ใบหน้าของเจียงอานไท่ บิดเบี้ยว
ตอนนี้มีเวลาห่างจากตอนเย็นไปแค่เจ็ดหรือแปดชั่วโมง
แม้ว่าจะมีแขกผู้มีเกียรติที่ได้รับมอบหมายจากฝ่าบาทอยู่ที่อีกฟากหนึ่งของถนนทิงเฉา แต่ทำไมจะต้องเตรียมตัวล่วงหน้านานขนาดนี้ด้วย?
เจียงอานไท่ มองไปที่ประตูร้านขายเครื่องประดับของเฉินเมิ่งเฉี่ยนอย่างเกลียดชัง จากนั้นเขาก็กัดฟันตอบโล่เชียนฟานที่ปลายสาย
"ก็แค่รถ ฉันจะเตรียมให้!"
“แต่ตอนนี้ พี่ชายจะต้องส่งคนมาที่นี่”
“คนที่หยามฉันคือเฉินเมิ่งเฉี่ยน จากเฉินซื่อ เพรชพลอยแห่งเมืองหนานกั่ง”
“ผู้หญิงสารเลวนี่ ต่อให้ไม่เห็นฉันอยู่ในสายตา แต่แม้กระทั่งตระกูลโล่เธอก็ไม่เห็นหัวเลยหรือไงกัน?”
โล่เชียนฟานที่อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ขมวดคิ้วเล็กน้อย
“คนของเฉินซื่อแห่งเมืองหนานกั่ง?”
เจียงอานไท่ ตอบอย่างเกลียดชัง
“ใช่แล้ว เป็นคนของเฉินซื่อแห่งเมืองหนานกั่ง ถ้าเป็นหมาแมวทั่วไป ฉันจะโทรหาพี่ได้ยังไงกัน?"
“เฉินซื่อแห่งเมืองหนานกั่ง ขัดแย้งกับตระกูลโล่มาโดยตลอด!”
“เกรงว่าเป็นเพราะเรื่องนี้ เธอถึงได้กล้าหยามฉันขนาดนี้!”
“พี่ชาย คุณเป็นคนที่น่านับถือที่สุดคนหนึ่งในตระกูลตระกูลโล่แห่งตี้ตู หรือว่าคุณจะยอมรับความอัดอั้นนี้ได้งั้นหรือ?”
โล่เชียนฟานที่ปลายอีกด้านเงียบไปครู่หนึ่งและค่อยตอบตกลง
“ได้ ฉันจะพาคนไปที่เฉินซื่อแห่งเมืองหนานกั่ง หลายปีมานี้ อาศัยว่ามีความเกี่ยวข้องกับตระกูลถังแห่งตี้ตูก็เลยหยิ่งผยองขึ้นมามากเกินไปแล้ว!”
เจียงอานไท่ ดีใจมากเมื่อได้ยินแบบนั้น เขาวางสายและจ้องไปที่เฉินเมิ่งเฉี่ยนที่ประตูร้านขายเครื่องประดับ
“นังผู้หญิงสารเลว รอฉันก่อนเถอะ อีกเดี๋ยวพี่ชายของฉันจะพาคนมาที่นี่ทันที!”
“แน่นอนว่า ถ้าเธอเรียกเย่อู๋เทียนกลับมาตอนนี้และคุกเข่าลงให้ฉันเพื่อยอมรับความผิดพลาด ฉันก็อาจจะลงโทษเธอเล็กๆ น้อยๆ แทนได้”
“ไม่เช่นนั้น ข้าจะให้คนจำนวนมากฆ่าเธอให้ตายทั้งเป็น!”
เฉินเมิ่งเฉี่ยนขมวดคิ้วเล็กน้อย เธอมองไปที่เจียงอานไท่ จากเบื้องสูงและค่อยๆ เอ่ยขึ้นช้าๆ
“ถ้านายอยากตาย อย่างนั้น ฉันจะช่วยสงเคราะห์”
ทันทีที่พูดจบ เฉินเมิ่งเฉี่ยนก็มาถึงหน้าเจียงอานไท่ ในเพียงวูบเดียว
จากนั้นหมัดหนึ่งก็กระแทกเข้าที่หน้าอกของเขา
ในชั่วพริบตาเจียงอานไท่ ก็กระเด็นข้ามไปยังถนนฝั่งตรงข้ามและชนเข้ากับเสาไฟฟ้า
เขากระอักเลือดออกมา ไม่รู้ว่าเป็นหรือตาย!
