เมษวิ่งไปด้วยและตะโกนไปด้วยว่า “ทุกคนรีบหนีไป สุนัขตัวนี้มันดุมาก มันจะกัดทุกคนที่ขวางหน้า มันจะกัดคุณที่คอ และคุณอาจจะถูกกัดตายได้!”
“ทุกคนรีบหนีไป หนีไปสิ”
เปลวไฟพุ่งออกมาแล้วกระโดดขึ้นไปบนโต๊ะและพร้อมที่จะกัดคน
ผู้คนด้านล่างต่างหวาดกลัวกันมาก และพวกเขาพยายามหาที่ซ่อนตัวเพราะกลัวว่าจะตกเป็นเป้าหมายของเปลวไฟ
ในทันใดนั้น เปลวไฟหันมองไปที่ผู้หญิงคนหนึ่งและพุ่งเข้าไปหาเธอ แต่ผู้หญิงคนนั้นตกใจมากจนรีบดึง ‘ลูกสาว’ มาขวางอยู่ตรงหน้าแล้วตะโกนอย่างเสียงดังว่า “อย่ากัดฉันนะ กัดมันเลย กัดมันสิ”
ในช่วงเวลาแห่งความเป็นความตาย ผู้หญิงคนนี้ไม่นึกถึงอะไรเลย เธอถึงขั้นยอมสละชีวิตของ ‘ลูกสาว’ เพื่อปกป้องชีวิตของตน
และในวินาทีต่อมา
สุนัขก็งับเข้าไปที่ลูกสาวของเธอ แต่มันกัดพลาดไป แค่ฉีกเสื้อขาดไปเท่านั้น
แม้จะเป็นเช่นนี้ แต่ก็สามารถมองเห็นเคี้ยวของเปลวไฟว่ามันแหลมคมมากแค่ไหน แรงกัดมันน่ากลัวมากเพียงใด และนิสัยมันโหดเหี้ยมมากเพียงใด
เมื่อกี้ถ้ากัดเข้าไปที่ลำคอ เด็กมีหวังตายแน่นอน!
ผู้หญิงคนนั้นตกใจถอยห่างออกไปโดยทิ้ง ‘ลูกสาว’ ของเธอไว้
เปลวไฟเห่าอย่างเสียงดังอีกครั้ง และปากอันกว้างใหญ่ที่เต็มไปด้วยกลิ่นคาวของมันก็กางออก ทำให้สาวน้อยไม่กล้าเสแสร้งอีกต่อไป หากเธอแกล้งตายในตอนนี้ เธอคงต้องตายอย่างสมใจอยากแน่นอน
“อ๊ากกก!!!”
สาวน้อยกรีดร้องด้วยความตกใจ ในขณะนี้ เธอก็เหมือนกระต่ายตัวหนึ่งที่กระโดดขึ้นจากพื้นและรีบวิ่งหนีออกไป
เธอไม่เวียนหัว ไม่ชัก ไม่มีฟองที่ปากอีกแล้ว โรคภัยของเธอทั้งหมดดูเหมือนจะหายได้ในทันที และเธอก็หันหลังวิ่งออกไปด้วยความเร็วที่เร็วกว่าคนทั่วไปมาก!
มันเหมือนลมพายุที่พัดพาเธอหายไปในทันที
เมื่อมองกลับไปที่เปลวไฟ มันใช้กรงเล็บเช็ดฟันของมัน จากนั้นหันหลังเดินกลับไปราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เมษรีบอุ้มมันขึ้นมาแล้วขอโทษกับผู้คน “ต้องขอโทษทุกๆ ท่านด้วยนะครับ ผมประมาทเอง ถึงทำให้ทุกท่านต้องตกใจ ต้องขอโทษจริงๆ นะครับ”
เมื่อพูดจบ เมษก็อุ้มเปลวไฟเดินจากไป
จากนั้นเรื่องวุ่นวายก็ได้จบลง
และหลังจากที่เมษจากไป ทุกคนก็กลับมายังที่นั่งของตนและถอนหายใจด้วยความโล่งอก
“ยังบอกว่าไม่เอาเงิน ฉันว่านะ มันมาเพื่อเงินต่างหาก”
มีคนเริ่มร้องทุกข์แทนโม่ชิงฉง “ดูเหมือนว่าพวกเราเข้าใจเถ้าแก่โม่ผิดไปแล้วจริงๆ เมื่อกี้เถ้าแก่โม่บอกว่าสาวน้อยคนนั้นไม่เป็นอะไร สงสัยว่ามันจะเป็นเรื่องจริง ทุกคนเห็นมั้ย? มันวิ่งหนีเร็วยิ่งกว่ากระต่ายอีก!”
ทันใดนั้น ทุกคนก็เริ่มขอโทษโม่ชิงฉง
ทุกคนรู้สึกผิดที่ต่อว่าโม่ชิงฉงเมื่อครู่นี้
แต่โม่ชิงฉงเป็นคนใจกว้าง และไม่ได้ถือสาพวกเขา
ตามคำกล่าวที่ว่า ‘ยิ่งรัก ยิ่งเกลียด’
ก่อนหน้านี้พวกเขาเห็นอกเห็นใจต่อผู้หญิงคนนั้นมาแค่ไหน หลังจากความจริงปรากฏ พวกเขาก็จะเกลียดเธอมากเท่านั้น
จากนั้นทุกคนก็ล้อมรอบผู้หญิงคนนั้น
ซึ่งดูเหมือนว่าพวกเขาจะอัดเธอให้เละถึงจะยอมปล่อยเธอไป
และผู้หญิงคนนั้นก็รีบส่ายหัวแล้วร้องไห้อ้อนวอนขอความเมตตา “ไม่นะ ฉันก็แค่ได้ค่าจ้างมาห้าหมื่นหยวนถึงกล้าทำแบบนี้ พวกคุณอย่าทำอะไรฉันเลยนะ ถ้าจะทำ ก็ไปทำคนของตระกูลถานสิ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบท้าโลก
บทที่ 1 2 3 หาย...