๆอยู่ ทำไมจู่ๆก็กระอักเลือดล่ะ?

ท่าทางเหมือนกับจะตาย นี่มันเรื่องอะไรกันแน่?

ในตอนนี้เอง เย่อู๋เทียนพลันยื่นมือออกมาจี้จุดที่หัวใจของหานฟางอวี้

พริบตานั้น หานฟางอวี้หน้าเหมือนปลาตาย!

เพียงรู้สึกว่าลมปราณที่บ้าคลั่งทะลุทะลวงจุดถานจงของเขาเข้าสู่หัวใจทันที

หานฟางอวี้สะพรึงกลัวนัก!

เพราะในวินาทีนี้ ที่เขารู้สึกคือใกล้จะตายอยู่รอมร่อแล้ว!

สมองพลันว่างเปล่า...

เขาคิดว่า วันนี้ตนต้องตายที่เจียงไห่นี่แล้ว!

ตนเองคอยรับใช้อยู่ข้างกายอาจารย์หลวงหานอย่างระมัดระวังมาห้าสิบปี!

วันเวลายาวนานขนาดนี้ ตนเองยังไม่เคยทำอะไรชั่วช้าเลวทรามเลยนะ!

ทำไมสุดท้ายกลับมาโดนเย่อู๋เทียนฆ่าตายเสียนี่เล่า?

ไม่แปลกที่หานฟางอวี้จะคิดแบบนี้

เพราะว่าลมปราณที่จู่ๆก็เข้ามาจุดถานจงของเขานั้น น่ากลัวกว่าลมปราณสับสนในร่างเขามากมายนัก!

หานฟางอวี้มั่นใจมากว่า...

ยามลมปราณบ้าคลั่งนั่นไหลตามเส้นชีพชรเข้าสู่หัวใจ หัวใจแก่ๆของเขานี้...ก็จะขยี้เป็นผงคาที่เลย!

แต่ในช่วงเวลาเร่งด่วนนี้ หานฟางอวี้พลันรู้สึกลมปราณที่มาไม่ทันรู้ตัวนี้ประหนึ่ง ลมพายุฝนบ้าคลั่งพลันกลายเป็นลมฝนอ่อนโยน!

รายล้อมรอบหัวใจเขา!

จากนั้นลมปราณเริ่มกระจายไปรอบๆหัวใจเขา ทุกที่ที่ไปประหนึ่งดินแดนแห้งแล้งได้เจอฝนพรำ……

สบายอย่างบอกไม่ถูก!

แค่เพียงครู่เดียว สีหน้าหานฟางอวี้กลับเป็นแดงเรื่อ

หานฟางอวี้เผยสีหน้าตกตะลึงขีดสุดออกมา

นี่มัน....

เย่อู๋เทียนมองหานฟางอวี้ พลางยิ้มอธิบายว่า “ดวงคุณไม่เลว สามารถเปลี่ยนร้ายเป็นดีได้”

สายตาหานฟางอวี้พลันเปลี่ยนเป็นลิงโลดขึ้นมา!

เพราะเขารู้ดีว่าคำพูดนี้ของเย่อู๋เทียนหมายถึงอะไร!

เดิมเพราะเขาแก่มาก ชีพจรในร่างหลายเส้นแก่ง่อมจนแทบไม่เหลือแล้ว!

แต่ตอนนี้พลันเหมือนกลับเป็นหนุ่มอีกครั้ง!

เส้นชีพจรทั่วร่างประหนึ่งถนนสายเดิมที่จู่ๆได้รับการฟื้นฟูและก่อสร้างใหม่ ให้เหมือนแรกเริ่ม!

หานฟางอวี้....

เข้าแดนที่สี่เอาดื้อๆ!

ออร่าทั่วร่างเกิดการเปลี่ยนแปลงแบบที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า!

รู้สึกกลายๆเหมือนได้บรรลุเลย!

กระทั่งทั้งตัวพลันมีประกายแสงที่ยากจะอธิบายด้วยวิทยาศาสตร์ได้ออกมา!

ยกมือยกเท้าขึ้นมาล้วนเป็นลมปราณ!

สายตาที่หานฟางอวี้มองเย่อู๋เทียนเต็มไปด้วยความตกตะลึง

เพียงเพราะว่า...

เมื่อครู่ตนเองพึ่งแอบปรับลมปราณโดยพลการ ฝึกสูตรท่องของขั้นที่ห้าถึงขั้นที่แปดในวิชาชี่จักรพรรดิ...

ดังนั้น...

เลยเปลี่ยนร้ายเป็นดี?