สรุปคือ
สำหรับนักศิลปะการต่อสู้อย่างระดับเฉินเมิ่งเฉี่ยน
การเหยียดหยามเธอเท่ากับการรนหาที่ตาย
ส่วนผลที่ตามมาหลังจากทุบตีเจียงอานไท่จนกระเด็นไปนั้น
เฉินเมิ่งเฉี่ยนไม่ได้พิจารณาเกี่ยวกับมันเลยสักนิด
ที่สำคัญที่สุดคือ
คำพูดที่เจียงอานไท่เพิ่งเอ่ย ได้แตะเข้ากับต่อมเดือดของเฉินเมิ่งเฉี่ยนไปแล้ว
ให้เย่อู๋เทียนคุกเข่าลง?
อย่างนั้น...
ใครพูดคำนี้ออกมา ก็ให้มันลงนรกไปคุกเข่าเถอะ!
แม้ว่าเจียงอานไท่ จะยังไม่ตาย
แต่ทั้งร่างของเขากลับกลายเป็นคนพิการไปแล้ว
นั่นเพราะเมื่อถูกโจมตีด้วยพลังมืดของเฉินเมิ่งเฉี่ยน นอกเสียจากเย่อู๋เทียนจะยื่นมือรักษาให้
ไม่อย่างนั้น ภายในครึ่งปี เขาจะต้องเจ็บป่วยด้วยโรคภัยต่างๆ นานา!
สิ่งที่เฉินเมิ่งเฉี่ยนทำ ได้ทำให้ทุกคนตกตะลึง
ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน
ว่าผู้หญิงอย่างเฉินเมิ่งเฉี่ยน จะน่าหวาดกลัวขนาดนี้และกล้าแม้แต่ก่ออาชญากรรมบนท้องถนน
ไม่เห็นชีวิตคนอยู่ในสายตาเลยสักนิด
ส่วนตัวเฉินเมิ่งเฉี่ยนกลับทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เธอออกจากที่เกิดเหตุทันทีและไปที่สวนสาธารณะใกล้โรงแรมว่างไห่
เธอรอคอยค่ำคืนที่จะมาถึง ที่จะได้ประกาศต่อหน้าทุกคนพร้อมๆ กับอาจารย์เจียงฉางเซิงว่า เขาเอ๋อเหมยได้เข้ารับใช้เย่อู๋เทียนแล้ว
เมื่อโล่เชียนฟานรีบมาที่ร้านขายเครื่องประดับเจียงอานไท่ ก็ถูกส่งตัวไปที่โรงพยาบาลเพื่อรับการรักษาแล้ว
โล่เชียนฟานจึงต้องไปโรงพยาบาลอีกครั้ง
เมื่อเห็นว่าเจียงอานไท่ ได้รับบาดเจ็บสาหัสและหมดสติไป โล่เชียนฟานก็ยิ้มอย่างโหดเหี้ยม
"ใครทำ?"
จ้าวลี่ ตัวสั่นอยู่ด้านหนึ่ง
“เฉินเมิ่งเฉียน ยัง ยังมีเย่อู๋เทียน!”
โล่เชียนฟานเป็นเพียงญาติฝั่งหนึ่งของตระกูลโล่เท่านั้น แม้ว่าเขาจะรู้จักเย่อู๋เทียน แต่เขาไม่รู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างเย่อู๋เทียนกับฝ่าบาทผู้สูงส่ง
โล่เชียนฟานเอ่ยเสียงเหี้ยม
“ดี หลังจากวันนี้ไป ทั้งตระกูลเฉินและเย่อู๋เทียนจะตายไร้ที่ฝังศพ!”
……
ในขณะเดียวกัน
หวงหย่าเฟย ได้กลับไปที่วิลล่าของตระกูลหวงอย่างขวัญกระเจิงแล้ว
เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดในร้านขายเครื่องประดับ
ล้วนอยู่ในสายตาเธอ
หวงหย่าเฟยกลัวแล้วจริงๆ
ตอนนี้หวงหย่าเฟยไม่มีความคาดหวังที่ตนจะแต่งงานกับตระกูลโล่อีกต่อไปแล้ว
เฉินเมิ่งเฉี่ยนที่เป็นผู้ชื่นชมเย่อู๋เทียน...
ถึงกับกล้าทำร้ายเจียงอานไท่ อย่างรุนแรง
เธอไม่รู้หรือว่าแม่ของเจียงอานไท่ มาจากตระกูลโล่แห่งตี้ตู?
เธอต้องรู้แน่
แต่เธอก็ยังทำ
ถ้าเฉินเมิ่งเฉี่ยนยังกล้าดีขนาดนั้น แล้วเย่อู๋เทียนล่ะ?
สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือ
“ยิ่งไปกว่านั้น เขาขโมยสินสอดที่ฝ่าบาทผู้สูงส่งส่งมาให้พวกเราตระกูลหวงไป ฝ่าบาทผู้สูงส่งถลกหนังเขาก็ยังถือว่าลงโทษเบาไปด้วยซ้ำ หลานคอยดูเถอะ เย่อู๋เทียนก็เป็นแค่แมลงตัวหนึ่ง แม้กระทั่งแมลงก็อาจนับไม่ได้ด้วยซ้ำ!”