ตนไม่เพียงไม่ตายเพราะโดนผลสะท้อน ตบะยังขยับสูงขึ้นอีกขั้น?

ไม่อยากจะเชื่อเลย!

ไม่อยากเชื่อเลยจริงๆ!

หลายสิบปีมานี้พยายามขยับเพิ่มตบะ วันนี้แค่เพราะนิ้วเดียวของเย่อู๋เทียนก็บรรลุขั้นแล้ว?

เย่อู๋เทียนมองหานฟางอวี้ด้วยสีหน้าเรียบเฉยพลางว่า “นับจากวันนี้เป็นต้นไป คุณสามารถฝึกฝนวิชาชี่จักรพรรดิได้แล้ว ไม่ว่าคุณฝึกฝนสูตรท่องขั้นไหนของวิชาชี่จักรพรรดิ ก็จะราบรื่นมาก! อีกอย่างผมไม่รู้ว่าคุณรู้ไหมว่า วิชาชี่จักรพรรดิมีทั้งหมดแปดขั้น แต่ไม่ว่าจะขั้นไหน อันที่จริงเป็นแค่วิธีฝึก แต่ไม่ใช่แดน เพียงแต่นักสู้ปกติ พอเริ่มฝึกฝนสูตรท่อง ก็จะโดนผลสะท้อน พูดอีกอย่างได้ว่า วิชาอย่างวิชาชี่จักรพรรดินี่ ระดับในการฝึกสูงมาก อย่างน้อยถึงระดับสุดของพลังตันถึงจะได้!”

พอคำพูดนี้ออกมา ริมฝีปากของหานฟางอวี้สั่นเทาด้วยความตื่นเต้น!

พูดอะไรไม่ออกแล้ว!

ง่ายขนาดนี้ ตนก็สามารถบรรลุด่านกั้นทั้งหมดของวิชาชี่จักรพรรดิ? ต้องรู้ไว้นะ เหล่าจู่อาจารย์หลวงหานแห่งตระกูลหาน อายุมากถึงหนึ่งร้อยห้าสิบปี พยายามมาทั้งชีวิตก็ยังฝึกได้แค่ขั้นที่สามของวิชาชี่จักรพรรดิเท่านั้นเอง!

ตอนนี้ตนแข็งแกร่งยิ่งกว่าอาจารย์หลวงหานงั้นหรอ?

พริบตาเดียว หานฟางอวี้คิดขึ้นมาได้เรื่องหนึ่ง เขามองเย่อู๋เทียนอย่างตกตะลึงอึ้ง ถามด้วยเสียงสั่นเทาว่า “เจ้าบ้าน เมื่อครู๋คุณบอกว่า...มีวันหนึ่งตอนนั้นคุณรู้สึกเบื่อไม่มีอะไรทำ ถึงได้ครุ่นคิดค้นวิชาชี่จักรพรรดินี่ออกมา ผมขออนุญาตถามสักคำว่า คุณ...คือว่า...เรียนวิชานี้สำเร็จ....ตอนไหน?”

เย่อู๋เทียนยิ้มบางบอก “หกปีก่อนล่ะมั้ง”

คำนี้ออกมา หานฟางอวี้เหมือนโดนสายฟ้าฟาด!

น้ำตาไหลอาบแก้มด้วยความตื้นเต้นขั้นสุด!

เย่อู๋เทียนยิ้มมองทั้งคู่ พูดกับหานฟางอวี้ว่า “ถ้างั้นคุณกลับตี้ตูไปก่อน เอายาเม็ดนั้นในตราจักรพรรดิให้คุณท่าน จากนั้น...กลับมาเจียงไห่ฝึกฝนเป็นเพื่อนศิษย์รักของผมสักปีครึ่งแล้วกัน”

หานฟางอวี้ถึงได้เข้าใจ...

เย่อู๋เทียนต้องการให้เขาฝึกฝนเป็นเพื่อนเฉียนเป่ยเฉินจริงๆ

หานฟางอวี้กำลังจะรับปาก เย่อู๋เทียนพลันมองถังจิ่วเชียน และสำทับเพิ่มว่า “เดิมอยากให้เขามาฝึกฝนเป็นเพื่อนเฉินเอ๋อร์ แต่ตอนนี้ดูแล้ว เขาอ่อนแอเกินไป หมดสิทธิ์แล้ว”

สวรรค์เท่านั้นที่รู้ว่าตอนนี้ถังจิ่วเชียนรู้สึกอย่างไร!

ผู้แข็งแกร่งระดับแดนสามขั้นสุด อ่อนแอมากเกินไป?