หวงหย่าเฟยหายใจเข้าลึกและพยายามสงบสติอารมณ์
“ดี อย่างนั้นคืนนี้ โรงแรมว่างไห่ หนูอยากเห็นเย่อู๋เทียนมาคุกเข่าลงต่อหน้าและขอขมาหนู!”
“หนู...หนูจะแต่งหน้าเดี๋ยวนี้!”
หวงเจี้ยนเย่กล่าวด้วยรอยยิ้ม
“อย่าได้ยิ่งใหญ่เกินไป แค่แต่งตัวธรรมดาๆ ก็พอแล้ว ลูกสะใภ้ของฝ่าบาทผู้สูงส่งนั้นแค่เรียบง่าย สง่างาม และเคร่งขรึมก็พอ”
“อย่าได้เหมือนยัยเด็กไร้หัวนอนปลายเท้าเสิ่นรั่วชิงนั่น มีดีแค่เปลือกนอก หย่าเฟยของเราเป็นถึงมารดาของประเทศ ต่อให้ไม่แต่งหน้า ก็ยังงดงาม!”
หวงเจี้ยนเย่กำลังฟุ้งฝันอยู่ในสายรุ้งงดงาม
หวงหย่าเฟยนั้นมีความสุขอย่างมาก
เธอขึ้นไปชั้นบนเพื่อแต่งตัวอย่างอารมณ์ดี
เวลาหกโมงเย็น
ทุกคนในตระกูลหวงล้วนแต่งกายอย่างเป็นทางการและไปที่ โรงแรมว่างไห่ ด้วยกัน
ตระกูลอื่นก็เตรียมพร้อมเช่นกัน
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตระกูลเจียงในฐานะญาติของตระกูลโล่ในเจียงไห่ ก็ได้รับการเตรียมพร้อมอย่างเต็มที่ในโรงแรมว่างไห่
คนของตระกูลเผย ก็อยู่ที่นี่เช่นกัน
ยังมีตระกูลเฉียน
เดิมทีเฉียนจิ้งคุนต้องการจัดงานเลี้ยงที่ยิ่งใหญ่ใน โรงแรมว่างไห่ วันนี้ก็เพราะต้องการทำพิธีเคารพเฉียนเป่ยเฉินเป็นอาจารย์อย่างเป็นทางการ
แต่เมื่อรู้ว่าโรงแรมว่างไห่นั้นถูกเหมาโดยฝ่าบาทผู้สูงส่ง
ทั้งสองเมื่อได้แลกเปลี่ยนกันก็มีความสุขมาก
หลังจากหารือกันแล้วก็ได้ตัดสินใจรวมพิธีเคารพอาจารย์กับพิธีรับญาติของฝ่าบาทผู้สูงส่งเข้าด้วยกัน
หนึ่งก่อนหนึ่งหลัง
ถือว่าไว้หน้าเย่อู๋เทียนอย่างเต็มที่
ในเวลานี้เย่อู๋เทียนและเสิ่นรั่วชิงก็ปรากฏตัวขึ้นใกล้กับโรงแรมว่างไห่
คืนนี้
ไม่ว่าจะเป็นพิธีเคารพอาจารย์หรือว่าพิธีรับญาติ
ก็ล้วนไม่สำคัญ
ที่สำคัญที่สุดคือพิธีขอแต่งงาน
เย่อู๋เทียนได้เตรียมตัวสำหรับเรื่องนี้มาทั้งวัน ซึ่งคืนนี้ก็คือคืนที่เขาจะสร้างความรักโรแมนติกอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนให้กับเสิ่นรั่วชิง
โรงแรมว่างไห่อยู่ใกล้ทะเล
เมื่อตกกลางคืน ท้องฟ้าก็เต็มไปด้วยดวงดาว
เย่อู๋เทียนต้องการใช้ฉากธรรมชาตินี้ให้เสิ่นรั่วชิงได้เห็น
ฝนดาวตกอันโรแมนติก!
ดูเหมือนว่าเสิ่นรั่วชิงคล้ายจะสังเกตเห็นว่ามีบางอย่างกำลังเกิดขึ้น เธอมองไปที่เย่อู๋เทียนซึ่งอยู่ข้างๆ และถามสงสัย
“กินเป็ดย่าง ต้องแต่งตัวจริงจังขนาดนี้เลยหรือไง?”
“อย่างกับจะไปขอแต่งงาน!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบอหังการ
เรื่องนี้อะไรก็ดีหมด เสียอย่างเดียวคือไม่เข้าใจว่าทำไมเหมือนพยายามจะยัดเยียดพระเอกให้มีเมียมากกว่า1? พระเอกเก่งมีเมียคนเดียวไม่ได้?...