มีแต่เย่อู๋เทียนที่พูดแบบนี้ได้!

หานฟางอวี้กลับพูดอย่างจริงจังว่า “หานฟางอวี้น้อมรับคำสั่งเจ้าบ้าน!”

เย่อู๋เทียนพูดอย่างพอใจว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เอาอย่างนี้แล้วกัน จริงสิ รอจนคุณท่านกินยาเม็ดนั้นแล้ว เขาก็จะสามารถฝึกฝนอีกสี่ขั้นที่เหลือของวิชาชี่จักรพรรดิได้ละ แต่ต้องจำไว้ให้แม่น ตอนแรกอย่ารีบร้อนเกินไป เพราะอายุเขามากเกินไป ถ้าเกิดโดนผลสะท้อน จะไม่อาจคาดคิดผลลัพธ์ได้เลย!”

หานฟางอวี้พูดอย่างตื่นเต้นว่า “ครับ เจ้าบ้าน! หานฟางอวี้จะจำขึ้นใจเลย!”

ต่อให้ฆ่าหานฟางอวี้ เขาก็คงไม่คิดว่า ตนเองมาไกลเพื่อมาเจอเย่อู๋เทียน แค่เจอเขาครั้งเดียว ตนเองก็เข้าแดนที่สี่!

และยังเพิ่มอายุให้ตนเองไปอีกหลายสิบปี!

เย่อู๋เทียนกลับไม่ได้พูดอะไรมากอีก หมุนตัวจะเดินไปหาเสิ่นรั่วชิง

ในตอนนี้เองหานฟางอวี้พลันเดินมายืนหน้าถังจิ่วเชียน ไม่พูดพร่ำทำเพลง ซัดหมัดออกไปหนึ่งหมัด!

ปึ้ง!

ถังจิ่วเชียนโดนชกลอยไปไกลหลายสิบเมตรราวกับว่าวที่สายขาด!

ตอนล้มยังกระอักเลือดไม่หยุด

เย่อู๋เทียนมองหานฟางอวี้อย่างสงสัย

หานฟางอวี้พูดอย่างเก้อเขินว่า “หลายสิบปีไม่ได้ซัดใครแล้ว ผมเลยอยากทดสอบอานุภาพหมัดตนเองหน่อย!”

พอคำนี้ออกมา ถังจิ่วเชียนที่กระเด็นไปไกลหลายสิบเมตรเป็นลมสลบเหมือดไปเลย

แม่งเอ๊ย...

นี่มันสมควรแล้วรึ?

เย่อู๋เทียนก็ส่ายหัวอย่างหน่ายใจเหมือนกัน เขาเดินมายืนข้างเสิ่นรั่วชิง จูงมือเธอพลางว่า “ไปเถอะ เป็นเพื่อนคุณไปสัมภาษณ์งาน!”

“...”

เสิ่นรั่วชิงพูดไม่ออก

สัมภาษณ์งาน?

สัมภาษณ์งานกะผีสิ!

เทียนจวินกรุ๊ปเป็นของคุณ ฉันเป็นเมียคุณ คุณให้ฉันมาสัมภาษณ์งานธุรกิจภายใต้ชื่อคุณ?

เสิ่นรั่วชิงบอก “ฉันจะเป็นคุณนาย!”

เย่อู๋เทียนยิ้มบอก “มันไม่ได้หรอก คุณยังไม่มีประสบการณ์ด้านธุรกิจเลย ต้องเริ่มฝึกจากตำแหน่งธรรมดาสักระยะ ค่อยเป็นคุณนายละกัน!”

เสิ่นรั่วชิงบอก “ฉันจะมีลูกให้คุณอีกคน!”

เย่อู๋เทียนยิ้มบอก “อันนี้พอคุยกันได้!”

ภายใต้สายตาประชาชี เย่อู๋เทียนกับเสิ่นรั่วชิงเดินเข้าไปในอาคารเทียนจวิน

แต่หลังจากเข้าไปในอาคารเทียนจวิน เย่อู๋เทียนพลันนึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ คนคนนั้นที่ก่อนหน้านี้ปรากฏตัวขึ้นที่ดาดฟ้าอาคารเทียนจวินเป็นใครกันแน่นะ?

พอคิดถึงตรงนี้ เย่อู๋เทียนหันมองไปยังชั้นดาดฟ้าของบริษัทลูกของเทียนจวินกรุ๊ป พลางถาม “ชั้นดาดฟ้าของอาคารเทียนจวินมีกล้องวงจรปิดไหม?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบอหังการ